Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วัยชรา (Elderly) (ทฤษฎีที่สำคัญ (1. ทฤษฎีโมเลกุล ( Molecular theories )
…
วัยชรา (Elderly)
ทฤษฎีที่สำคัญ
1. ทฤษฎีโมเลกุล ( Molecular theories )
กล่าวว่าอายุขัยของสิ่งมีชีวิตเกิดจากปฎิสัมพันธ์ระหว่างยีนส์กับสิ่งแวดล้อม
- ทฤษฎีว่าด้วยพันธุกรรม ( Genetic Theory )
การเจริญเติบโตของเซลล์มีขีดจำกัด
- ทฤษฎีการกลายพันธุ์ ( Somatic mutation theory )
จำนวนการกลายพันธุ์ที่เพิ่มขึ้นมีผลร้ายต่อยีนส์และโครโมโซม ทำให้จำนวนยีนส์ที่ทำหน้าที่ปกติน้อยลงจนถึงจุดวิกฤต
- ทฤษฎีความผิดพลาด ( Error catatrophe)
มีการสะสมของข้อผิดพลาดในขั้นตอนของการสร้างโปรตีนในเซลล์
4.ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงการจับตัวของโปรตีนกับ DNA คือ มีการจับตัวกันแน่นขึ้นระหว่าง DNA กับ Histone จึงรบกวนการแปลรหัส มีผลต่อการสร้างโปรตีน
2. ทฤษฎีเซลล์ ( Cellular theories )
กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างและการทำหน้าที่ของเซลล์เมื่อเวลาผ่านไป มีผลต่อการสร้างสารต่าง ๆ จากเซลล์
มีผลต่อการสร้างสารต่าง ๆ จากเซลล์ เช่น พบว่ามีรงควัตถุ ( lipofuscin, aging pigment ) ในเซลล์
3. ทฤษฎีอนุมูลอิสระ ( The free rsdicals theory ) อธิบายการชราภาพโดยมุ่งเน้นกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในเซลล์
เช่น ไขมัน โปรตีน DNA เกิดปฏิกิริยาที่สำคัญคือ lipid peroxidation ทำให้ร่างกายมีการทำลายเยื่อหุ้มต่าง ๆ
-
สิ่งกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมภายใน เช่น กระบวนการทำงานตามปกติของเซลล์ การที่เซลล์เม็ดเลือดขาวทำลายแบคทีเรียหรือสิ่งแปลกปลอม เชื่อว่าเป็นตัวการสำคัญของกระบวนการชราและการเกิดโรค เช่น มะเร็ง สมองเสื่อม
4. ทฤษฎีบุคคล ( Organismic and systemic theories ) กล่าวถึงกระบวนการชราว่าเป็นการเสื่อมสภาพการทำหน้าที่ของระบบที่เป็นตัวสั่งการสำคัญในร่างกาย
-
พัฒนาการด้านต่างๆ
-
พัฒนาการทางด้านอารมณ์
อารมณ์ของผู้สูงอายุยังคงมีอารมณ์รัก ในบุคคลอันเป็นที่รักโดยเฉพาะสมาชิกในครอบครัว ได้แก่ คู่สมรส บุตร หลาน
เมื่อเกิดการสูญเสีย ผู้สูงอายุจะมีความเศร้าโศกอย่างมาก จะมีผลกระทบต่อจิตใจ สุขภาพกาย และพฤติกรรมของผู้สูงอายุค่อนข้างมาก
มีอารมณ์เหงา ว้าเหว่ บางรายอาจรู้สึกว่าคุณค่าของตนเองลดลงเนื่องจากต้องพึ่งพาบุตรหลานในเรื่องการประกอบกิจวัตรประจำวัน ค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาล รู้สึกว่าตนเองเป็นภาระของคนอื่น มักแสดงอาการหงุดหงิด น้อยใจ ต่อบุตรหลาน
พัฒนาการทางด้านสังคม
ทฤษฎีพัฒนาบุคลิกภาพของอิริคสัน ผู้สูงอายุอยู่ในขั้นพัฒนาการขั้นที่ 8 คือความมั่นคงและความหมดหวัง
( integrity vs. despair )
เป็นวัยที่สุขุม รอบคอบ ฉลาด ยอมรับความจริง ภูมิใจในการถ่ายทอดประสบการณ์ให้บุตรหลาน และคนรุ่นหลัง มีความมั่นคงในชีวิต
ตรงข้ามกับผู้สูงอายุที่ล้มเหลวจะไม่พอใจในชีวิตที่ผ่านมา ไม่ยอมรับสภาพที่เปลี่ยนไป รู้สึกคับข้องใจท้อแท้ในชีวิต
สังคมของผู้สูงอายุคือสังคมในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมวัยแต่จากการที่กลุ่มเพื่อนมีการตายจากกัน หรือต่างคนต่างอยู่ในครอบครัวของตน หรือจากปัญหาสุขภาพกาย ทำให้ไม่สามารถติดต่อกันได้
กิจกรรมของผู้สูงอายุจึงมักเป็นกิจกรรมการเลี้ยงดูหลาน ดูแลบ้านให้กับบุตรหลาน บางรายจะไปทำกิจกรรมที่วัด ทำบุญ ฟังธรรม บางรายเข้าร่วมกิจกรรมในชุมชน เช่น เป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ
พัฒนาการทางด้านสติปัญญา
เมื่อเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ สมองจะฝ่อและมีน้ำหนักลดลง เลือดมาเลี้ยงสมองได้น้อย มีภาวะความดันโลหิตสูง เซลล์ประสาทตายเพิ่มขึ้นและจำนวนเซลล์ลดลงตามอายุ ทำให้สมองเสื่อมหรือถูกทำลายไป
มักพบอาการความจำเสื่อมโดยเฉพาะความจำในเหตุการณ์ปัจจุบัน (recent memory) และความจำเฉพาะหน้า (immediate memory)
-
ปัญหาในวัยสูงอายุ
ปัญหาด้านสุขภาพกาย
• อาการทางสมองแบบเฉียบพลันอาจเกิดจากสาเหตุทางกาย เช่นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย
อาการทางสมองแบบเรื้อรัง คือหลอดเลือดแดงที่เลี้ยงสมองแข็งตัว
• โรคหัวใจและหลอดเลือด ที่พบบ่อยคือ โรคหลอดเลือดแดงอุดตัน (Atherosclersis) โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary heart disease) ความดันโลหิตสูง (Hypertention)
• ความผิดปกติของทางเดินอาหาร การรับรสรับกลิ่นไม่ดี การย่อยและการดูดซึมอาหารมีประสิทธิภาพลดลง ทำให้เกิดอาการไม่สุขสบาย
• โรคของกระดูกและข้อ ที่พบบ่อยคือ โรคข้อเสื่อม ข้ออักเสบรูมาตอยด์ เก๊าท์ กระดูกพรุน เกิดปัญหากระดูกหักง่ายตามมา
-
-
• ปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะรับความรู้สึก ที่สำคัญคือ หู มีการได้ยินลดลง เกิดตาต้อกระจก (Cataract) ปัญหาสายตายาว
ปัญหาสุขภาพจิต
ปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงบทบาททางสังคม ปัญหาค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยผลจากการรักษา ความรู้สึกการเป็นภาระของบุตรหลาน
ปัญหาการสูญเสียบุคคลใกล้ชิดอาจส่งผลให้ผู้สูงอายุไม่สามารถปรับตัวรับกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ บางรายอาจมีอาการซึมเศร้า (depression)
-
-