Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตกเลือดหลังคลอด (Postpartum hemorrhage) (สาเหตุของการตกเลือดหลังคลอดใ…
การตกเลือดหลังคลอด
(Postpartum hemorrhage)
สาเหตุของการตกเลือดหลังคลอดในระยะหลัง
เศษรกหรือเยื่อหุ้มทารกค้าง อาจเกิดจากเศษชิ้นส่วนของเนื้อรก รกน้อย
มดลูกเข้าอู่ช้า อาจมีอาการอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูกร่วมด้วย อาการมักเกิดภายหลังคลอดไปแล้ว 5 สัปดาห์
ภาวะติดเชื้อในโพรงมดลูก
เลือดออกจากแผลในช่องทางคลอด เกิดขึ้นได้จากการอักเสบติดเชื้อในช่องทางคลอดทeให้เกิดการลุกลามออกไปจนถึงบริเวณหลอดเลือด
สาเหตุอื่นๆ เช่น ครรภ์ไข่ปลาอุก เนื้องอกของตัวมดลูก เป็นต้น
อาการและอาการแสดงของการตกเลือดหลังคลอด
มีเลือดออกทางช่องคลอด
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
ลักษณะน้ำคาวปลา การติดเชื้อในโพรงมดลูก น้ำคาวปลาจะเหม็น
อาการปวดท้องน้อย พบได้ในรายที่มีภาวะมดลูกปลิ้น
ผลกระทบของการตกเลือดหลังคลอด
ระบบการไหลเวียนเลือดลดลง การตกเลือดหลังคลอดอย่างรุนแรง
ร่างกายขาดออกซิเจน
ภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับสารน้ำหรือเลือด
ปัสสาวะลำบาก/ปัสสาวะไม่ออก
ผลกระทบระยะยาว กรณีที่มีการเสียเลือดเป็นจำนวนมากและระยะเวลายาวนานอาจเกิดภาวะโลหิตจาง อ่อนเพลีย
ชีแฮนซินโดรม (Sheehan’s Syndrome)
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
มีภาวะตกเลือดในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด
มารดาหลังคลอดที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
มีประวัติเป็นเบาหวานตั้งแต่อายุน้อยซึ่งเกิดพยาธิสภาพที่หลอดเลือด
อาการและอาการแสดง
มีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
ต่อมใต้สมองไม่สามารถผลิตฮอร์โมน FSH
ขาดไทรอยด์ฮอร์โมน
การทำงานของต่อมหมวกไตผิดปกติ
การประเมินและการวินิจฉัยภาวะตกเลือดหลังคลอด
การซักประวัติเพื่อค้นหาข้อมูลปัจจัยเสี่ยงต่อการตกเลือด จัดการความเสี่ยงต่างๆ และให้การดูแลแก้ไข ปัญหาต่างๆ
1.1. การประเมินในระยะแรกรับ การประเมินปัจจัยเสี่ยงระดับปานกลาง ได้แก่ เคยผ่าตัดมดลูกหรือผ่าตัดคลอด (prior uterine surgery or C/S) ตั้งครรภ์หลายครั้ง (multiple gestation)เคยคลอดทางช่องคลอดมากกว่า4 ครั้ง (> 4 prior births)
1.2 การประเมินในระยะคลอด ปัจจัยเสี่ยงระดับปานกลาง
1 .3 การประเมินปัจจัยเสี่ยงต่อการตกเลือดในมารดาหลังคลอด
การตรวจร่างกาย
2.1 คาดคะเนปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอดภายหลังทารกคลอด
2.2 สังเกตอาการแสดงของการเสียเลือด
2.3 ตรวจการหดรัดตัวของมดลูก และการฉีกขาดของช่องคลอด
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เพื่อหาความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด ภาวะซีด เช่น
CBC, PT, PTT, platelets count, fibrinogen concentration
แนวทางการรักษาภาวะตกเลือดหลังคลอด
ขั้นตอนที่ 1 การประเมินและรักษาขั้นต้น
1.1 การกู้ชีพเบื้องต้น
1.1.1 ให้สารน้ าทางหลอดเลือดดำด้วยเข็มเบอร์ใหญ่
1.1.2 ให้สารน้ าชนิด crystalloid
1.1.3 ให้ออกซิเจน
1.1.4 ตรวจติดตามสัญญาณชีพ และใส่สายสวนปัสสาวะเพื่อติดตามปริมาณของปัสสาวะ
1.2 การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
1.2.1 ส่งตรวจ CBC, Platelets, PT, PTT ถ้าการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ให้ตรวจ fibrinogen, D-dimer, blood smear
1.2.2 เตรียมจองเลือด (cross match) ตามปริมาณการเสียเลือด
1.3 การประเมินสาเหตุ (4T’s)
1.3.1 การหดรัดตัวของมดลูก (uterine tone)
1.3.2 การตรวจรก (placental tissue)
1.3.3 บาดเจ็บของช่องทางคลอดและแยกภาวะมดลูกแตก (genital tract trauma)
1.3.4 การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ (abnormal thrombin clotting time)
ขั้นตอนที่ 2: การดูแลรักษาตามสาเหตุหลัก (4T’s)
จะกล่าวถึงกรณีที่เป็นสาเหตุท าให้เกิดการตกเลือดระยะหลังมากที่สุด คือ รกไม่คลอด /คลอดไม่ครบ (placental tissue) 1. กรณีรกยังไม่คลอด แพทย์จะท าการล้วงรก 2. กรณีรกคลอดแล้ว
ขั้นตอนที่ 3: กรณีไม่ตอบสนองต่อการรักษาเบื้องต้น
3.1 ขอความช่วยเหลือ(กรณีอยู่โรงพยาบาลชุมชน/โรงพยาบาลที่มีขีดจำกัด)
3.2 ปฏิบัติการกู้ชีพ
ตัวอย่างข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอด
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพ ทุก 4 ชั่วโมง
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกและระดับยอดมดลูกทุก 30 นาที ในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังรับย้ายจากห้องคลอด
สังเกตเลือดที่ออกทางช่องคลอดหรือแผลฝีเย็บจากผ้าอนามัย ชั่งผ้าอนามัยและบันทึกทุก 30 นาที - 1 ชั่วโมง ในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังรับย้ายจากห้องคลอด
4 . ให้สารน้ำที่มียากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกอย่างต่อเนื่องในอัตราหยด100-120 มิลลิลิตร/ชั่วโมง ต่อไปอีกจนครบ 12-18 ชั่วโมงหลังคลอด
ประเมินกระเพาะปัสสาวะและกระตุ้นมารดาให้ปัสสาวะเอง
ทุก 4-6 ชั่วโมง
ในรายที่ไม่มีข้อห้ามในการให้นมแม่นำทารกมากระตุ้นให้ดูดนมม รดาโดยเร็วเพื่อช่วยกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
ดูแลให้รับประทานอาหาร และพักผ่อนอย่างเพียงพอ
ห ากพบ ว่ามีเลือดออกท างช่องคลอดอย่ างต่อเนื่อง (active bleeding per vagina) ให้เฝ้าระวังอาการแสดงของภาวะช็อกจากการเสียเลือด (hypovolemicshock)
หากพบว่ามีอาการแสดงของ hypovolemic shock แก้ไขภาวะช็อกโดยจัดท่านอนราบศีรษะต่ำและให้ออกซิเจน mask with bag 8 - 10 ลิตรต่อนาที
การตกเลือด 2 ระยะ
การตกเลือดหลังคลอดในระยะแรก (early or immediate or primary postpartumhemorrhage) เกิดภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
การตกเลือดหลังคลอดในระยะหลัง (late or secondary postpartum hemorrhage) เกิดหลังคลอด 24 ชั่วโมงไปจนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด
กรณีที่มีเศษรกค้างหรือเยื่อหุ้มทารกค้างในโพรงมดลูก
1) เตรียมอุปกรณ์ใช้เพื่อขูดมดลูก
2) เตรียมมารดาหลังคลอดเพื่อขูดมดลูก
3) ดูแลให้ได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกตามแผนการรักษา
4) กรณีเป็นการตกเลือดระยะหลัง มักมีการติดเชื้อ แพทย์จะรักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย