Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

6P (Physical condition (ความอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า การขาดน้ำ…

Physical condition

ความอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า การขาดน้ำ

   จากการสังเกตหญิงตั้งครรภ์มีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อยนอนหลับ 5 ชั่วโมงแต่ไม่มีขอบตาคล้ำ รู้สึกตัวดี สามารถปฎิบัติตามคำแนะนำได้

กระเพาะปัสสาวะ

        จากการประเมิน ไม่พบ Bladder full

โรคประจําตัว

             ผู้คลอดปฏิเสธโรคประจำตัวและภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์

  จากการสังเกตผู้คลอดมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่ยังสามารถเบ่งคลอดได้เหมาะสม สภาพร่างกายของผู้คลอดรายนี้มีความพร้อมและมีความเหมาะสมในการคลอด ได้รับสารน้ำ Syntocinon 10 u in 5%D/N/2 1000 cc vain drip 30 cc/hr

 จากการสังเกตผู้คลอดมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อยไม่มีขอบตาดำ พบริมฝีปากแห้งเล็กน้อย ได้รับสารน้ำ Syntocinon 10 u in 5%D/N/2 1000 cc vain drip 30 cc/hr

4.psychological condition

ระยะที่ 1

     มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับขั้นตอนการคลอด และลืมขั้นตอนในการเบ่งคลอด

ระยะที่ 2

สำหรับผู้คลอดรายนี้ไม่มีวิตกกังวล และสามารถควบคุมสติรับฟังคำสั่งจากผู้ทำคลอดได้และเผชิญความเจ็บปวด และมีแรงในการเบ่งที่ดี

ระยะที่ 3

ผู้คลอดมีความผ่อนคลายและรู้สึกดีใจเมื่อทารกคลอดออกมา จึงไม่มีความวิตกกังวลในระยะนี้

Position

ระยะที่1

แนวดิ่งหรือแนวตรง (Upright)

    ท่ายืน (Standing) ช่วยให้ส่วนนำเคลื่อนต่ำได้ง่าย และช่วยลดความเจ็บป่วย

    ท่านั่งหรือนั่งเอนตัวไปด้านหน้า (Sitting or leaning forward) ช่วยให้ส่วนนำเคลื่อนต่ำได้ดี มารดาพักผ่อนได้ ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังเพราะทารกเคลื่อนต่ำผ่าน Sacral promontory ช่วยการหดตัวของมารดาดีขึ้น

      ท่านั่งคุกเข่าและเอนตัวไปข้างหน้า (Kneeling and leaning forward) และท่าโก้งโค้ง (Kneeling and hand) เป็นท่าที่ช่วยลดความเจ็บปวดได้ดี การเคลื่อนต่ำของส่วนนำดี ทำให้การหมุนของศีรษะทารกที่อยู่ในท่า Occiput posterior หมุนได้

 ท่านอนตะแคง (Slide - lying) ทำให้มารดาไม่เกิดความดันโลหิตต่ำและช่วยให้การไหลเวียนเลือดไปที่รกดี

ท่าSquatting เป็นท่าที่ทำให้การเคลื่อนต่ำของส่วนนำดี ช่องออกของเชิงกรานมีการขยายได้มาก ทำให้การเบ่งของมารดาดีขึ้น

 ระยะที่1 สำหรับผู้คลอดรายนี้มีนอนอยู่บนเตียวเป็นท่าที่ไม่เหมาะสมสำหรับการคลอดเนื่องจากไม่อยู่ในแนวเดียวกับแรงโน้มถ่วง ทำให้ความก้าวหน้าของการคลอดล่าช้า

ระยะที่ 2

       1.ท่านอนหงายชันขาหยั่ง (Lithotomy position) เป็นท่าที่เหมาะในการทำคลอด และยังส่งเสริมการยืดขยายช่องคลอดได้

   2. ท่านอนหงายชันเข่า (Supine position) เป็นท่าที่กระดูกสันหลังอยู่ในแนวราบ ทำให้สะดวกแก่การให้การพยาบาล เช่น การฟัง FHS PV และจับContraction แต่จะทำให้ผู้คลอดออกแรงเบ่งมาก ส่งผลให้เลือดไหลเข้าสู่รถน้อยลง อาจทำให้เกิดภาวะพร่องออกซอเจนได้

3.ท่ากึ่งนั่ง เป็นท่าที่ทำให้แรงผลักดันในการคลอดจะมีทิศทางเดียวกับแรงโน้มถ่วงของโลก และกระบังลมหย่อนตัว หายใจสะดวกขึ้น เพิ่มแรงขับดันทารก

   ระยะที่ 2 สำหรับผู้คลอดรายนี้ทำคลอดท่านอนหงายขึ้นขาหยั่ง (Lithotomy position) เป็นท่าที่สะดวกในการทำคลอด ทำให้ผู้ทำคลอดมองเห็นหน้าท้องของผู้คลอดได้อย่างชัดเจน ฟังเสียงหัวใจทารกได้อย่างชัดเจน ฟังเสียงหัวใจทารกได้อย่างสะดวก เมื่อรู้สึกอยากเบ่งสามารถจับข้างเตียงได้สะดวกตลอดในระยะที่ 2 ของการคลอด

ระยะที่ 3

    สำหรับผู้คลอดรายนี้ทำคลอดท่านอนหงายขึ้นขาหยั่ง (Lithotomy position) เป็นท่าที่สะดวกในการทำคลอดรก

- - - - ในระยะนี้ ไม่เป็นไปตามทฤษฎี มีระยะ Duration อยู่ในช่วง 40” ซึ่งช้ากว่าปกติ ควรอยู่ในช่วง 60-90 วินาที แต่ไม่ควรเกิน 90 วินาที ซึ่งอาจทำให้เกิดการคลอดล่าช้าได้
  - - - ซึ่งเป็นไปตามทฤษฏี ทำให้เกิดความก้าวหน้าในการคลอด
    - - ซึ่งเป็นไปตามทฤษฏี ทำให้เกิดความก้าวหน้าในการคลอด
    - - ในระยะนี้ ไม่เป็นไปตามทฤษฎี มีระยะ Duration อยู่ในช่วง 40” ซึ่งช้ากว่าปกติ ควรอยู่ในช่วง 60-90 วินาที แต่ไม่ควรเกิน 90 วินาที ซึ่งอาจทำให้เกิดการคลอดล่าช้าได้

Passage

ระยะที่ 1-2

Body passage

    ปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้อสำหรับผู้คลอดรายนี้ไม่พบปัญหาเนื่องจากผู้คลอดมีอายุ 31 ปี ท่าเดินไม่มีความผิดปกติ มีส่วนสูง 150cms.

pelvic inlet

 จากการตรวจครรภ์ในท่า Third และ Fourth Leopoid Hand Grip พบว่าศีรษะของทารกมีการ Engagement แสดงว่าศีรษะของทารกสามารถเคลื่อนผ่าน Pelvic inlet ได้ จากการตรวจภายในพบว่า Station 0 แสดงว่าส่วนนำสามารถเคลื่อนผ่าน Pelvic inlet ได้

Mid pelvis

จากการตรวจภายในพบว่าระยะห่างระหว่าง Ischail spine มีค่า 10 cms. ถือว่ามีความปกติไม่ทำให้การคลอดติดขัด

pelvic outlet

จากการประเมินการตรวจภายใน พบว่ารูปร่างเชิงกรานผู้หญิงตั้งครรภ์ เป็นชนิด Gynaecoid ซึ่งเป็นรูปแบบช่องเชิงกรานผู้หญิง โดยประเมินจากมุมใต้โค้งกระดูกหัวเหน่ากว่า > 85 องศา

Soft passage

ปากมดลูก

   ระยะ Latent phase ตั้งแต่เจ็บครรภ์จริงถึงปากมดลูกเปิด 3 cm ในครรภ์แรกปากมดลูกจะเปิดประมาณ 0.3 cm/hr และในครรภ์หลังจะเปิดประมาณ 0.5 cc/hr ครรภ์แรกไม่เกิน 8 ชั่วโมง ครรภ์หลังไม่เกิน 5 ชั่วโมง

ระยะ Active phase ปากมดลูกเปิด 4-10 cm โดยในครรภ์แรกเปิด 1.2 cm/hr และในครรภ์หลังเปิด 1.5 cm/hr โดยในครรภ์แรกใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 5 ชั่วโมงและในครรภ์หลัง 2.5 ชั่วโมง

    สำหรับหญิงตั้งครรภ์รายนี้ เวลา 11.15 น. ปากมดลูกเปิด 5 cm และในเวลา 12.40 น. ปากมดลูกเปิด 8 cm ในระยะเวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที ปากมดเปิด 3 cms/hr ซึ่งไม่ตรงตามทฤษฎี

กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน

         ผู้คลอดมีอายุน้อยกว่า 18 ปี มีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานขยายตัวไม่ดี และการผ่านการคลอดบุตรมาหลายคน กล้ามเนื้อจะมีความหย่อนตัวเพิ่มมากขึ้นสำหรับผู้คลอดรายนี้อายุ 31 ปี G3P1011 คลอดปกติ Normal Delivery กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานขยายตัวได้ดี ไม่มีการหย่อยตัว

ช่องคลอด

   ผู้คลอดที่มีอายุมากกว่า 35 ปี มักมีระยะการคลอดที่ยาวนานเนื่องจากช่องเชิงกรานขยายตัวไม่ดี แต่ในครรภ์หลังจะใช้เวลาน้อยกว่าครรภ์แรก ผู้คลอดอายุ 31 ปี ผ่านการคลอดมาแล้ว 1ครั้ง คลอดทางธรรมชาติ ทำให้การขยายช่องคลอดใช้เวลาน้อยใช้เวลาในการคลอดเร็ว

ฝีเย็บ

    การเคยผ่านการตัดฝีเย็บหรือมีแผลเป็นบริเวณฝีเย็บ พื้นเชิงกรานจะหนา ฝีเย็บยืดขยายไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ระยะที่ 2 ของการคลอดไม่ดี การมี varicose vein ฝี หูด บริเวณฝีเย็บทำให้ไม่สามารถตัดฝีเย็บได้ ผู้คลอดเคยมีประวัติการคลอดทางธรรมชาติ มาแล้ว 1 ครั้ง ได้รับการตัดฝีเย็บมาก่อน โดยการสอบถามผู้ควรบอกว่าตัดด้านขวา จากการสังเกตไม่พบฝี หูด พังผืดบริเวณฝีเย็บ

ระยะที่ 3

 จากการคลำไม่พบก้อนนุ่มบริเวณเหนือหัวหน่าวและจากการสังเกตไม่พบลอนบริเวณหน้าท้อง แสดงว่าไม่มีสิ่งกีดขวางการคลอดของรก

Passenger

ทารก

ขนาดของทารก

ศีรษะทารกเป็นส่วนที่โตที่สุด ทารกที่มีขนาดใหญ่ศีรษะของทารกก็จะใหญ่ตามไปด้วยทำให้เกิดปัญหาศีรษะไม่สัมพันธ์กับช่องเชิงกราน

วัดรอบศีรษะของทารกจากส่วนที่นูนที่สุดมากึ่งกลางคิ้ว ได้เท่ากับ 34 cms

          ความยาวรอบอกวัดได้เท่ากับ 33 cms

    ลำตัวของทารกยาวเท่ากับ 50 cms

  ดังนั้นสัดส่วนของทารกอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ส่วนนำ

ส่วนนำของทารกจะอยู่ต่ำที่สุดในช่องเชิงกราน ทารกที่มีศีรษะเป็นส่วนนำจะคลอดง่ายกว่าส่วนนำเป็นก้นและไหล่

    ส่วนนำของทารกรายนี้คือ Vertex pressrntation การคลอดดำเนินไปได้เป็นอย่างดี ศีรษะของทารกไปกดกล้ามเนื้อบริเวณปากมดลูกให้ขยายกว้างขึ้นและแรงดันจากการหดรัดตัวจะผลักดันทารกออกมา

แนวลำตัว

ตามปกติทารกจะอยู่ในแนวขวางหรือแนวขนานกับแนวลำตัวของมารดาจะสามารถคลอดได้ปกติ

     ทารกรายนี้อยู่ในแนว Longitudinal lie อยู่ในแนว A-P ในท่า ROA สามารถคลอดทางช่องคลอดได้ตามการหดรัดตัว

ระยะที่ 1

ทารก

          ขนาดของศีรษะทารกจากการตรวจครรภ์ท่าที่1 Fundal grip  HOF ได้ 33 cms. สัมพันธ์กับอายุครรภ์

ส่วนนํา จากการตรวจครรภ์ท่าที่3 Pewilk’s grip พบว่าส่วนนำ คือ Vertex presentation และมี Head Engagementส่วนนำมีการเข้าสู่เชิงกราน

  แนวลําตัวจากการตรวจครรภ์ที่2 Umbilical grip มีรูปร่าง Ovoid shape ซึ่งอยู่ในแนว Longitudinal lieซึ่งเป็นแนวปกติ

            จํานวนทารกในครรภ์ จากการตรวจครรภ์พบว่าทารกในครรภ์มีเพียง 1 คน สามารถคลอดได้ทางช่องคลอด

รก

     จากการ pv คลำปากมดลูกไม่พบรกแสดงว่าไม่มีรกเกาะต่ำ

น้ำคร่ำ

  ถุงน้ำคร่ำยังไม่มีการแตก

ระยะที่ 3

รก

   ทำคลอดรกแบบ Modified cread’s maneuver จากการตรวจรก รกด้านลูกมีสายสะดือเกาะ Lateral insertion มีเส้นเลือดแผ่สิ้นสุดก่อนถึงขอบรก 1 cms รกด้านแม่มีสีแดงเปลือกลิ้นจี่ เนื้อรกครบไม่มีการฉีกขาดหลุดหาย มี 15-20 Lobe ไม่พบ Infarction และ Calcification เยื่อหุ้มรกมีรอยแตกที่สั้นที่สุดห่างจากขอบรก 7 เซนติเมตร มีการลอกตัวแบบ Schultza’s methoa จึงไม่พบ valva sings

พบ Uterine   sing จากการมีมดลูกกลมแข็ง อยู่ในระดับต่ำกว่าสะดือ เฉียงไปทางขวา

    พบ Cord   sign สายสะดือมีความคลายเกลียว คลำไม่พบชีพจร จากการทดสอบ cord test ไม่มีการเคลื่อนตามของสายสะดือ

สายสะดือ

ประกอบด้วยเส้นเลือด 3 เส้น คือ Umbilical artery 2 เส้น และ Umbilical vein 1 เส้น

 สายสะดือเกาะแบบ Lateral insertion สายสะดือยาว 57 เซนติเมตร ไม่มี True knot และ False knot มีเส้นเลือดครบ 3 เส้นคือ Umbilical artery 2 เส้นและ Umbilical vein 1 เส้นดังนั้นไม่มีความผิดปกติ

ระยะที่ 2

น้ำคร่ำ

คลอดรายนี้มีถุงน้ำคร่ำแตกขณะเข้าไปในห้องคลอด เวลา 12.49 น. น้ำคร่ำมีลักษณะใส ไม่มีกลิ่นเหม็นไม่มีขี้เทาปนแสดงถึงไม่มีการขาดออกซิเจน