Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีการบริหารยุคนีโอคลาสิก (NEO-Classical Theory) (แมคเกรเกอร์ (Douglas…
ทฤษฎีการบริหารยุคนีโอคลาสิก (NEO-Classical Theory)
แมคเกรเกอร์ (Douglas McGregor) เจ้าของทฤษฎีเอ็กซ์และวาย(X and Y theory) ได้วางหลักสมมติฐานเกี่ยวกับคนเป็น 2 แนวตรงกันข้ามกัน
ทฤษฎี X
มนุษย์ไม่มีความจริงใจ
มีความเกลรยดคร้าน ชอบทำงานให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลีกเลี่ยงการรับผิดชอบ
ไม่สนใจว่าบรรลุเป้าหมายหรือไม่
ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมตนเองได้
ทฤษฎี Y
มนุษย์มีความจริงใจ
ทำงานหนักเพื่อบรรลุเป้าหมาย
มีความรับผิดชอบในหน้าที่
รู้จักควบคุมพฤติกรรมตนเอง
แมคเกรเกอร์จึงเห็นว่าสมมติฐานตามทฤษฎี X จะต้องบริหารแบบเผด็จการ สมมติฐานตามทฤษฎี Y จะต้องบริหารแบบประชาธิปไตย
เอลตัน เมโย (Elton Mayo)
เป็นผู้วางรากฐานทฤษฎีมนุษยสัมพันธ์ พบว่า ผลผลิตจะเพิ่มสูงได้นั้นความสำคัญอยู่ที่ปัจจัยด้านจิตวิทยาและปัจจัยทางสังคมของผู้ทำงานไม่น้อยกว่าปัจจัยตัวงาน ผู้บริหารทุกคนจึงต้องสนใจความรู้สึกของผู้ทำงานด้วย งานจึงจะสำเร็จได้
วิลเลี่ยมกูซี่ (wiiam G. Quchi) ให้แนวคิดว่าการบริหารจะให้ผลดีกว่า ถ้าให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการตัดสินใจบริหาร ให้ความสำคัญกับกลุ่มไม่ใช่ตัวบุคคล
แนวคิดของทฤษฎีแซดเชื่อว่า
ผู้ปฏิบัติงานต่างก็มีจิตสำนึกที่ดีในด้านความผูกพันทางใจ ความรัก ความสามัคคีอยู่แล้ว
ผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่มุ่งแสวงหาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างกัน
ผู้ปฏิบัติงานจะขาดความคุ้นเคยกัน เพราะ สภาพแวดล้อมของงานที่จัดไว้ ทำให้เกิดช่องว่างของความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกโดยไม่จำเป็น
ผู้ปฏิบัติงานสามารถไว้วางใจได้ โดยทำงานไม่บกพร่อง ผู้บริหารเพียงแต่เอาใจใส่ ดูแลสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ให้ดีเท่านั้น
ผู้บริหารการพยาบาลที่มีความเชื่อตามทฤษฎีนี้ มีแนวโน้มที่จะยินยอมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือผู้ตามได้มีส่วนร่วมคิดพิจารณาและตัดสินใจในการบริหารในแต่ละสถานการณ์ การปฏิบัติงานจะอยู่ในระดับสูงขึ้น ได้ทั้งงาน และได้ทั้งใจคนไปพร้อมกัน management by objectives หรือ MBO
เชสเตอร์ บาร์นาร์ด
เป็นนักคิดของทฤษฎีการบริหารเชิงพฤติกรรมศาสตร์ ได้รับการยกย่องว่า“เป็นบิดาแห่งการบริหารเชิงพฤติกรรมศาสตร์”ด้เขียนหนังสือหน้าที่ของนักบริหาร (Function of the Executive) ในปี ค.ศ. 1938 ถือว่าเป็นหนังสือเล่มแรกที่ได้รับการนำเสนอทฤษฎีที่เกี่ยวกับพฤติกรรมความร่วมมือ (theory of cooperative behavior)
บาร์นาร์ด มีแนวคิดเกี่ยวกับองค์การไว้ว่า องค์การเป็นระบบของการร่วมแรงร่วมใจ เพื่อทำให้กิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งให้สำเร็จ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การติดต่อสื่อสาร เพื่อความเข้าใจในวัตถุประสงค์สู่แนวทางการปฏิบัติ
อับราฮัม มาสโลว์ (Abraham Maslow)
เป็นนักจิตวิทยาคิดค้นแนวคิดเรื่องลำดับขั้นของความต้องการของมนุษย์ โดยมนุษย์มีความต้องการอยู่ตลอดเวลาและไม่สิ้นสุด ความต้องการของมนุษย์จะเป็นไปตามลำดับขั้นจากต่ำไปหาสูง
ความต้องการด้านร่างกาย เช่น อาหาร ยารักษาโรค
ต้องการด้านความปลอดภัย
ต้องการทางด้านสังคม
ต้องการทางด้านการยกย่อง
ต้องการทางด้านการสมหวังในชีวิต
เฟรเดริค เฮิร์ซเบิร์ก (Frederick Herzberg) ให้ความสำคัญกับความต้องการของมนุษย์
ปัจจัยจูงใจ หรือ ปัจจัยภายใน (Intrinsic) คือ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดแรงจูงใจให้คนทำงานอย่างมีความสุข
ปัจจัยค้ำจุน (Hygiene Factors) หรือ ปัจจัยภายนอก (Extrinsic) คือ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความพอใจในการทำงาน แต่ไม่นำไปใช้ในการจูงใจ ซึ่งเป็นแนวคิดในการบริหารคนที่ปัจจุบันผู้บริหารนำมาใช้เพื่อสร้างแรงจูงใจและขวัญกำลังให้แก่องค์กร
นางสาวธัญณพร หลักม่วง เลขที่ 35
รหัส 603101035