Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักการพื้นฐานลักษณะและขอบเขตของงานการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช …
หลักการพื้นฐานลักษณะและขอบเขตของงานการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
บทบาทของพยาบาลด้านสุขภาพจิตและจิตเวช
หลักการพื้นฐานของการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
1.ความหมาของการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
สุขภาพจิตและจิตเวช (Mental Health and Mental Itness)
หมายถึงสภาวะทางจิตใจของบุคคลที่เริ่มตั้งแต่สภาวะบุคคลสามารปรับตัวให้มีความสุขกับสังคมและสิ่งแวดล้อมได้เป็นปกติไปจนถึงการเจ็บป่วยปัญหาทางจิตอันจะแสดงออกมาทั้งความคิดอารมณ์พฤติกรรมที่ผิดปกติ
การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช (Mental Health and Psychiatric Nursing)
หมายถึงหมายถึงการพยาบาลเฉพาะทางสาขาหนึ่งของการพยาบาลซึ่งเป็นศาสตร์ (Sciences) และศิลป์ (Art) โดยใช้ความรู้ทาง
ดังนั้นการพยาบาลจิตเวชจึงจัดเป็นการพยาบาลเฉพาะทางที่มุ่งเน้นให้การส่งเสริมป้องกันปัญหาสุขภาพจิตการดูแลบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพจิตของบุคคลที่มีปัญหาความคิดพฤติกรรมอารมณ์และจิตใจที่ผิดปกติหรือเจ็บป่วย
วิวัฒนาการของการพยาบาลจิตเวช 4 ระยะ
ระยะที่ 1 ดูแลแบบกักขัง(Custudial stage) เชื่อว่าโรคจิตรักษาไม่หายจึงดูแลใรลักษณะให้ทำงาน ให้ที่อยู่ เครื่องนุ่งห่ม
ระยะที่ 2 แผนการพยาบาล(Medical technical stage) เป็นระยะป่วยด้วยโรคจิตเฉพาะทางร่างกาย รักษาด้วยไฟฟ้า หรือสารเคมี ยานอนหลับ ให้ยาฉีด เช็กตัว
ระยะที่ 3 ทฤษฎีทางสังคม (Social theorg stage) ในระยะที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและสังคมได้
ระยะที่ 4 ส่งเสริมสุขภาพจิต (Nursing in community mental health) ให้บุคคลตื่นตัวในการส่งเสริทสุขภาพจิตที่ดีและใ้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูเเลผู้มีปัญหาทางจิต
คุณสมบัติของพยาบาลจิตเวช
อารมณ์เจริญเต็มที่(Emotional Maturity)
การปรับตัวได้ดี
รับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นไว(Sensitive)และมีการตระหนักรู้ในตนเอง
(Self –awareness)
ยืดหยุ่นที่จะเปลี่ยนแปลง บางสิ่งบางอย่างที่จำเป็นได้
สร้างสรรค์มีเหตุผลและมองการณ์ไกล
รักในเพื่อนมนุษย์
รักพอในงานและปฎิบัติด้วยควมเต็มใจ
เข้าใจตนเองหมั่นตรวจสอบตนเองอยู่เสมอ(Self-awareness)
9.วิเคราะห์สัมพันธ์ภาพของตนเองที่มีต่อบุคคลอื่น
ศึกษาทำความเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์และยอมรับ
มีความสม่ำเสมอต่อบุคคลอื่น
บทบาทพยาบาลจิตเวชในประเทศไทย 2 ระดับ
ระดับสูงหรือระดับผู้เชี่ยวชาญ
เป็นที่ปรึกษา - เป็นผู้ติดต่อให้ความร่วมมือ - เป็นผู้บำบัดรักษาเบื้องต้น - เป็นผู้บำบัดรักษา
เป็นผู้ฟื้นฟูสภาพผู้ป่วย - เป็นผู้ให้ความรู้ - เป็นผู้นิเทศหรือประสานวานสุขภาพจิต
ระดับพื้นฐาน
เป็นผู้จัดสิ่งแวดล้อม - เป็นเสมือนตัวแทนแม่ - เป็นผู้ให้คำปรึกษา
เป็นตัวแทนสังคม -เป็นเสมือนครู - บทบาทรักษาใช้เทคนิคเฉพาะทาง
บทบาทของพยาบาลด้านสุขภาพจิต
การพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต Psychiatric Mental Health Nursing
หมายถึง การพยาบาลเฉพาะสาขาหนึ่ง ต้องใช้ความรู้ทางทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมมนุษย์ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์และศิลปะเพื่อส่งเสริมโดยเฉพาะสุขภาพจิตของบุคคล ครอบครัว ชุมชน ให้มีสุขภาพจิตดี มีพฤตกรรมที่เหมาะสม
ไม่อิสระ (Dependent)บำบัดตามแผนการรักษาของแพทย์
กึ่งอิสระ (Interdependent)ตัดสินบนพื้นฐานความรู้ความเข้าใจ
อิสระ (Independent)ปฏิบัติการพยาบาลการบำบัดในขอบเขตวิขาขีพ
ทีมสหวิชาชีพ
-จิตแพทย์ -พยาบาลวิชาชีพ -นักจิตวิทยาคลินิค -นักสัม-คมสงเคราะห์ทางจิตเวช -นักอาชีวบำบัด -นักนันทนาารบำบัด
ลักษณะและขอบเขตงานทั่ง 4 มิติ
การส่งเสริมสุขภาพจิต(Promotion of mental Health)
การป้องกันกับปัญหาสุขภาพจิตหรือรักษาสุขภาพจิตให้ดี(Prevention or maintenanoc)
การบำบัดรักษา (Therapeutic or Resturation of mental Health) การฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabilitation of mental Health)
หมวด 2 สิทธิผู้ป่วย
มาตรา 15 ผู้ป่วยย่อมมีสิทธิ
1.ได้รับดารบำบัดรักษาตามมาตรฐานการแพทย์ 2. ได้รับการปกปิดข้อมูล 3.ได้รับความคุ้มครองจากวิจัยตาม ม.20 4. ได้รับการคุ้มครองในระบบประกันสุขภาพและสังคม
มาตรา 16 ห้ามมิผู้ใดเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ป่วยเว้นแต่
1.กรณีที่อาจเกิดอันตรายต่อผู้ป่วย 2.เพื่อความปลอดภัยของสหวิชาชีพ 3. มีกฏหมายเฉพาะบัญญัติให้เปิดเผย
มาตรา 17 บำบัดรักษาโดยการผูกมัดร่างกาย กักบริเวณจะกรทำไม่ได้ เว้นแต่เป็นความจำเป็นเพื่อการป้องกัน
มาตรา 18 การรักษาจิตเวชด้วยไฟฟ้าที่อาจทำให้ร่างกายไม่คืนสู้สภาพเดิมถาวร ทำได้ในกรณี
1. ผู้ป่วยให้ความยินยอมเป็นหนังสือ 2. กรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือมีความจำเป็น
มาตรา 19 การกระทำผู้ป่วยกระทำไม่ได้เว้นแต่ผู้ป่วยให้ความยินยอม
มาตรา 20 การวิจัยใดๆที่กระทำต่อผู้ป่วยจะทำได้ผู้ป่วยยินยอมเป็นหนังสือและต้องผ่านความเห็นของคณะกรรมการ
พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ.2551
มาตรา 3
ความผิดปกติจากจิต ความหมายว่า อาการผิดปกติของจิตใจที่แสดงอกทางพฤติกรรมทางอารมณ์ ความคิด
มาตรา 4
รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข มีอำนาจแต่งตั้ง พนักงาน เจ้าหน้าที่ ออกระเบียบและประกาศ
มาตรา 5
มีคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ มี นายกรัฐมนตรี(ประธาน) รัฐมนตรีกระทรวงสาธรณสุข(รองประธานกรรมการ) ปลัดกระทรวง(กรรมการ) ผู้แทนเอกชนเป็นนิติบุคคล 4 คน (กรรมการ) ผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คน นักฎหมาย 1 คน (กรรมการ) ข้าราชการของคกรมสุขภาพจิต < 2 คน
มาตราที่ 6
คุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม 1. สัญชาติไทย 2. อายุไม่ถึงต่ำกว่า 20 ปี 3. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ 4.ไม่เคยเป็นผู้โทษคุก 5. ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
มาตรา 7
กรรการตาม ม.5 (4)(5)ดำรงตำแหน่งครั่งละ 3 ปี จะดำรงตำแหน่งเกิน 2 วาระไม่ได้
-กรณีพ้นตำแหน่งตามวาระให้แต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ขึ้นภายใน 90 วัน
-กรณีพ้นตำแหน่งก่อนครบวาระให้แต่งตั่งกรรมการภายใน 90 วัน นับตั่งแต่วันที่ตำแหน่งว่างลง
-กรณีพ้นตำแหน่งก่อนครบวาระที่เหลืออยู่ไม่ถึง 90 วัน จะไม่แต่งตั่งกรรมการ
มาตรา 8
พ้นจากตำแหน่ง 1.ตาย 2.ลาออก 3.พฤติกรรมเสื่อมเสีย 4.ขาดคุณคุณสมบัติตาม ม.6
มาตรา 9
การประชุมต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหน้า
มาตรา 10
คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ 1. กำหนกนโยบาย มาตราการคุ้มครองสิทธิ 2. วางหลักเกณฑ์วิธีการให้คำปรึกษา 3. ตรวจสอบ ติดตาม 4.กำหนดหนังสือให้ความยินยอม 5.กำหนหน่วยงานสงเคราะห์ 6.วางระเบียบประกาศ
มาตรา 11
คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งที่ปรักษา
ม
าตรา 12
สถานบำบัดรักษาแต่ละที่ต้องมี จิตแพทย์ 1 คน แพทย์ 1 คนพยาบาลจิตเวช 1 คน นักจิตวิทยา 1 คน
มาตรา 13
คณะกรรมการสถานบำบัดรักษามีอำนาจหน้าที่ 1. ตรวจวินิจฉัย 2.พิจรณาการบำบัดรักษา
หมวดที่ 3 การบำบัดรักษาทางสุขภาพจิต
ส่วนที่ 1 ผู้ป่วย
มาตรา 21
การบำบัดรักษาจะกระทำใดต่อเมื่อผู้ป่วยอธิบายเหตุผลและได้รับความยินยอม ถ้าต้องรับผู้ป่วยไว้ในสถานพยาบาลต้องทำหนังสือลงลายมือชื่อผู้ป่วย กรณีผู้ป่วยอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ หรือขาดความสามารถในการตัดสินใจ ให้คู่สมรส บุพการี ให้เป็นผู้ยินยอม
มาตรา 22
บุคคลที่มีความผิดปกติทางจิตต้องได้รับการบำบัด 1 มีภาวะอันตราย มีความจำเป็นรักษา
มาตรา 23
ผู้ใดพบบุคคลซึ่งมีพฤติกรรมซึ่งมีความเชื่อว่าตาม ม.22ให้แจ้ง
มาตรา 24
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ให้รับแจ้งให้ดำเนินการนำตัวบุคคลไปยังสถานพยาบาล
มาตรา 25
เมื่อผู้ป่วยรับผิดชอบดูแลสถานพยาบาลที่คุมขังพบบุคคลตาม ม.22 ให้ดำเนินการส่งตัว
มาตรา 29
เมื่อสถานบำบัดรักษารับบุคคลที่พนักงานเจ้าหน้าที่นำส่งให้คณะการตรวจวินิจฉัยภายใน 30 วัน
มาตรา 31
ระหว่างบำบัดรักษาเมื่อแพทย์เห็นว่าผู้ป่วยหายดี ให้แพทย์แจ้งจำหน่ายผู้ป่วย
มาตรา 33
กรณีผู้ป่วยหลบหนีออกจากสถานให้พนักงานเจ้าหน้าประสานกับพนักงานฝ่ายปกครอง ญาติ เพื่อติดตามบุคคลนั้นกลับมา
มาตรา 34
คณะกรรมการมีอำนาจส่งย้ายผู้ป่วยไปบำบัดรักษาอื่นได้ตามระเบียบ ที่คณะกรรมการกำหนด
มาตรา 30
คำสั่งรับผู้ป่วยไว้บำบัดตาม ม.29 ให้คณะกรรมการ กำหนดวิธีและระยะเวลารักษาต้องไม่เกิน 90 วัน
ส่วนที่ 2 ผู้ป่วยคดี
มาตรา 33
ให้จิตแพทย์ผู้บำบัดรักษารายงานผลการบำบัดรักษาและความคิดเห็นต่อศาลภายใน 90 วัน
มาตรา 38
เมื่อจิตแพทย์เห็นว่าผู้ป่วยคดีได้รับการรักษาบำบัดทางจิตแล้วให้จิตแพทย์รายงานและเพื่อจำหน่ายผู้ป่วยคดีออก
มาตรา 36
การบำบัดรักษาไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องหาจนกว่าผู้ต้องหาจะสามารถสู้คดีให้ เว้นแต่ศาลมีคำสั่งให้เป็นอย่างอื่นให้จิตแพทย์ทำรายงานผลส่งให้พนักงานสอบสวนภายใน 180 วัน หากผู้ต้องหาหายแล้วให้รายงานผลบำบัดการรักษา
มาตรา 35
ให้พนักงานสอบสวนหรือศาลส่งผู้ต้องหาไปรับการตรวจที่สถานที่การบำบัดรักษาให้จิตแพทย์ตรวจทำความไม่เกิน 45 วัน
ส่วนที่ 3 การฟื้นฟูสมรรถภาพ
มาตรา 40
กรณีที่คณะกรรมการ สถานบำบัดรักษามีคำสั่งศาล ม.29 (2) ให้สถานบำบัดรักษามีหน้าที่ดังต่อไปนี้
1.แจ้งให้ผู้รับดูแลผู้ป่วยรับต่อผู้ป่วยไปดูแล
2.ไม่มีผู้รับดูแลแจ้งหน่วยงานด้านสงเคราะห์ สวัสดิการรัฐและเอกชน
แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ดูแลช่วยเหลือ แจ้งรายงานคณะกรรมการการบำบัดรักษา
มาตรา 41
เมื่อผู้ถูกคุมขังได้รับการบำบัดรักษาในระหว่างถูกคุมขังจึงกำหนดปล่อยตัวให้ที่คุมขังตาม ม.40
ส่วนที่ 4 การอุทรณ์
ม
าตรา 42
ในกรณีที่คณะกรรมการสถานบำบัดรักษา มีคำสั่งตาม ม.(29) ให้คณะกรรมการอุทรณ์ให้เสร็จภายใน 30 วัน
มาตรา 43
ให้มีคณะกรรมการอุทรณ์ 1. อธิบดีเป็นประธานกรรมการ 2. ผู้แทนองค์กรภาคเอกชนเป็นนิติบุคคล 3.ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน
มาตรา 44
คณะกรรการอุทรณ์มีอำนาจหน้าที่ 1.พิจารณาตาม ม.42 2.รายงานผลให้คณะการทราบอย่างน้อยปีละครั่ง
หมวดที่ 5 พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา 46
พนักงานเจ้าน้าที่มีอำนาจ 1.เข้าไปสถานเพื่อนำบุคคลตาม ม.22 ไปรับการบำบัด 2.ซักถามบุคคลใดๆ 3.มัหนังสือสอบถาม
มาตรา 47
ในการปฎิบัติหน้าที่ต้องแสดงปฎิบัตรประจำตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง
มาตรา 48
ในการปฎิบัติหน้าที่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกตามต้องการ
มาตรา 49
ในการปฎิบัติหน้าที่พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานตามกฎหมายอาญา
หมวดที่ 6 บทกำหนดโทษ
มาตรา 50
ผู้ใดฝ่าผืน ม.16 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีมัดจำไม่เกิน 20000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 51
ผู้ใดแจ้งความอันเป็นเม็จจำคุกไม่เกิน 1 ปี ไม่เกิน 20000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 52
ผู้ใดไม่ปฎิบัติตามหนังสือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทเฉพาะกาล
มาตรา 54
ให้คณะกรรมการตาม ม.5(1)(2)(3) และอธิบดีปฎิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนไม่เกิน 120 วัน นับตั้งแต่วันพระราชบัญญัติใช้บังคับ
การคุ้มครองสิทฺผู้ป่วยจิตเวช
1.ความยินยอมที่ได้รับการบอกกล่าว
การปกปิดข้อมูลการเจ็บป่วยไว้เป็นความลับ
3.สิทธิจะได้รับการรักษาตามมาตรฐานการรักษาทางการแพทย์
4.กาวิจัยทางคลินิค
นางสาวรุ่งนภา อินทร์ทิม 611001041