Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมพัฒนาการทารกในครรภ์ (กิจกรรมต่างๆที่ควรทำกับลูกในขณะตั้งครรภ์…
การส่งเสริมพัฒนาการทารกในครรภ์
การกระตุ้นพัฒนาการทางสมอง
ช่วงทองที่ควรจะกระตุ้นพัฒนาลูกน้อยที่ 8 สัปดาห์ ถึง 2 ปี
ความเฉลียวฉลาดมีปัจจัยที่มาเกี่ยวข้อง 3 ประการ
กรรมพันธุ์
อาหารการกินของแม่ขณะตั้งครรภ์และของลูกภายหลังคลอด
สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเด็กทั้งขณะที่อยู่ในท้องและภายหลังคลอด
การปรับอารมณ์
คุณแม่ที่อารมณ์ดีอยู่เสมอจะทำให้ร่างกายมีการหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า เอนดอร์ฟิน (endorphin) ออกมาผ่านไปทางสายสะดือไปยังลูกทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งสมอง (IQ) และอารมณ์ (EQ)
คุณแม่ที่มีอารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความเครียดที่เรียกว่า อะดรีนาลิน (adrenalin) ออกมาผ่านไปยังลูก ผลดังกล่าวจะทำให้ลูกคลอดออกมาเด็กงอแง เลี้ยงยาก พัฒนาการช้า
กิจกรรมต่างๆที่ควรทำกับลูกในขณะตั้งครรภ์
ฟังเพลง
ระบบประสาทการรับฟังของลูกน้อยในครรภ์จะเริ่มทำงานตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน
เสียงที่ดีที่ควรใช้ในการกระตุ้นก็คือ เสียงเพลง
ควรจะเปิดเสียงเพลงให้อยู่ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต และเปิดเสียงดังพอประมาณ
คลื่นเสียงจะไปกระตุ้นให้ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินทำให้เมื่อลูกคลอดออกมา ลูกจะมีความสามารถในการจัดลำดับความคิดในสมอง
พูดคุยกับลูก
คุณแม่ควรพูดกับลูกบ่อยๆ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ประโยคซ้ำๆ เพื่อให้ลูกคุ้นเคย อย่าไปเล่าเรื่องทุกข์ใจ เพราะเดี๋ยวลูกจะเครียดเสียตั้งแต่อยู่ในท้อง
ลูบหน้าท้อง
การลูบหน้าท้องจะกระตุ้นระบบประสาทและสมองส่วนรับรู้ความรู้สึกของลูกให้มีพัฒนาการดีขึ้น
การลูบท้องควรลูบเป็นวงกลม จะจากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นบน
ส่องไฟที่หน้าท้อง
ลูกน้อยในครรภ์สามารถกระพริบตาเพื่อตอบสนองต่อแสงไฟที่กระตุ้นได้ตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 7 เดือน
การส่องไฟที่หน้าท้องจะทำให้เซลล์สมองและเส้นประสาทส่วนรับภาพและการมองเห็นมีพัฒนาดีขึ้น
ออกกำลังกาย
เวลาคุณแม่มีการออกกำลังกาย ลูกที่อยู่ในครรภ์ก็จะมีการเคลื่อนไหวตามไปด้วย และผิวกายของลูกจะไปกระแทกกับผนังด้านในของมดลูก ผลดังกล่าวจะกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสของลูกให้พัฒนาดีขึ้น
อ้างอิง
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=425
นายอนุชา เร็วไว ชั้นปีที่2 เลขที่ 154
อาหารสำหรับหญิงตั้งครรภ์
เออาร์เอ (ARA)
มีมากในอาหารพวกน้ำมันพืช เช่น น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันเม็ดทานตะวัน และน้ำมันข้างโพด
ดีเอ็ช เอ (DHA)
มีมากในอาหารปลาพวกปลาทะเลและสาหร่ายทะเล
เนื้อสมองของลูกน้อยในครรภ์มีองค์ประกอบเป็นไขมันโดยเฉพาะไขมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 60