Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การคุมกำเนิด 1 (แผ่นแปะคุมกำเนิด น.ส.อินทิราภรณ์ แม่นดาว น.ส.คณินนุช …
การคุมกำเนิด
การคุมกำเนิดแบบถาวร น.ส.จิณณภัส บุษบง น.ส.ภนิชดา แผนสนิท น.ส.วริศรา ผิวคำ นายบวร เลิศปีติโกวิท
การทำหมันหญิง
วิธีการทำหมันหญิง การทำหมันหญิงที่ทำกันโดยทั่วไป คือ การทำให้ปีก มดลูกตันทั้ง 2 ข้าง เพื่อตัดทางที่เชื้ออสุจิจะพบกับไข่ ซึ่งการที่จะเข้าไปทำได้ก็มักต้องผ่านเข้าไปในช่องท้อง
การผ่าตัดทำหมันจึงอาจแยกได้เป็น 2 ตอน คือ วิธีผ่านเข้าไปถึงปีกมดลูก และวิธีทำให้ปีกมดลูกตัน
ผ่านเข้าทางหน้าท้อง (abdominal approach)
การใช้กล้องส่องผ่านเข้าทางหน้าท้อง (laparoscopy) โดยใช้กล้องเล็กๆ ขนาดโตกว่าดินสอดำ ไม่มากนัก สอดผ่านหน้าท้องบริเวณล่างของสะดือ (หรือบริเวณใกล้เคียง) เข้าไปส่องดูปีกมดลูกและสอด เครื่องมือที่จะทำให้ปีกมดลูกตันเข้าไปทางกล้องนี้ หรือ เจาะผ่านทางหน้าท้องอีกรูหนึ่ง วิธีนี้นิยมทำในการทำ หมันแห้ง แผลที่เกิดจากวิธีนี้เป็นเพียงแผลเล็กๆเกือบ มองไม่เห็น
การผ่าท้อง (laparotomy) ซึ่งหากเป็น ระยะหลังคลอด ก็จะทำได้โดยเปิดหน้าท้องเป็นแผล แคบๆ ประมาณ ๒-๓ เซนติเมตร ต่ำกว่าระดับสะดือ เล็กน้อย เพราะมดลูกหลังคลอดใหม่ๆ ยังมีขนาดใหญ่
ผ่านเข้าทางช่องคลอด (vaginal approach)
ก. การเปิดแผลเล็กๆ ที่บริเวณตอนบน ของช่องคลอด (colpotomy) ซึ่งแผลนี้จะเปิดติดต่อกับ ช่องท้อง และสามารถใส่เครื่องมือเข้าไปจับปีกมดลูก ดึงออกมาเพื่อทำให้ตันได้
ข. การใช้กล้องส่องผ่านเข้าทางตอนบน ของช่องคลอด (culdoscopy)
การทำให้ปีกมดลูกตัน อาจทำได้โดย
การผูกหรือตัดปีกมดลูกด้วยวิธีต่างๆ ซึ่งจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดในที่นี้
โดยการจี้ด้วยไฟฟ้า ซึ่งมีเทคนิคปลีกย่อย หลายวิธีเช่นเดียวกั
โดยการใช้คลิปหนีบ หรือใช้ห่วงรัดปีกมด ลูก ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาหรือใช้ห่วงรัดปีกมด ลูก ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษา เป็นวิธีที่ทางแพทย์ คาดว่าจะดีมากวิธีหนึ่ง และได้เริ่มใช้แล้วในบางประเทศ
วิธีอื่นๆ ซึ่งอยู่ในระหว่างทดลอง เช่น การ ใช้สารเคมี
ข้อบ่งชี้ในการทำหมัน
จะทำหมันในรายที่มีบุตรเพียงพอแล้ว และเกิดจากการตัดสินใจร่วมกันทั้งสามีและภรรยา
สำหรับผู้ที่อายุน้อยและลูกยังไม่โตก่อนทำต้องคิดใคร่ครวญให้ดีก่อน
ประมาณครึ่งหนึ่งที่แก้หมันจะมีบุตรได้
โรคแทรกซ้อนของการทำหมันหญิง
เลือดออกในช่องท้อง
อวัยวะภายในได้รับอุบัติเหตุ
การติดเชื้อ
แพ้ยา
ผลข้างเคียงอื่นคือ ปอดบวม โรคแทรกซ้อนทางหัวใจ
ผลข้างเคียงของการทำหมันหญิง
ตั้งครรภ์นอกมดลูก
ตั้งครรภ์หลังทำหมันเนื่องจากท่อรังไข่มีทางติดต่อกัน
การปฏิบัติตัวหลังทำหมัน
กรณีผ่าตัดทำหมันหลังคลอด การปฏิบัติตัวจะไม่แตกต่างไปจากคนไข้หลังคลอดทั่วไป คือ ควรระวังอย่าให้แผลถูกน้ำและอย่าทำงานหรือยกของหนักๆ ส่วนคนที่ทำหมันแห้งนั้นจะรู้สึกเป็นปกติในวันรุ่งขึ้นและส่วนใหญ่จะสามารถทำงานเบาๆ ได้ตามปกติ ยกเว้นคนที่ทำงานหนัก เช่น แบกหาม ยกของหนักๆ อาจต้องหยุดพักงานประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ต้องระวังอย่าให้แผลถูกน้ำประมาณ 7 วันหรือจนกว่าจะตัดไหมแล้ว
การทำหมัน
การทำหมันสามารถทำได้ทั้งหมันชาย และหมันหญิง ซึ่งหากต้องการตั้งครรภ์ก็สามารถต่อได้แต่ผลยังไม่ประกันความสำเร็จ
ข้อเสีย
เป็นการคุมกำเนิดถาวร
การทำหมันวิธีนี้เป็นการผ่าตัดดังนั้นอาจจะเกิดโรคแทรกซ้อนจากการผ่าตัด เช่นแผลติดเชื้อ เลือดออก
ข้อดี
ไม่ต้องรับประทานยาฮอร์โมน
ไม่การตัดอวัยวะ ดังนั้นการทำงานของระบบฮอร์โมนยังปกติ
หลักเกณฑ์ในการทำหมัน
๔. เหตุผลทางแพทย์หรือพันธุกรรม ในราย ที่มีเหตุผลทางแพทย์หรือพันธุกรรม ไม่จำเป็นต้อง คำนึงถึงกฎเกณฑ์ทั้ง ๓ ข้อที่กล่าวมาแล้ว
๓. อายุของภรรยาหรือหญิงที่จะทำหมัน มี หลายประเทศกำหนดอายุขั้นต่ำไว้ด้วย แต่ในประเทศไทยถือว่า ถ้ามีจำนวนลูกตามเกณฑ์แล้ว ก็ไม่จำเป็น ต้องคำนึงถึงอายุ
๒. จำนวนลูกที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนมากมักถือ จำนวน ๒-๓ คนเป็นเกณฑ์บางแห่ง เช่น โรงพยาบาล ศิริราชถือจำนวนลูก ๓ คน สำหรับผู้ที่จะทำหมันหลัง คลอดใหม่ (รวมคนที่คลอดใหม่ด้วย) ส่วนการทำหมัน แห้งจะอนุญาตให้ทำได้เมื่อมีลูกแล้ว ๒ คน และลูก คนที่ ๒ อายุไม่ต่ำกว่า ๑ ปี ทั้งนี้เพราะระยะขวบปีแรก เป็นระยะที่อัตราการตายของเด็กยังสูง
๑.คู่สามีภรรยายินยอมและลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องมีข้อยกเว้น เช่น สำหรับหญิงที่ไม่มีสามีเป็นตัวเป็นตนแน่นอน
การทำหมันชาย
การปฏิบัติตัวหลังทำหมันชาย
ห้ามมิให้แผลผ่าตัดถูกน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน
เว้นการยกของหนัก หรือการออกกำลังกายอย่างหนักหลังผ่าตัดอย่างน้อย 24-48 ชม.
ใส่กางเกงในที่รัดเพื่อลดอาการปวด
งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 7 วันและให้สวมถุงยางคุมกำเนิด
ให้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นจนตรวจไม่พบตัวอสุจิ
โรคแทรกซ้อน
ติดเชื้อที่ผิวหนัง
จ้ำเลือดตรงบริเวณผ่าตัด
ปวดอัณฑะ
ก้อนในถุงอัณฑะเนื่องจากมีการรั่วของเชื้อ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำหมันชาย
๑. มีผู้เกรงไปว่า การทำหมันชายจะทำให้ ฮอร์โมนเพศชายลดต่ำลง แต่จากการศึกษาพบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง
๒. มีผู้เข้าใจว่า การทำหมันชายจะทำให้ สมรรถภาพทางเพศหรือความรู้สึกทางเพศเปลี่ยนแปลง ความจริงการทำหมันไม่มีผลโดยตรงต่อสมรรถภาพ หรือความรู้สึกทางเพศเลย นอกจากจะมีผลทางด้านจิตใจ เช่น เมื่อแน่ใจว่า ไม่ต้องระวังเรื่องมีลูก ความต้องการทางเพศจึงเพิ่มขึ้น เพราะมีความสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่า ภรรยาหรือหญิงที่ตนมีความสัมพันธุ์ด้วย จะตั้งครรภ์ได้
วิธีการทำหมันชาย คือ การผูกตัดท่อนำเชื้ออสุจิ
บางตอนของท่อนำเชื้ออสุจิอยู่ตื้น และเรา สามารถคลำได้ที่บริเวณอัณฑะทั้งสอง เมื่อใช้เครื่อง มือจับท่อนั้นได้แล้ว จึงกรีดผิวหนังบริเวณที่คลุมท่อนี้ เป็นแผลเล็กๆ พอที่จะผูกและตัดท่อได้ และเย็บปิด แผลเพียง ๑ หรือ ๒ เข็มเท่านั้น
การคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ พิมรัก ปิยะพันธุ์ วัชรี ยอดดำเนิน ปิยธิดา เสียงใส ภูมิ ภัทรการุณย์
ความหมายของการคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ
การคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ คือ การป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่พึ่งการปรับฮอร์โมนหรือการใช้อุปกรณ์คุมกำเนิดอื่น ๆ อย่างถุงยางอนามัยหรือห่วงอนามัย แต่เป็นการนับระยะปลอดภัย สังเกตช่วงเวลาและสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ต่ำหากมีเพศสัมพันธ์ในขณะนั้น หรือหลีกเลี่ยงการหลั่งอสุจิในช่องคลอด ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้
วิธีคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ
การนับวันปลอดภัย (Rhythm Method) : เป็นการติดตามรอบประจำเดือนภายในระยะเวลา 6 เดือนก่อนหน้าด้วยการนับทางปฏิทิน หลังมีการบันทึกช่วงรอบเดือนแต่ละครั้งแล้วให้นำรอบเดือนที่ยาวที่สุดกับรอบเดือนที่สั้นที่สุดเข้ามาระบุระยะเวลาที่ร่างกายอาจตั้งครรภ์ เพื่อเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้วิธีคุมกำเนิดต่างๆ ในช่วงเวลาอันตรายที่คาดการณ์ไว้ หากมีรอบเดือนไม่สม่ำเสมอและมีระยะเวลาระหว่าง 26 ถึง 32 วัน วิธีนับวันแบบนี้อาจไม่ใช่วิธีที่ปลอดภัย
การกำหนดระยะเวลาเจริญพันธุ์ (Standard Days Method) : วิธีการนี้คล้ายคลึงกับวิธีนับวันปลอดภัย คือเป็นวิธีเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้อุปกรณ์คุมกำเนิดตั้งแต่วันที่ 8-19 ของรอบเดือน (เริ่มจากวันแรกที่มีประจำเดือน) หากมีรอบเดือนไม่สม่ำเสมอและมีระยะเวลาระหว่าง 26 ถึง 32 วัน ไม่เหมาะกับวิธีนี้เช่นกัน
TwoDay method : การใช้วิธีนี้ จะต้องมีการตรวจหามูกไข่ตกทุกวันภายในรอบเดือน หากพบว่าเมื่อวานหรือวันนี้ มีเมือกสีไข่ขาวจากช่องคลอด ก็หมายความว่าร่างกายพร้อมจะตั้งครรภ์และควรเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์
การนับวันจากมูกช่องคลอด (Billings Ovulation Method) : เป็นวิธีที่คล้ายกับ TwoDay method แต่วิธีนี้ทำโดยการคาดคะเนระยะเวลาที่ตั้งครรภ์ด้วยการบันทึกลักษณะของมูกไข่ตกบนตารางและปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาที่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้
การตรวจวัดอุณหภูมิ (Symptothermal Method หรือ Sensiplan) : ใช้มูกไข่ตกกับค่า BBT เพื่อประมาณช่วงไข่สุกของแต่ละรอบเดือน
ข้อดีข้อเสียของการคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ
ข้อดี
ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์คุมกำเนิดอย่างถุงยางอนามัย จึงอาจช่วยให้คู่รักรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ
ผู้หญิงส่วนใหญ่สามารถใช้การคุมกำเนิดวิธีนี้ได้ โดยควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญถึงหลักการคาดคะเนช่วงที่ไข่ตกอย่างถูกต้อง และควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคุมกำเนิดที่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือฮอร์โมนสังเคราะห์อย่างยาคุมกำเนิด จึงไม่ส่งผลข้างเคียงใด ๆ ต่อร่างกาย
ข้อเสีย
อาจมีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ต่ำกว่าการคุมกำเนิดวิธีอื่น ๆ หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
จำเป็นต้องบันทึกติดตามรอบเดือนหรือวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นระยะเวลานาน ก่อนจะนำผลที่ได้มาคำนวณเพื่อคาดคะเนช่วงไข่ตก
ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาไม่ปกติ
ปัจจัยต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบต่อการตกไข่และทำให้คำนวณช่วงไข่ตกคลาดเคลื่อนได้ เช่น ความเครียด ปัญหาสุขภาพ
ยาเม็ดคุมกำเนิดน.ส.กุลสตรี ทองเติม น.ส.วรัญญา บุญถนอม น.ส.ช่อลัดดา นางหลาด น.ส.ญดาพร เกษแก้ว พรรณทิพย์ จรัสเวคิน
ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ โดยทั่วไปถือว่าหากมีการใช้ยาอย่างสม่ำเสมอและใช้อย่างถูกต้องจะมีอัตราล้มเหลวรายปี 0.3%
ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิด 1. การใช้ยาอย่างสม่ำเสมอและถูกต้อง
ปฏิกิริยาระหว่างยา คือ การใช้ยาอื่นร่วมด้วยอาจทำให้ประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิดลดลง
ดัชนีมวลกาย การมีดัชนีมวลกายตั้งแต่ 25 ขึ้นไป อาจมีการเสี่ยงตั้งครรภ์มากกว่าคนที่ดัชนีมวลกายไม่ถึง 25
เมื่อลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดจะทำอย่างไร?
กรณีลืมกินยาเม็ดคุมกำเนิดที่มี Ethinylestradiol 30-35 ไมโครกรัม 1 หรือ 2 เม็ด (หรือเริ่มกินแผงใหม่ช้าไป 1 หรือ 2 วัน)
-ลืมกินยาที่มีฮอร์โมน 1 เม็ด ให้กินเม็ดที่ลืมทันที่ที่นึกขึ้นได้ และเม็ดต่อไปกินตามเวลาปกติ
-ลืมกินยาที่มีฮอร์โมน 2 เม็ด เฉพาะที่มี Ethinylestradiol 30-35 ไมโครกรัมให้กินยาเม็ดที่ลืมล่าสุดทันทีที่นึกได้
ส่วนเม็ดก่อนหน้านั้นทิ้งไปและกินยาเม็ดถัดไปตามปกติ
กรณีลืมกินยาเม็ดคุมกำเนิดที่มี Ethinylestradiol 30-35 ไมโครกรัม 3 เม็ดขึ้นไป (หรือเริ่มกินแผงใหม่ช้าไป 3 วันขึ้นไป) หรือยาที่มี Ethinylestradiol 20 ไมโครกรัม 2 เม็ด (หรือเริ่มกินแผงใหม่ช้าไป 2 วัน) ให้รับประทานยาเม็ดที่ลืมล่าสุดทันทีที่นึกได้ ส่วนยาเม็ดอื่นที่ลืมก่อนหน้านั้นให้ทิ้งไป และรับประทานยาเม็ดถัดไปตามเวลาปกติ แต่ต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัย หรือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าจะได้รับประทานยาเม็ดที่มีฮอร์โมนติดต่อกันเป็นเวลา 7 วันแล้ว และให้พิจารณาเพิ่มเติมดังนี้
-หากเป็นการลืมรับประทานในช่วง 1 อาทิตย์แรกของแผงยา (วันที่ 1-7) และมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันในช่วง 5 วันก่อนหน้านั้น ควรพิจารณาใช้วิธีการคุมกำเนิดฉุกเฉิน
-หากเป็นการลืมรับประทานในช่วงอาทิตย์ที่ 3 ของแผงยา (เม็ดที่ 15-21) ให้ปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้ ให้เว้น (ไม่ต้องรับประทาน) ช่วงที่เป็นเม็ดแป้งกรณีที่เป็นยาชนิดแผง 28 เม็ด หรือไม่ต้องหยุดยา 7 วันกรณีที่เป็นยาชนิดแผง 21 เม็ด โดยให้เริ่มยาแผงใหม่ได้ทันทีหลังหมดยาเม็ดที่ 21
ผู้ที่ควรระวังในการใช้ยา
ผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หรือเสี่ยงต่อการมีปัญหาของระบบไหลเวียนโลหิต ควรได้รับประทานยานี้
ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน น.ส.ภาวิดา ศรีจันทร์ น.ส.มัลลิกา อุ่นคำ น.ส.รพีพัฒน์ พูโคตร ธนภัทร
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน
การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน
ยาคุมฉุกเฉิน แบบ 1 แผง มี 2 เม็ด
ปริมาณ 0.75 มิลลิกรัม
รับประทาน 1 เม็ด ทันที หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) แล้วรับประทานอีก 1 เม็ด ใน 12 ชั่วโมงถัดมา หลังการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน
ยาคุมฉุกเฉินแบบแผงมี 1 เม็ด
ปริมาณ 1.5 มิลลิกรัม
รับประทานทันที หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ภายใน 72 ชั่วโมง
หลังการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน
แผ่นแปะคุมกำเนิด น.ส.อินทิราภรณ์ แม่นดาว น.ส.คณินนุช กิจวสมบัติ น.ส.พรพิชชา ช่างเรียน โชติกา อาษาวัง
ข้อปฏิบัติกรณีลืมเปลี่ยนแผ่นยา
กรณีเปลี่ยนแผ่นยาในสัปดาห์แรกของรอบเดือนให้แปะยาแผ่นใหม่ทันที วันเปลี่ยนแผ่นยาจะเปลี่ยนใหม่เป็นวันใหม่แทน และต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย
กรณีลืมเปลี่ยนแผ่นยาในสัปดาห์ 2หรือ3ของรอบเดือน
น้อยกว่า 48ชั่วโมงแปะแผ่นยาใหม่ทันทีและวันเปลี่ยนแผ่นยาเป็นวันเดิมและไม่จำเป็นต้องใช้วิธีอื่นคุมกำเนิด
มากกว่า48ชั่วโมงแปะแผ่นยาใหม่ทันทีให้นับการใช้แผ่นยาใหม่เป็นยาแผ่นแรกของรอบการใช้ยาใหม่ อีกต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย
ผลข้างเคียง
คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ซึมเศร้า น้ำหนักเพิ่มเล็กน้อยขึ้นกับแต่ละคน
บางคนพบว่ามีความต้องการทางเพศเปลี่ยนไป
เหงือกอักเสบ
ความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
เต้านมจะแข็งขึ้นและใหญ่ อาจมีน้ำนมไหลได้
อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังบริเวณที่แปะได้
อาจมีเลือดออกกระปริดกระปรอย
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ลดการหลั่งฮอร์โมน gonadotrophin จาก hypothalamus มีผลไปยับยั้งการตกไข่ เปลี่ยนสภาพมูกบริเวณปากช่องคลอดเพื่อให้อสุจิผสมกับไข่ได้ยากขึ้น
วิธีและขนาดที่ใช้
ใน1กล่องมี3แผ่นซึ่งใช้แปะผิวหนังในรอบ1เดือนจะแปะผิวหนังได้นานถึง1สัปดาห์และต้องใช้ต่อเนื่อง3สัปดาห์ของรอบเดือน สัปดาห์ที่4ไม่มีการใช้ยาและแผ่นแปะมีขนาด 20 ตารางเซนติเมตร
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้เครื่องสำอาง โลชั่น หรือครีม บนผิวหนังบริเวณที่จะแปะแผ่นยา
ห้ามแปะแผ่นยาขณะที่ผิวหนังยังไม่แห้งสนิท
แนะนำวิธีการแปะแผ่นยาที่ถูกต้องสำหรับผู้ป่วย
ควรกรีดแผ่นยาคุมกำเนิดให้ของแนบสนิทกับผิวหนังประมาณ 10 วินาที
ในผู้หญิงที่มีน้ำหนักมากเกิน 90 กก. ประสิทธิภาพของยาลดลง
ข้อปฏิบัติในกรณีแผ่นยาหลุด
กรณีที่แผ่นยาหลุดน้อยกว่า 1วันแปะแผ่นยาใหม่ทันทีแล้วเปลี่ยนแผ่นยาใหม่ในวันเปลี่ยนแผ่นยาตามกำหนด
กรณีที่แผ่นยาหลุดนานกว่า 1วันผู้ใช้ควรหยุดรอบการใช้แผ่นยาเดิม และให้เริ่มต้นการใช้แผ่นยารอบใหม่ทันทีและนับวันนั้นเป็นวันแรกของการใช้รอบใหม่และต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย
ผู้ที่ไม่ควรใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด
หญิงที่มีประจำเดือนมาไม่ปกติ
มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน
หญิงที่คลอดบุตรก่อนกำหนดหรือแท้งบุตร
มีระดับคอเลสเตอรอลสูง
หญิงที่มีแนวโน้มตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์ เพิ่งคลอดบุตร หรือกำลังให้นมบุตร
กำลังรับประทานยาปฏิชีวนะ ยารักษาโรคลมชัก ยาต้านเชื้อเอชไอวี หรือยารักษาวัณโรค
มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปและสูบบุหรี่ หรือเลิกบุหรี่ได้ไม่ถึง 1 ปี
บริเวณที่ควรแปะแผ่นคุมกำเนิด
เลือกแปะบริเวณผิวหนังที่แปะแล้วแผ่นยาจะไม่หลุดออกง่าย เช่น ท้องน้อย สะโพก แผ่นหลังส่วนบน และต้นแขนด้านนอก
เมื่อเปลี่ยนแผ่นยาใหม่ ต้องเปลี่ยนตำแหน่งการแปะแผ่นยาทุกครั้ง
แผ่นแปะคุมกำเนิดคืออะไร
ประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิดคือโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจน
เมื่อแปะแผ่นยาแล้ว ตัวยาจะค่อยๆซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด
ยาฉีดคุมกำเนิด น.ส.ตะวันฉาย ไชยเนตร น.ส.ธันยพร แซ่เอี้ยว น.ส.กัญญาลักษณ์ ทองมา จิรภัทร์ ศิริรัตน์
ยาฉีดคุมกำเนิด (Injectable contraceptive) คือ วิธีการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวแบบหนึ่ง โดยจะเป็นการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อของสตรีในระยะเวลาตามที่แพทย์กำหนด หลังจากฉีดตัวยาจะค่อย ๆ ขับฮอร์โมนออกมา เป็นวิธีที่นิยมใช้กันมากในรายที่ต้องการเว้นระยะการมีบุตร เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง ทำได้ง่าย สะดวก และมีราคาถูก
ชนิดของยาฉีดคุมกำเนิด
ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
ยา Depot Medroxyprogesterone acetate (DMPA)
ยา Norethisterone Enanthate (NET-EN)
ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ในยาฉีดจะมีทั้งฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestin) และฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ชนิดนี้มีชื่อทางการค้าว่า Cyclofem® และ Lunelle™
วิธีการฉีดยาคุมกำเนิด
ระยะเวลาในการคุมกำเนิดจะขึ้นอยู่กับชนิดของยาฉีดที่นำมาใช้ ซึ่งจะมีระยะตั้งแต่ 1-3 เดือน ถ้าเป็นยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียว ตัว Depo-Provera® ขนาด 150 มิลลิกรัม จะต้องใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อทุก ๆ 3 เดือน โดยไม่เกี่ยวกับน้ำหนักตัวของสตรีที่มารับการฉีดแต่อย่างใด (ในต่างประเทศจะมีขนาด 104 มิลลิกรัม ที่ใช้สำหรับฉีดเข้าใต้ผิวหนังด้วย) แต่ถ้าเป็นตัวยา Norethisterone Enanthate (Noristerat®) ขนาด 200 มิลลิกรัม จะใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อทุก ๆ 2 เดือน ส่วนยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ตัว Cyclofem® จะต้องฉีดทุก ๆ 1 เดือน ซึ่งยาในกลุ่มนี้จะทำให้มีประจำเดือนมาทุกเดือน
ค่าฉีดยาคุมกำเนิด : ราคาไม่แพง เข็มละ 100-500 บาท
ยาฝังคุมกำเนิด
น.ส.ดลรดา มะลิคำ น.ส.อภิญญา นิลคูหา น.ส.พิชชาพร เพื่อมเสม น.ส.ทิพย์วรรณ บุญคูณ
ยาฝังคุมกำเนิด - ชนิด 1 หลอด คุมกำเนิดได้ 3 ปี
-ชนิด 2 หลอด คุมได้ 5 ปี
ข้อดี:-สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีกว่า
-คุมกำเนิดได้ยาวนานถึง3-5ปี
-ไม่ส่งผลต่อการทำงานของตับ
-เป็นวิธีที่ปลอดภัย
ข้อเสีย:-ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
-ประจำเดือนอาจมาไม่ปกติ
-การฝังและถอดยาคุมกำเนิดอาจรู้สึกเจ็บ
ฝังตอนไหน?
-สามารถฝังภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน
-หลังคลอด 4-6 สัปดาห์
-หลังแท้งธรรมชาติ/หลังได้รับบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยทันที หรือ
2-3 สัปดาห์
หลักเกณฑ์ในการเลือกผู้เข้ารับบริการ
ไม่มีข้อบ่งห้ามของการใช้ steroid
มีบุตรมีชีวิตอย่างน้อย 1 คน
ไม่ได้กำลังตั้งครรภ์
ท้องสุดท้ายต้องไม่ใช่ molar pregnancy
ผู้รับบริการยอมรับในเรื่องประจำเดือนว่าอาจจะกะปริดกะปรอยในช่วงแรกและอาจมีเลือดประจำเดือนออกมากกว่าปกติ รวมทั้งก่อนหน้านี้ต้องไม่มีอาการปวดประจำเดือนอย่างมาก
อาการข้างเคียง
-ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอมีเลือดออกกระปริดกระปรอยโดยอาการจะลดลงหลังจากฝังยาไว้แล้วประมาณ 6 เดือน
-อาการข้างเคียงที่พบได้แต่ไม่บ่อย เช่น น้ำหนักตัวเพิ่ม เป็นสิว ปวดหัว
ห่วงคุมกำเนิด น.ส.อรพินท์ นิลประดับ น.ส.ประภาวดี แสงวิถีชัย น.ส.ปาณิสรา เนื่องจำนงค์ กุลสตรี
จำปาทอง
ผลข้างเคียง
-อาจมีตกขาวมากกว่าปกติ
Link Title
ผลข้างเคียง
-อาจพบปัญหาเลือดออกทางช่องคลอดแบบกะปริดกะปรอย หรือมีประจำเดือนมากกว่าปกติ
-ถึงแม้จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ หากมีคู่นอนหลายคน อาจพบการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
-อาจมีตกขาวมากกว่าปกติ
ผู้ที่เหมาะกับการใช้ห่วงคุมกำเนิด
ผู้ที่เป็นโรคอ้วน เพราะการคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนนั้น มีโอกาสที่จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
ผู้ที่ต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ระยะสั้น 3-5 ปีอย่างได้ผล
ผู้ที่หลงลืมการทานยาคุมกำเนิดเป็นประจำ
ขั้นตอนใส่ห่วงคุมกำเนิดทำอย่างไร?
1) ตรวจร่างกายและซักประวัติก่อน ว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์ ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก
2) จัดการปัสสาวะให้เรียบร้อยเสียก่อน และทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก แล้วตรวจหาตำแหน่งของมดลูก
ขั้นตอนการถอดห่วงคุมกำเนิด
อาการแสดงว่าตั้งครรภ์ น.ส.สุชานันท์ มะลิซ้อน น.ส.สุธิดา จังหวัด
น.ส.อภิชญา อยู่มีสุข น.ส.กนกรักษ์ ศิริปโชติ
อาการที่สงสัยว่าท้อง
ปัสสาวะบ่อยและสีเข้ม
เพลียและเหนื่อยง่าย
คัดเต้านม เจ็บ และตึง
คลื่นไส้-อาเจียน
มีความรู้สึกไวต่อกลิ่นต่างๆ
หน้าอกบวมและเจ็บ
มีอาการท้องผูก
ท้องป่อง ท้องมีขนาดโตขึ้น
อารมณ์แปรปรวนง่าย
หายใจถี่ขึ้น
ประจำเดือนขาด
อาการที่แสดงว่าตั้งครรภ์
เลือดออกทางช่องคลอด (บางคน)
มีการเต้นของหัวใจของเด็ก
รู้สึกลูกดิ้น
น้ำหนักเตัวเพิ่มมากผิดสังเกตในระยะเวลาสั้นๆ
การคาดคะเนอายุครรภ์ น.ส.ญาดา สุทธิประภา น.ส.มารีนา บินฮาซัน น.ส.สายธาร ธรรมคุณ น.ส.วรรณิภา สวัสดิภาพ
ซักประวัติ
ประวัติเด็กดิ้นครั้งแรก
มารดาจะรู้สึกว่าเด็กดิ้นครั้งแรก ขณะอายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน
ในครรภ์แรก
มารดาจะรู้สึกว่าเด็กดิ้นครั้งแรก ขณะอายุครรภ์ประมาณ 4 เดือนในครรภ์หลัง
ประวัติประจำเดือน
นับจาก วันแรก ของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย เป็นวันเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ วันคลอดให้นับไปอีก 40 สัปดาห์
การตรวจร่างกาย
อัลตราซาวด์
อัลตราซาวน์ให้เป็นวิธีที่นิยมใช้มากในปัจจุบันและบอกความแม่นยำได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ
ประเมินจากขนาดมดลูก
ใช้สัดส่วนของยอดมดลูกกับหน้าท้องมารดา
การใช้สัดส่วนของยอดมดลูกกับหน้าท้องมารดา
โดยแบ่งระยะระหว่างสะดือกับหัวหน่าวเป็น 3 ส่วนเท่าๆกัน และแบ่งระยะห่างระหว่าสะดือกับลิ้นปี่เป็น 4 ส่วนเท่าๆกัน
วัดระดับยอดมดลูกโดยใช้สายวัด วัดจากรอยต่อของกระดูกหัวหน่าวจนถึงยอดมดลูกแนบตามส่วนโค้งของมดลูก
การตรวจที่ได้รับจากการฝากครรภ์น.ส.ภัทรา พ่วงพวง น.ส.สโรธร คำทอง น.ส.โรสิตา มาสดใส ณัฎฐณิชา แสงจันทร์
สตรีตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง
การตรวจคัดกรองโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ การทำนายการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
ตรวจความดันโลหิต
สตรีตั้งครรภ์ทุกราย
ตรวจขนาดและลักษณะของเม็ดเลือดแดง
การตรวจการติดเชื้อซิฟิลิส การตรวจเชื้อไวรัสเอดส์
เชื้อไวรัสตับอักเสบบี
การตรวจปัสสาวะเพื่อดูไข่ขาว และ น้ำตาลกลูโคส
การตรวจหมู่เลือด ABO และ Rh
ทารก
การดิ้นของทารก (Fetal activity)
ปริมาณน้ำคร่ำ (Amount of amniotic fluid)
อัตราการเต้นหัวใจทารก (Fetal heart rate)
ขนาดของทารก (Size of fetus)
ส่วนนำและท่าของเด็กในช่วงหลังของการตั้งครรภ์
ถุงยางอนามัยสำหรับบุรุษและสตรี นายซุลฮิลมี นิกานิ น.ส.สุธาสินี ทองคลำ นายภานุวัตณ์ จารุพงศ์ไพศาล นางสาวสุธิดา นาแพร่
ถุงยางอนามัยบุรุษ
วิธีใช้
ถุงยางอนามัยบุรุษ
วิธีใช้
ฉีกซองบรรจุภัณฑ์ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรใช้ปากกัดหรือใช้เล็บจิก
สวมถุงยางอนามัยในขณะที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวเต็มที่เท่านั้น โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งบีบที่ปลายกะเปาะถุงยางเพื่อไล่อากาศด้านในออก ซึ่งจะช่วยป้องกันถุงยางอนามัยหลุดระหว่างใช้งาน
ค่อย ๆ รูดม้วนถุงยางอนามัยลงมาจนถึงโคนอวัยวะเพศ
ขั้นตอนการถอดถุงยางอนามัย
ถอดถุงยางอนามัยในขณะที่อวัยวะเพศชายยังแข็งตัวอยู่
จับส่วนฐานของถุงยางและค่อย ๆ นำอวัยวะเพศออกจากร่างกายของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง แล้วค่อยถอดถุงยางออกได้
ใช้กระดาษทิชชู่ห่อถุงยางอนามัยแล้วนำไปทิ้งลงถังขยะ
ข้อควรระวัง
ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับอวัยวะเพศของตนเอง
ตรวจดูให้แน่ใจก่อนเสมอว่าถุงยางอนามัย ไม่ฉีกขาด รั่ว ชำรุด เสื่อมสภาพ หรือหมดอายุ
หากไม่สามารถสวมรูดลงถึงโคนได้แสดงว่าใส่กลับด้าน ให้เปลี่ยนอันใหม่ ห้ามใช้ซ้ำ
ไม่ควรนำไปทิ้งในชักโครก
ไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ
ถุงยางอนามัยสตรี
ขั้นตอนการถอดถุงยางอนามัยสตรี
ขั้นตอนการถอดถุงยางอนามัยสตรี
ใช้นิ้วจับห่วงที่อยู่ภายนอก
บิดปากถุงยางอนามัย 3-4 รอบให้สนิท
ค่อยๆดึงถุงยางอนามัยออกจากช่องคลอด
ห่อด้วยกระดาษทิชชู่ให้มิดชิดก่อนนำไปทิ้ง
วิธีใช้
ถุงยางอนามัยสตรี
ล้างมือให้สะอาด
แกะถุงยางอนามัยด้วยความระมัดระวัง
ทาสารหล่อลื่นที่ถุงยางอนามัย
เลือกท่าใส่ที่สบาย (ท่ายืนแยกขาเล็กน้อย, ท่ายืนแบบยกขา 1ข้าง, ท่านั่งยองๆ, ท่านอนชันเข่า)
ใช้นิ้วมือที่ถนัดจับห่วงยางอนามัยด้านปลายตัน
บีบถุงยางอนามัยเข้าหากันให้มีรูปร่างเล็กลง
ค่อยๆสอดใส่ไปในช่องคลอดให้ลึกพอประมาณ
ใช้นิ้วชี้หรือนิ้วกลางสอดเข้าไปในภายถุงยางอนามัย พร้อมกับดันให้ก้นถุงยางอนามัยเข้าไปอยู่ในช่องคลอดจนชนปากมดลูก
จัดระเบียบให้ถุงยางอนามัยสอดเข้าไปด้านในไม่บิดเบี้ยว
จัดด้านปลายเปิดให้ครอบอยู่ที่ปากช่องคลอดพอดี
ข้อควรระวังในการใช้ถุงยางอนามัยสตรี
ข้อควรระวังในการใช้ถุงยางอนามัยสตรี
ควรใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง
ห้ามใช้ถุงยางอนามัยสตรีร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัยบุรุษ
ห้ามใช้ถุงยางอนามัยสตรีที่หมดอายุ
ในระหว่างใช้การใช้ ถุงยางอนามัยสตรีอาจหลุดเข้าไปค้างอยู่ในช่องคลอดได้
อาจมีสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง
หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง
ถุงยางอนามัยสตรีหาซื้อได้ที่ไหนบ้าง?
ร้ายขายยาขนาดใหญ่
คลินิกสุขภาพสตรี
คลินิกวางแผนครอบครัว
คลินิกสุขภาพทางเพศทั่วไป
โรงพยาบาลขนาดใหญ่
ทางออนไลน์
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิดเเบบเม็ด
1.คลื่นไส้อาเจียน
2.มีสิวเเละฝ้าขึ้นตามใบหน้า
3.คัดหน้าอก หรือเจ็บเต้าหน้าอก
4.อารมณ์แปรปรวน ฉุนเฉียว
5.น้ำหนักขึ้น ตัวบวม อยากอาหารมากขึ้น
6.ประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติ
7.เลือดออกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือน
โดยแบ่งระยะระหว่างสะดือกับหัวหน่าวเป็น 3 ส่วนเท่าๆกัน และแบ่งระยะห่างระหว่าสะดือกับลิ้นปี่เป็น 4 ส่วนเท่าๆกัน
อายุครรภ์ 24 สัปดาห์ ยอดมดลูกจะสูงกว่าระดับสะดือเล็กน้อย
อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ ยอดมดลูกอยู่ 1/4 เหนือระดับสะดือ
อายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ยอดมดลูกจะอยู่ระดับสะดือ
อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ ยอดมดลูกอยู่ 2/4 เหนือระดับสะดือ
อายุครรภ์ 16 สัปดาห์ ยอดมดลูกจะสูงประมาณ 2/3 เหนือกระดูกหัวหน่าว
อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ ยอดมดลูกอยู่ 3/4 เหนือระดับสะดือ
อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ยอดมดลูกจะสูงประมาณ 1/3 เหนือกระดูกหัวหน่าว
ประจำเดือนอาจคลาดเคลื่อน ทำให้มาช้าหรือเร็วกว่าปกติ
อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยออกมาระหว่างเดือน
ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนหัว เจ็บคัดเต้านม
ซึมเศร้า วิตกกังวล เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์
1.แพทย์จะเริ่มจากการตรวจหาห่วงคุมกำเนิดก่อนว่าอยู่ตรงไหน
2.จากนั้นก็จะใช้เครื่องมือถ่างมดลูก แล้วเอาคีมเข้าไปดึงออกมา
แพทย์อาจจะใช้แปรงขนบิดในโพรงมดลูก เพื่อให้โดนห่วงแล้วดึงออกมา ในกรณีที่ห่วงมีการเลื่อนตัวเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ลึกเกินกว่าคีมจะคีบออกมาได้
ประเมินอายุครรภ์ได้ 4 วิธี
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผง 21 เม็ด กับ 28 เม็ด
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผง 21 เม็ด กับ 28 เม็ด
:
ยาคุมชนิด 21 เม็ด ทุกเม็ดจะมีตัวยา ไม่มีเม็ดแป้ง รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผงแล้วหยุด 7 วัน ก่อนเริ่มแผงใหม่ หลังหยุดยาประมาณ 1-3 วันจะมีประจำเดือน
ยาเม็ดชนิด 28 เม็ด มีตัวยา21เม็ด และอีก7เม็ด เป็นเม็ดแป้ง รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ1เม็ด จนหมดแผงแล้วขึ้นแผงใหม่ต่อเนื่องกันไป เมื่อรับประทานเม็ดแป้งไปประมาณ 1-3 เม็ดจะเริ่มมีประจำเดือน
วัดจากระยะรอยต่อของกระดูกหัวเหน่าจนถึงยอดมดลูกแนบตามส่วนโค้งของมดลูก เช่น ระยะที่วัดได้เป็นเซนติเมตรจะเท่ากับอายุครรภ์เป็นสัปดาห์