Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ANC
หญิงตั้งครรภ์ อายุ 37 ปี G2P1001 GA 20 wks (LAB (ผลตรวจเลือด…
-
-
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลข้อที่ 2 หญิงตั้งครรภ์วิตกกังวลกลัวอันตราย
ต่อตนเองและบุตร เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์อายุมาก และผลเลือด
เป็น Rh Negative
-
-
-
เกณฑ์การประเมินผล
- หญิงตั้งครรภ์มีสีหน้าสดชื่นขึ้น
- หญิงตั้งครรภ์มีความเข้าใจสามารถอธิบายให้ฟังได้
- ประเมินความเครียดคะแนนน้อยกว่า 8 คะแนน
การประเมินผล
- หญิงตั้งครรภ์มีสีหน้าสดชื่นขึ้น
- หญิงตั้งครรภ์มีความเข้าใจสามารถอธิบายให้ฟังได้
- ประเมินความเครียดได้ 10 คะแนน
กิจกรรมการพยาบาล
- แสดงความเป็นมิตร ปลอบโยนหญิงตั้งครรภ์เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์รู้สึก
อบอุ่น คลายความกลัว และความวิตกกังวลมั่นใจว่ามีคนคอยดูแล
ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ
- ซักถามและเปิดโอกาสให้หญิงตั้งครรภ์ได้เล่าถึงสาเหตุของความกลัว และความวิตกกังวลเพื่อให้ได้ระบายความรู้สึก ร่วมแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลและความกลัว
- อธิบายให้ทราบถึงความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์
ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุมาก และแนวทางการรักษาพยาบาล
พร้อมทั้งสังเกตประเมินความสนใจ และการยอมรับของหญิงตั้งครรภ์
เพื่อให้ได้ทราบข้อมูล ซึ่งช่วยลดความวิตกกังวลในสิ่งที่ไม่ทราบ
และเข้าใจเหตุผลของการรักษาพยาบาลที่ได้รับเพื่อให้เกิดความร่วมมือ
ด้วยความเต็มใจโดยให้สามีและญาติมีส่วนร่วมในการดูแลหญิงตั้งครรภ์
- อธิบายถึงความจำเป็นในการตรวจคัดกรอง และวินิจฉัยความผิดปกติของโครโมโซมของทารกในครรภ์ เช่น อัลตร้าซาวด์ตรวจดูความผิดปกติของทารกในครรภ์ การเจาะน้ำคร่ำตั้งแต่อายุครรภ์ 16-18 สัปดาห์ การเจาะเลือดจากสายสะดือของทารกตั้งแต่อายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป การตรวจชิ้นเนื้อรกตั้งแต่อายุครรภ์ 10-14 สัปดาห์ การตรวจ Triple screen test or quadruple screen test ตั้งแต่อายุครรภ์ 15-22 สัปดาห์ การตรวจNoninvasive prenatal testing (NIPT) เป็นต้น โดยต้องให้คำแนะนำรายละเอียดถึงข้อดีข้อเสียของการตรวจต่างๆ ก่อนทำการตรวจทุกครั้ง
- อธิบายถึงความจำเป็นในการตรวจคัดกรองหาโรคเบาหวานที่เกิด
ขณะตั้งครรภ์ (gestation Diabetes) จากภาวะแทรกซ้อนของ
หญิงตั้งครรภ์อายุมาก ซึ่งจะเจาะเลือดหญิงตั้งครรภ์เพื่อตรวจ
ระดับน้ำตาลในเลือดในช่วงตั้งครรภ์ระยะแรก
และตรวจซ้ำอีกครั้งเมื่ออายุครรภ์ 24 ถึง 28 สัปดาห์
- อธิบายถึงความจำเป็นในการตรวจคัดกรองภาวะเสี่ยงต่อ
การเกิดโรคครรภ์เป็นพิษระหว่างตั้งครรภ์ (Toxemia of Pregnancy)
จากภาวะแทรกซ้อนของหญิงตั้งครรภ์อายุมาก โดยแพทย์จะตรวจ
วัดลักษณะของการไหลเวียนเลือดที่มีเลี้ยงเส้นเลือดแดงที่มา
เลี้ยงมดลูกในช่วงอายุครรภ์ 12 ถึง 24 สัปดาห์ (Blood flow study
of the uterine arteries) ซึ่งมีการศึกษาพบว่าในหญิงตั้งครรภ์
ที่มีลักษณะการไหลเวียนเลือดผิดปกติในเส้นเลือดที่มาเลี้ยงมดลูก
ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้ จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคครรภ์เป็นพิษ
- แนะนำหญิงตั้งครรภ์เพื่อลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของ
หญิงตั้งครรภ์อายุมาก ดังนี้
- แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีแคลอรี่อย่างเพียงพอกับความต้องการ
ของร่างกาย ปริมาณแคลอรี่ที่ต้องการในแต่ละวันในหญิงตั้งครรภ์
รายนี้ควรได้รับคือ 30-35 กิโลแคลอรี่ต่อกิโลกรัม และน้ำหนัก
ตัวที่ควรเพิ่มขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ 11-16 กิโลกรัม
ควรควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินกว่ามาตรฐานตลอดการตั้งครรภ์
- แนะนำให้ได้รับกรดโฟลิค (Folic acid) อย่างเพียงพออย่างน้อยวันละ 400 ไมโครกรัม โดยสารนี้จะมีมากในผักใบเขียว ถั่ว ตับ เป็นต้น
- แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ วิธีที่สะดวกที่สุดคือ การเดินต่อเนื่องครั้งละ 15 ถึง 30 นาที อาทิตย์ละอย่างน้อย 3 ถึง
4 ครั้ง หรือการว่ายน้ำ เป็นต้น
- งดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน งดแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
โดยเด็ดขาด ถ้างดกาแฟไม่ได้ควรไม่เกิน 300 มิลลิกรัม หรือ
ประมาณ ½ ถ้วย
- แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงภาวะเครียด การทำงานหนัก และการเดินทางไกล
- อธิบายให้หญิงตั้งครรภ์ทราบเกี่ยวกับสาเหตุ ความเสี่ยง ผลกระทบ และแนวทางการป้องกันจากหมู่เลือด Rh negative โดยมีแนวทางการปฏิบัติดังนี้
8.1. หลังจากการตรวจพบเลือด Rh negative และ IAT หรือ Antibody screening negative ในหญิงตั้งครรภ์ และพบ Rh positive ในสามี ให้ส่งพบแพทย์เพื่อวางแผนการรับยา Rh-immunoglobulin
8.2. แนะนำการมาพบแพทย์เพื่อฉีด Rh-immunoglobulin ซึ่งเป็นสารต่อต้าน Rh+ ในปริมาณ 300 µg เข้ากล้ามเนื้อ เมื่ออายุครรภ์ 28 สัปดาห์ และให้อีกครั้งหลังจากคลอด 72 ชั่วโมง
8.3. ลดความกังวลเกี่ยวกับการคลอดโดยมีการเตรียมพร้อมในการจัดหา
เลือดที่ปลอดภัย และเหมาะสมให้หญิงตั้งครรภ์ด้วย เพราะอาจ
เกิดปัญหา เช่น การตกเลือดทั้งก่อนคลอดและหลังคลอด
ทำให้มารดาต้องได้รับเลือด
- ประเมินความเครียดในหญิงตั้งครรภ์ทุกครั้งที่มาพบแพทย์และแนะนำ
การลดความวิตกกังวลและช่วยให้หญิงตั้งครรภ์สามารถปรับตัวได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ ดังนี้
- การสร้างจินตนาการ เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจร่วมกับ
การผ่อนคลายทำให้เกิดการลดความวิตกกังวล ขณะที่
หญิงตั้งครรภ์ผ่อนคลายจะสร้างจินตนาการไปยังภาพหรือสถานที่
ที่สร้างขึ้นโดยความคิดขึ้นมาทดแทน โดยการสร้างจินตภาพนี้
จะกระตุ้นการทำงานที่สมองซีกขวาให้มีการใช้ความคิดให้เห็นภาพ
- การทำงานอดิเรกที่ทำแล้วเกิดความสบายใจ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง
ปลูกต้นไม้ ซึ่งงานอดิเรกเหล่านี้จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจทำให้
ลดความวิตกกังวล
- การฝึกสมาธิ มีองค์ประกอบ 4 อย่าง คือ 1.สถานที่
2.สิ่งแวดล้อมเงียบสงบ 3. มีจิตใจยอมรับ 4. ท่าที่สบายและ
สามารถเพ่งจิตไปยังจุดใดจุดหนึ่งได้ ไม่ฟุ้งซ่าน ซึ่งการ
ฝึกสมาธิสามารถช่วยให้มีการผ่อนคลายของร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ
- การฝึกการผ่อนคลาย เป็นการฝึกการหายใจเข้าออกลึกๆยาวๆ ทำให้
กล้ามเนื้อแต่ละส่วนของร่างกายที่มีความตึงเครียดให้ผ่อนคลาย
โดยเริ่มจากศีรษะจนถึงนิ้วเท้า หลังจากนั้นร่างกายทุกส่วน
จะเกิดการผ่อนคลายขึ้นพร้อมๆกัน
- การนวดคลายเครียด โดยการนวดนั้นจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ลดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งสบายตัว และลดความวิตกกังวล
- แนะนำการปฏิบัติตนขณะตั้งครรภ์ทั้งด้านโภชนาการ การปฏิบัติตนกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายขณะตั้งครรภ์ การสังเกตอาการผิดปกติที่ควรรีบมาโรงพยาบาล
- สอนและเน้นให้หญิงตั้งครรภ์เห็นถึงความสำคัญของการสังเกตการณ์
ดิ้นของทารกในครรภ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินสุขภาพของ
ทารกในครรภ์ เพื่อส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุมากและ
ทารกในครรภ์ปลอดภัย
- แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์เห็นความสำคัญของการมาตรวจตามนัด
เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาพยาบาลได้อย่างเหมาะสม
เพื่อความปลอดภัยของหญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ โดยตั้งแต่
อายุครรภ์ปัจจุบันคือ 20 สัปดาห์ถึงอายุครรภ์ 28 สัปดาห์
นัดตรวจทุก 4 สัปดาห์ อายุครรภ์ 29-31สัปดาห์ นัดตรวจทุก
2 สัปดาห์ และอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ขึ้นไปนัดตรวจทุกสัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อน
ด้านมารดา
- เพิ่มโอกาสพบโรคแทรกซ้อนแอบแฝงทางอายุรศาสตร์ (underlying medicaldisease) ได้มากกว่าหญิงตั้งครรภ์ที่อายุน้อย เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน
- เพิ่มโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนทางสูติศาสตร์ได้มากขึ้น ดังนี้
ไตรมาสที่ 1 : ภาวะแท้งบุตร, ท้องนอกมดลูก
ไตรมาสที่ 2 : ภาวะตกเลือดก่อนคลอด, ถุงน้ำแตกก่อนกำหนด, PIH ภาวะเบาหวานในระหว่างตั้งครรภ์
ไตรมาสที่ 3 : ภาวะน้ำคร่ำน้อย
- เพิ่มโอกาสในการทำสูติศาสตร์หัตถการ
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด และความผิดปกติของรก
- อัตราการตายของหญิงตั้งครรภ์ในช่วงอายุ 35 – 39 ปี สูงกว่าช่วงอายุ 20 – 24 ปี ถึง 4 เท่า
ด้านทารก
- เสี่ยงต่อการคลอดบุตรก่อนกำหนด
- เสี่ยงที่เด็กในครรภ์จะเกิดภาวะ
เจริญเติบโตช้าและคลอดน้ำหนักน้อย
- เด็กในครรภ์ตัวโต (macrosomia)
และคลอดไหล่ยาก
- เกิดความผิดปกติทางโครโมโซม
โดยเฉพาะกลุ่มอาการดาวน์
- ทารกตายในครรภ์
-
-
-
แบบประเมินความเครียด = 10 คะแนน
(ตั้งแต่ 8 คะแนนขึ้นไป หมายถึงความเครียดสูงในระดับที่อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น ปวดหัว ปวดหลัง นอนไม่หลับ ควรขอรับคำปรึกษาจากบุคลากรสาธารณสุขเพื่อดูแลจิตใจหรือได้รับการส่งต่อเพื่อการรักษาต่อไป)
-