Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

เครื่องเสียง (องค์ประกอบ (ภาคสัญญาณออก (output signal) (ลำโพง (ประเภท…

- - - - ส่วนประกอบ
        
        ภาคก่อนขยาย (pre-amplifier or control amplifier) ทำหน้าที่รับเฉพาะสัญญาณที่มาจากภาคสัญญาณเข้า เช่น ไมโครโฟน เครื่องเทปเสียง วิทยุ ฯลฯ เพื่อส่งไปยังภาคขยายกำลัง
        
        ภาคขยายกำลัง (power-amplifier or main-amplifier) ทำหน้าที่ขยายสัญญาณที่รับมาจากภาคก่อนขยายเพื่อทำให้มีกำลังแรงขึ้น
      - ประเภท
        
        Intregrated Amp
        
        เครื่องขยายเสียงชนิดใช้ในบ้าน (Home Use Amplifier)
        
        เครื่องขยายเสียงชนิดสะพายไหล่/มือถือ (Megaphone)
        
        แบ่งตามระบบการจัดวงจรขยายหรือคลาส (Class)
        
        Class A
        ข้อดี ของเครื่องระบบคลาสเอคือให้คุณภาพของเสียงได้ดีเหมือนธรรมชาติมากที่สุด
        ข้อเสีย ให้กำลังขยายน้อย ใช้กำลงไฟมากกว่า และมีราคาแพง
        
        Class B
        ข้อเสีย ถ้าการปรับแต่งไม่สมบูรณ์หรือวงจรขยายเสียงเกิดบกพร่องจะทำให้ลำโพง เสียหายได้ ดั้งนั้นการจัดหรือการใช้งานมักจะใช้ชุดวงจรป้องกัน
        
        Class AB
        ประสิทธิภาพของกำลังขยายจะดีกว่าคลาสเอแต่ต่ำกว่าคลาสบี แต่สัญญาณที่ ออกมายังคงมีความผิดเพี้ยนสูง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วๆไป
        
        Class C ใช้สำหรับขยายคลื่นวิทยุเท่านั้น
        
        Class D
        ข้อดี คือตัวเครื่องมีขนาดเล็กกว่าเครื่องขยายเสียงในระบบอื่นๆ ที่มีอัตราการขยาย พอๆกัน แต่มักมีราคาสูงและกินไฟมากเกือบเท่าเครื่องขยายเสียงระบบคลาสเอ
        
        Class G
        ข้อดี ลดขนาดของแหล่งจ่ายไฟและราคาลง
        ข้อเสีย ยังมีการผิดเพี้ยนของเสียงมาก ซึ่งเป็นระบบที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม
        
        Class H ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาของเครื่องขยายเสียทั่วๆไปช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นกับเอ้าท์พุททรานซิสเตอร์ และช่วยประหยัดไฟฟ้า
        
        เครื่องขยายเสียงชนิดติดรถยนต์ (Mobil Amplifier)
        
        แบ่งตามคุณภาพของเสียง
        
        ประเภทคุณภาพต่ำ (Low Fi หรือ Low Fidelity) 1,000-100Hz
        
        ประเภทคุณภาพสูง (Hi Fi หรือ Hight Fidelity) 20-20,000 Hz
        
        ประเภทสุดยอด (High End หรือ Hi-End) คุณภาพเสียงจะตรงธรรมชาติมากที่สุด
  - - - หน้าที่
        
        ทำหน้าที่เปลี่ยนคลื่นเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียง เช่น เสียงพูด เสียงเพลง ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าความถี่เสียง เพื่อส่งต่อไปยังเครื่องขยายเสียง
      - หลักการใช้
        
        เลือกไมโครโฟนให้เหมาะสมกับการใช้งาน
        
        ติดตั้งไมโครโฟนหันหน้าออกจากล าโพง เพื่อป้องกันเสียงย้อนกลับ
        
        ห้ามเคาะไมโครโฟนโดยเด็ดขาด ควรใช้เสียงพดูในการทดสอบ
        
        ผู้พูดควรอยู่ห่างไมโครโฟนประมาณ 1-2นิ้ว
        
        หากใช้นอกสถานที่ ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันเสียงรบกวน
      - ประเภท
        
        ไมโครโฟนริมปาก (Lip Microphone)
        
        ไมโครโฟนห้อยคอ (Neck Microphone)
        
        ไมโครโฟนไม่มีสาย (Wireless Microphone)
        
        ไมโครโฟนปืน (Shotgun Microphone)
        
        ไมโครโฟนจาน (Parabolic Microphone)
        
        ไมโครโฟนแบบบูม (Boom Microphone)
        
        ไมโครโฟนแบบมือถือ (Hand Microphone)
        
        ไมโครโฟนแบบตั้งโต๊ะ (Desk Microphone)
        
        ไมโครโฟนแบบซูม (Zoom Microphone)
        
        ไมโครโฟนแบบสเตอริโอ (Stereo Microphone)
        
        USB Microphone
        
        Condenser Microphones
        
        Lavalier Microphone
        
        ไมโครโฟนแบบครอบศีรษะ (Headset Microphone)
        
        True Wireless In-Ear
        
        Microphones over-the-ear, earset
        
        ไมโครโฟนที่ใช้รวมกับเครื่องขยายเสียงภายในตัว เช่น ลำโพง
      - การเก็บรักษา
        
        อย่าเก็บไมโครโฟนโดยไม่ใช้เป็นเวลานาน ๆ ควรนำออกมาใช้อยู่เสมอ
        
        ควรใช้ผ้าหรือวัสดุอ่อนนุ่มหุ้มไมโครโฟนไว้ เพื่อป้องกันการกระแทกและ ฝุ่นละออง
        
        ควรเก็บไมโครโฟนไว้ในกล่องเฉพาะภายหลังการใช้งาน
        
        ไมโครโฟนชนิดแบตเตอรี่ เมื่อใช้งานเสร็จแล้วต้องถอดแบตเตอรี่ ออกทุกครั้ง
  - - - ประเภท
        
        แบ่งตามความสามารถในการเปล่งความถี่เสียง
        
        ลำโพงเสียงทุ้มต่ำ (sub-woofer) ความถี่ต่ำกว่า50 Hz
        
        ลำโพงเสียงทุ้ม (woofer) ความถี่25-250 Hz
        
        ลำโพงเสียงกลาง (midrange) ความถี่500-5,000 Hz
        
        ลำโพงเสียงแหลม (tweeter) ความถี่5,000 Hzขึ้นไป
        
        ลำโพงฟูลเรนจ์ (Full Range) ความถี่ 50-17,000 Hz
        
        ลำโพงกรวยผสม (Multiway Loudspeaker)
        
        แบ่งตามลักษณะของการทำงานหรือ การสั่นสะเทือนของไดอะแฟรม
        
        ลำโพงชนิดไดนามิก (Dynamic Loudspeaker)
        
        ลำโพงอิเล็กโตรสติค (Eletrostatic Loudspeaker)
        
        ลำโพงริบบอน (Ribbon loudspeaker)
        
        ลำโพงไฮไฟ (Hi-Fi Loudspeaker)
        
        แบ่งตามลักษณะการใช้งาน
        
        ลำโพงตู้
        
        ลำโพงตู้ทรงสูง หรือซาวด์คอลัมน์ (Sound Column Loudspeaker)
        
        ลำโพงมอนิเตอร์ (Monitor Address Loudspeaker)
        
        ลำโพงพี.เอ (Public Address Loudspeaker)
        
        ลำโพงเครื่องดนตรี (Musical Instruments Loudspeaker)
        
        ลำโพงที่ใช้งานประเภททั่วๆไป เช่นในวิทยุ ในโทรทัศน์ และในวิทยุเทป
        
        Bluetooth Speaker, Bluetooth wireless speaker