การใช้ภาษาไทยสร้างข้อสอบ

การเขียนข้อสอบให้มีคุณภาพดี

ลักษณะของแบบทดสอบที่ดี

หลักทั่วไปในการเขียนข้อสอบ

รูปแบบและหลักการสร้างข้อสอบ

เข้าใจจุดมุ่งหมายของรายวิชาและมีความรู้

มีความรู้เกี่ยวกับหลักการเขียนข้อสอบ

มีความสามารถในการใช้ภาษา

รู้วิธีการถามในลักษณะแปลกใหม่

มีทักษะในการวิจารณ์ข้อสอบ

ความตรงหรือความเที่ยงตรง

ความตรงตามเนื้อหา

ความตรงตามโครงสร้าง

ความตรงตามพยากรณ์

ความตรงตามสภาพ

ความเที่ยงหรือความเชื่อมั่น

สามารถวัดแล้วได้ผลคงเดิมไม่ว่าจะนำมาใช้วัดกี่ครั้งก็ตาม

ความเป็นปรนัย

อ่านแล้วสามารถเข้าใจได้ตรงกัน

ให้คะแนนได้ตรงกัน

แปลความหมายของคะแนนได้ตรงกัน

ค่าอำนาจจำแนกเหมาะสม

แบบทดสอบที่สามารถแสดงความแตกต่างของสิ่งที่ต้องการวัดได้

ค่าความยากง่ายพอเหมาะ

คุณลักษณะของข้อสอบที่มีค่าความยากง่ายเหมาะสมกับเนื้อหา

มีความยุติธรรม

ถามลึก

มีความจำเพาะเจาะจง

มีลักษณะยั่วยุ

มีลักษณะท้าทายให้อยากทำข้อสอบ

มีประสิทธิภาพ

ถามให้ครอบคลุม

ถามเฉพาะสิ่งที่สำคัญ

ถามให้ลึก

ถามในสิ่งที่เป็นแบบอย่างที่ดี

ถามให้จำเพาะเจาะจง

ข้อสอบแบบอัตนัย

เป็นข้อสอบที่เปิดโอกาสให้ผู้ตอบแสดงความรู้หรือความคิดเห็นส่วนตัวได้

หลักการสร้างข้อสอบแบบอัตนัย

กำหนดให้ชัดเจนว่าต้องการวัดพฤติกรรมด้านใด

เขียนคำถามให้ชัดเจน

เขียนคำถามวัดพฤติกรรม ตั้งแต่ความเข้าใจขึ้นไป

เขียนคำถามโดยใช้สถานการณ์ใหม่ๆที่น่าสนใจ

ถามเฉพาะสิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญของเรื่อง

กำหนดความซับซ้อนและความยากให้เหมาะสมกับวัย

ควรคิดเฉลยคำตอบไปพร้อมๆกับการเขียนข้อสอบ

ไม่ควรให้มีการเลือกตอบเป็นบางข้อ

ลักษณะคำถามของข้อสอบอัตนัย

ถามความรู้-ความจำ

ถามความเข้าใจ

การนำไปใช้

เช่น

ถามให้คาดคะเนผลที่จะเกิด

ถามให้หาความสัมพันธ์

การวิเคราะห์

การสังเคราะห์

เช่น

ถามเกี่ยวกับแผนงานหรือโครงการ

ถามให้แสดงความคิดสร้างสรรค์

การประเมินค่า

ถามให้ตัดสินใจ

ถามให้อภิปราย

ข้อสอบปรนัย

แบบถูกผิด (Ture - false)

ข้อคำถามที่กำหนดข้อความให้นักเรียนพิจารณาเลือกตอบสองทางเลือก

หลักการข้อสอบเขียนแบบถูกผิด

ข้อความจะต้องมีความหมายชัดเจนไม่กำกวม

ข้อความที่กำหนดให้ต้องตัดสินได้ว่าถูกหรือผิดจริง

แต่ละข้อควรถามจุดสำคัญเพียงเรื่องเดียว

ไม่ควรสร้างข้อคำถามในเชิงปฏิเสธ

ควรหลีกเลี่ยงการลอกข้อความจากหนังสือโดยตรง

หลีกเลี่ยงการใช้คำที่เป็นเครื่องชี้แนะคำตอบ

ข้อความที่ถามทุกข้อควรมีความยาวใกล้เคียงกัน

อย่าวางข้อถูกและข้อผิดเป็นระบบ

ควรให้มีข้อถูกและข้อผิดพอๆกัน

แบบเติมคำ (Completion)

ข้อสอบที่ต้องการให้ผู้สอบข้อความที่สำคัญในช่องว่างที่กำหนดให้

หลักการสร้างข้อสอบแบบเติมคำ

เขียนคำถามให้ตอบเพียงคำตอบเดียว

เขียนคำถามให้ผู้ตอบตอบได้สั้นที่สุด

ควรให้เติมส่วนที่เป็นสาระสำคัญ

เว้นช่องว่างให้เติมให้เพียงพอ

เว้นช่องว่างที่จะเติมเท่ากันทุกช่อง

ไม่ควรลอกข้อความจากหนังสือ

ไม่ควรเว้นช่องว่างให้เติมหลายช่อง

ไม่ควรให้มีข้อความที่แนะคำตอบ

หลีกเลี่ยงการใช้คำที่จะให้คำตอบที่ไม่แน่นอน

แบบจับคู่ (Matching)

หลักการเขียนข้อสอบแบบจับคู่

เขียนคำชี้แจงให้ชัดเจน

เนื้อหาที่จะนำมาออกข้อสอบแบบจับคู่ควรเป็นเรื่องเดียวกัน

ควรให้คำตอบมีมากกว่าคำถาม

จำนวนข้อคำถามไม่ควรมากเกินไป

ควรให้คำชี้แจง คำถามและคำตอบอยู่หน้าเดียวกัน

หลีกเลี่ยงคำถามที่แนะคำตอบ

แบบเลือกตอบ (Multiple choices)

ข้อสอบที่ประกอบด้วยข้อความที่เป็นข้อคำถาม และมีคำตอบให้เลือกหลายๆคำตอบ

ข้อสอบประเภทนี้มี ๒ ส่วน

ตัวคำถาม

ตัวเลือก

รูปแบบข้อสอบแบบเลือกตอบ

การใช้ภาษาในการเขียนข้อสอบ

ต้องใช้ภาษาระดับทางการ

คำถามต้องเขียนในรูปประโยคคำถาม

ใช้ประโยคที่เฉพาะเจาะจง ชัดเจน ไม่กำกวม

ต้องใช้ตัวเลือกที่เป็นเรื่องเดียวกัน

อย่าให้ตัวถูก/ผิดต่างกันอย่างชัดเจน

ตัวเลือกแต่ละข้อต้องเป็นอิสระจากกัน

แบบคำถามโดด (Single question)

ชนิดให้หาคำตอบถูก

แบบตัวเลือกคงที่ (Constant Choice)

ชนิดคำตอบรวม

ชนิดให้เรียงลำดับ

คำตอบที่ดีที่สุด

คำตอบถูกต้องแน่นอน

job-exam-test-vector-illustration_138676-243

77904217-good-exam-results-paper-sheet-with-pen-score-of-test-vector-illustration-

student-illustration_23-2147513439

depositphotos_117061182-stock-illustration-vector-illustration-design-cartoon-student

นายนฤเบศ ผิวอ่อนดี 6120602062