Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพ.ศ. ๒๕๔๖ (หมวด ๑ คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก (มาตรา…
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพ.ศ. ๒๕๔๖
มาตรา ๒1[๑] พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเลิก
(๑) ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๓๒ ลงวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ (๒) ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๙๔ ลงวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
“เด็ก” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
“เด็กเร่ร่อน” หมายความว่า เด็กที่ไม่มีบิดามารดาหรือผู้ปกครอง
“เด็กกําพร้า” หมายความว่า เด็กที่บิดาหรือมารดาเสียชีวิต
“เด็กที่อยู่ในสภาพยากลําบาก” หมายความว่า เด็กที่อยู่ในครอบครัวยากจน
“เด็กพิการ” หมายความว่า เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย สมอง สติปัญญา หรือจิตใจ
“เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทําผิด” หมายความว่า เด็กที่ประพฤติตนไม่สมควร
“นักเรียน” หมายความว่า เด็กซึ่งกําลังรับการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา“นักศึกษา” หมายความว่า เด็กซึ่งกําลังรับการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่าอยู่ใน สถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน
“บิดามารดา” หมายความว่า บิดามารดาของเด็กไม่ว่าจะสมรสกันหรือไม่
“ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดามารดา
“ครอบครัวอุปถัมภ์” หมายความว่า บุคคลที่รับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูอย่างบุตร
“การเลี้ยงดูโดยมิชอบ” หมายความว่า การไม่ให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน
“ทารุณกรรม” หมายความว่า การกระทําหรือละเว้นการกระทําด้วยประการใดๆ จนเป็นเหตุให้เด็ก เสื่อมเสียเสรีภาพ
“สืบเสาะและพินิจ” หมายความว่า การค้นหาและรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคลและนํามา วิเคราะห์
“สถานรับเลี้ยงเด็ก” หมายความว่า สถานที่รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กที่มีอายุไม่เกินหกปีบริบูรณ์
รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๕ ให้ศาลที่มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัวตามกฎหมายว่าด้วยการ จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีตาม พระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ และให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงมีอํานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงหรือระเบียบ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับราชการของกระทรวงนั้น
หมวด ๑
คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก
มาตรา ๗ ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทยฯลฯ เป็นกรรมการ
มาตรา ๘ ให้สํานักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทําหน้าที่เป็น สํานักงานเลขานุการของคณะกรรมการ
มาตรา ๙ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตําแหน่งคราวละสามปี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตําแหน่งเพราะครบวาระอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้ แต่ต้องไม่เกิน สองวาระติดต่อกัน
มาตรา ๑๐ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระตามมาตรา ๙ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่ง เมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) รัฐมนตรีให้ออกเพราะบกพร่องหรือไม่สุจริตต่อหน้าที่ (๕) เป็นบุคคลล้มละลาย
มาตรา ๑๑ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งก่อนครบวาระ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้ง บุคคลซึ่งมีคุณสมบัติเช่นเดียวกันตามมาตรา ๗ เป็นกรรมการแทน และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งแทนอยู่ ในตําแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน
มาตรา ๑๒ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดํารงตําแหน่งครบวาระแล้ว แต่ยังมิได้มีการแต่งตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตําแหน่งตามวาระปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อน
มาตรา ๑๓ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวน กรรมการทั้งหมดจึงเป็นองค์ประชุม
มาตรา ๑๔ คณะกรรมการมีอํานาจและหน้าที่ (๑) เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบาย (๒) เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวงและระเบียบเพื่อปฏิบัติตาม พระราชบัญญัตินี้ (๓) วางระเบียบโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการรับเงิน (๗) ติดตาม ประเมินผลและตรวจสอบการดําเนินงานของคณะกรรมการคุ้มครองเด็ก
มาตรา ๑๕ คณะกรรมการมีอํานาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทํางานเพื่อปฏิบัติการตามที่ คณะกรรมการมอบหมาย ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๑๓ มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะอนุกรรมการหรือคณะทํางาน โดย
อนุโลม
มาตรา ๑๖ ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร เป็นประธานกรรมการ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นรองประธานกรรมการ ผู้แทนสํานักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนสํานักงานอัยการสูงสุด
มาตรา ๑๗ ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน กรรมการ รองผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นรองประธานกรรมการ
มาตรา ๑๘ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๒ มาใช้บังคับกับการ ดํารงตําแหน่ง การพ้นจากตําแหน่ง การแต่งตั้งกรรมการแทน และการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม มาตรา ๑๖ และมาตรา ๑๗ โดยอนุโลม
มาตรา ๒๑ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้กรรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้า พนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
หมวด ๒
การปฏิบัติต่อเด็ก
มาตรา ๒๒ การปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใด ให้คํานึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสําคัญ
มาตรา ๒๓ ผู้ปกครองต้องให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และพัฒนาเด็กที่อยู่ในความ ปกครองดูแลของตนตามสมควรแก่ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่น
มาตรา ๒๔ ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้อํานวยการเขต นายอําเภอ ปลัดอําเภอผู้เป็น หัวหน้าประจํากิ่งอําเภอ หรือผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่ รับผิดชอบ ไม่ว่าเด็กจะมีผู้ปกครองหรือไม่ก็ตาม
มาตรา ๒๕ ผู้ปกครองต้องไม่กระทําการ ดังต่อไปนี้ (๑) ทอดทิ้งเด็กไว้ในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือสถานพยาบาลหรือไว้กับบุคคลที่รับจ้างเลี้ยงเด็ก(๒) ละทิ้งเด็กไว้ณ สถานที่ใดๆ โดยไม่จัดให้มีการป้องกันดูแลสวัสดิภาพ๓) จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งที่จําเป็นแก่การดํารงชีวิต๔) ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการขัดขวางการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็ก(๕) ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการเลี้ยงดูโดยมิชอบ
มาตรา ๒๖ ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ห้ามมิให้ผู้ใดกระทําการ
มาตรา ๒๗ ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศประเภทใด ซึ่ง ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครอง โดยเจตนาที่จะทําให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ
มาตรา ๒๘ ในกรณีผู้ปกครองตกอยู่ในสภาพไม่อาจให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรม สั่งสอน และ พัฒนาเด็กได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องดําเนินการให้การสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๒๙ ผู้ใดพบเห็นเด็กตกอยู่ในสภาพจําต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพตาม หมวด ๓ และหมวด ๔ จะต้องให้การช่วยเหลือเบื้องต้นและแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครองหรือ ตํารวจ หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา ๒๔ โดยมิชักช้า
มาตรา ๓๐ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามหมวด ๓ และหมวด ๔ มีอํานาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (๑) เข้าไปในเคหสถาน สถานที่ใดๆในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระ อาทิตย์ตกเพื่อตรวจค้น(๒) ซักถามเด็กเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าเด็กจําต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ (๓) มีหนังสือเรียกผู้ปกครอง หรือบุคคลอื่นใดมาให้ถ้อยคําหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพความ เป็นอยู่ ความประพฤติ สุขภาพ และความสัมพันธ์ในครอบครัวของเด็ก
มาตรา ๓๑ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตาม ประมวลกฎหมายอาญา
หมวด ๓
การสงเคราะห์เด็ก
มาตรา ๓๒ เด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ได้แก่(๑) เด็กเร่ร่อน หรือเด็กกําพร้า(๒) เด็กที่ถูกทอดทิ้ง (๓) เด็กที่ผู้ปกครองไม่สามารถอุปการะเลี้ยงดูได้ด้วยเหตุใดๆ(๔) เด็กที่ผู้ปกครองมีพฤติกรรมหรือประกอบอาชีพไม่เหมาะสมอันอาจส่งผลกระทบต่อ พัฒนาการทางร่างกายหรือจิตใจของเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแล (๕) เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยมิชอบ (๖) เด็กพิการ
มาตรา ๓๓ ในกรณีพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา ๒๔ ได้รับ แจ้งจากบุคคลตามมาตรา ๒๙ หรือพบเห็นเด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ตามมาตรา ๓๒ ให้พิจารณาให้การ สงเคราะห์ตามวิธีการที่เหมาะสม
มาตรา ๓๔ ผู้ปกครองหรือญาติของเด็ก อาจนําเด็กไปขอรับการสงเคราะห์ที่กรมพัฒนาสังคมและ สวัสดิการหรือสํานักงานพัฒนาสังคมและสวัสดิการจังหวัด หรือที่สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ หรือสถานพัฒนา และฟื้นฟูของเอกชน เพื่อขอรับการสงเคราะห์ได้
มาตรา ๓๕ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา ๒๔ พบเห็น เด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ตามมาตรา ๓๒ (๑) และ (๒) หรือได้รับแจ้งจากบุคคลตามมาตรา ๒๙ ให้สอบถาม เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับเด็ก
มาตรา ๓๖ ในระหว่างที่เด็กได้รับการสงเคราะห์ตามมาตรา ๓๓ (๒) (๔) หรือ(๖) หากปรากฎว่า เป็นเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทําผิดและพึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ ให้ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี มีอํานาจสั่งให้ใช้มาตรการคุ้มครองสวัสดิภาพแก่เด็กตามหมวด ๔ ได้
มาตรา ๓๗ เมื่อสถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ หรือสถานพัฒนาและฟื้นฟูได้รับตัวเด็กไว้ตาม มาตรา ๓๓ (๕) (๖) หรือ (๗) ให้ผู้ปกครองสวัสดิภาพรีบสืบเสาะและพินิจเกี่ยวกับตัวเด็กและครอบครัว และ เสนอความเห็นเกี่ยวกับวิธีการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กแต่ละคนพร้อมด้วยประวัติไปยังปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี โดยมิชักช้า และให้ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการตามที่ เห็นสมควรต่อไป
มาตรา ๓๘ ในกรณีที่ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้เด็กเข้ารับการสงเคราะห์โดย ผู้ปกครองไม่ยินยอมตามมาตรา ๓๓ วรรคสอง กรณีที่ผู้ปกครองของเด็กไม่เห็นด้วยกับกําหนดระยะเวลาตามมาตรา ๓๓ วรรคสาม หรือกรณีที่ผู้ปกครองยื่นคําร้องขอรับเด็กไปปกครองดูแลเองแต่ได้รับการปฏิเสธจากปลัดกระทรวง หรือผู้ว่าราชการจังหวัดตามมาตรา ๓๓ วรรคสี่ ผู้ปกครองย่อมมีสิทธินําคดีไปสู้ศาลตามมาตรา ๕ ในเขตท้องที่นั้น ภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันรับทราบคําสั่ง
มาตรา ๓๙ ในกรณีที่ผู้ปกครองซึ่งได้รับเด็กกลับมาอยู่ในความดูแล มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะให้ การเลี้ยงดูโดยมิชอบแก่เด็กอีก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา ๒๔ ให้ คําแนะนําแก่ผู้ปกครอง หากผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตามคําแนะนําก็ให้ยื่นคําขอต่อปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอําเภอหรือปลัดอําเภอผู้เป็นหัวหน้าประจํากิ่งอําเภอ แล้วแต่กรณี เพื่อเรียกผู้ปกครองมาทําทัณฑ์บนว่าจะไม่ กระทําการใดอันมีลักษณะเป็นการให้การเลี้ยงดูโดยมิชอบแก่เด็กอีกและให้วางประกันไว้เป็นจํานวนเงินตามสมควร แก่ฐานานุรูป แต่จะเรียกประกันไว้ได้ไม่เกินระยะเวลาสองปี ถ้ากระทําผิดทัณฑ์บนให้ริบเงินประกันเป็นของกองทุน คุ้มครองเด็กตามมาตรา ๖๙
การให้คําแนะนําหรือการเรียกประกันให้คํานึงถึงฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครองและประโยชน์ สูงสุดของเด็กเป็นสําคัญ
หมวด ๔
การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
มาตรา ๔๐ เด็กที่พึงได้รับการค้มครองสวัสดิภาพได้แก่(๑) เด็กถูกทารุณกรรม (2) เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทําผิด(3) เด็กที่อยู่ในสภาพที่จําต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดัภาพตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๔๑ ผู้ใดพบเห็นหรือประสบพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่ามีการกระทำทารุณกรรมต่อเด็กให้รีบแจ้งหรือรายงานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตาม มาตรา ๒๔
มาตรา ๔๒ การดําเนินการคุ มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา ๔๑ วรรคสอง ต้องรีบจัดให้มีการ ตรวจรักษาทางร่ างกายและจิตใจทันทีถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรต้องสืบเสาะและพินิจเกี่ยวกับเด็กและ ครอบครัวเพื่อหาวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสมแก่เด็กก็อาจส่งตัวเด็กไปสถานแรกรับก่อนได หรือถ้า จําเป็ นต้องให้การสงเคราะห์ก็ให้ พิจารณาให้ การสงเคราะห ตามมาตรา ๓๓ และถ้ าจําเป็นต้องให้การฟื้นฟูสภาพ จิตใจก็ให รีบส งเด็กไปยังสถานพัฒนาและฟื้นฟู
มาตรา ๔๓ กรณีที่ผู้ปกครองหรือญาติของเด็กเป็นผู้กระทําทารุณกรรมต่อเด็กถ้ามีการฟ้อง คดีอาญาแก่ ผู้ กระทําผิดและมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ ถูกฟ้องนั้นจะกระทําทารุณกรรมแก่เด็กอีกก็ให้ศาลที่พิจารณาคดี นั้นมีอํานาจกําหนดมาตรการคุมความประพฤติผู้ นั้นห้ามเข้าเขตกําหนด หรือห้ามเข้ าใกล ตัวเด็กในระยะที่ศาล กําหนดเพื่อป้องกันมิให้ กระทําการดังกล่าวและจะสั่งให้ผู้ นั้นทําทัณฑ์บนตามวิธีการที่กําหนดไว้ ตามมาตรา ๔๖ และ มาตรา ๔๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญาด้วยก็ได
มาตรา ๔๔ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา ๒๔ พบเห็น หรือได้ รับแจ้ งจากผู้ พบเห็นเด็กที่เสี่่ยงต่อการกระทําผิดให้ สอบถามเด็กและดําเนินการหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวเด็ก รวมทั้งสภาพความสัมพันธ์ ภายในครอบครัวความเป็นอยู่การเลี้ยงดูอุปนิสัยและความประพฤติของเด็กเพื่อทราบ ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและถ้าเห็นว่าจําเป็นต้องคุ้มครองสวัสดิภาพแก่ เด็กโดยวิธีส่งเข้าสถานคุ้มครองสวัสดิภาพหรือ สถานพัฒนาและฟื้นฟูก็ให้ เสนอประวัติพร้อมความเห็นไปยังปลัดกระทรวงหรือผู้ ว่าราชการจังหวัดแล้วแต่ กรณีเพื่อ พิจารณาสั่งให้ ใช้ วิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสมแก่เด็ก
มาตรา ๔๕ ห้ามมิให้ เด็กซื้อหรือเสพสุราหรือบุหรี่หรือเข้ าไปในสถานที่เฉพาะเพื่อการจําหน่ ายหรือ เสพสุราหรือบุหรี่หากฝ่าฝืนให้ พนักงานเจ้าหน้าที่สอบถามเด็กเพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและมีหนังสือเรียก ผู้ ปกครองมาร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือว่ากล่าวตักเตือนให้ ทําทัณฑ์ บนหรือมีข้อตกลงร วมกันเกี่ยวกับวิธีการและ ระยะเวลาในการจัดให้ เด็กทํางานบริการสังคมหรือทํางานสาธารณประโยชน์ และอาจวางข้อกําหนดให้ ผู้ ปกครองต้อง ปฏิบัติข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อตามมาตรา ๔๔ วรรคสอง หรือวางข้อกําหนดอื่นใดเพื่อแก้ไข หรือป้ องกันมิให้ เด็ก กระทําความผิดขึ้นอีกก็ได
มาตรา ๔๖ ในกรณีที่ปลัดกระทรวงหรือผู้ ว่าราชการจังหวัดสั่งให้ ส่ งเด็กเข้ารับการคุ้มครอง สวัสดิภาพหรือในกรณีพนักงานเจ้ าหน้ าที่ออกข ้อกําหนดให้ เด็กทํางานบริการสังคมหรือทํางานสาธารณประโยชน์ ตาม มาตรา ๔๕ หากผู้ ปกครองไม่ เห็นด้ วยให้ มีสิทธ นําคดีไปสู้ ศาลตามมาตรา ๕ ภายในหนึ่งร้ อยยี่สิบวันนับแต่ วัน รับทราบคําสั่ง
มาตรา ๔๗ วิธีการดําเนินการคุ้ มครองสวัสดิภาพเด็กนอกจากที่บัญญัติไว้ ในหมวดนี้ให้ เป็นไปตาม ระเบียบที่คณะกรรมการกําหนด
หมวด ๕
ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
มาตรา ๔๘ ในการดําเนินการสงเคราะหآ์คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติแก่ เด็ก ตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นถ้าพนักงานเจ้ าหน้ าที่เห็นว่ามีเหตุสมควรแต่งตั้งผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเพื่อ กํากับดูแลเด็กคนใด ก็ให้ ยื่นคําขอต่อปลัดกระทรวงหรือผู้ ว่าราชการจังหวัดแล้วแต่ กรณีให้ แต่งตั้งพนักงาน เจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ หรือบุคคลที่สมัครใจและมีความเหมาะสมเป็นผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กโดยจะ กําหนดสถานที่อยู่ อาศัยของเด็กที่อยู ในการกํากับดแลของผู้ คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กด้วยก็ได้ การแต่งตั้งผู้ คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กให้ มีระยะเวลาคราวละไม่ เกินสองปี
มาตรา ๔๙ ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กมีอํานาจและหน้าที่่ดังต่อไปนี้(๑) เยี่ยมเยียน ให คําปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องความประพฤติการศึกษา และ การประกอบอาชีพแก่เด็กที่อยู่ในการกํากับดูแล
(๒) เยี่ยมเยียน ให้ คําปรึกษา และแนะนําแก่ ผู้ ปกครองเกี่ยวกับเรื่องการอบรมสั่งสอนและเลี้ยงดู เด็กที่อยูในการกํากับดูแล(๓) จัดทํารายงานและความเห็นเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ ของเด็กและของผู้ ปกครองเสนอต่อ ปลัดกระทรวง
มาตรา ๕๐ ห ามมิให้ ผู้ ปกครองสวัสดิภาพหรือผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเปิดเผยชื่อตัวชื่อสกุล ภาพหรือข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับตัวเด็กผู้ ปกครอง ในลักษณะที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ ชื่อเสียง เกียรติคุณหรือสิทธิ ประโยชน์ อย่างใดอย่างหนึ่งของเด็กหรือผู ปกครอง
ห้ ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศประเภทใดซึ่งข้อมูลที่เปิดเผยโดยฝ่าฝืนบทบัญญัติในวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง
หมวด ๖
สถานรับเลี้ยงเด็กสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพและสถานพัฒนาและฟื้นฟู
มาตรา ๕๑ ปลัดกระทรวงมีอํานาจจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถาน คุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูได้ ทั่วราชอาณาจักร และผู้ ว่าราชการจังหวัดมีอํานาจจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพและสถานพัฒนาและฟื้นฟูภายในเขตจังหวัดนั้น
มาตรา ๕๒ ภายใต้บังคับของมาตรา ๕๑ ผู้ ใดจะจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กสถานแรกรับสถาน สงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้น ฟูต้องขอรับใบอนุญาตต่อปลัดกระทรวงหรือผู้ ว่า ราชการจังหวัดแล้วแต่ กรณี
มาตรา ๕๓ ให ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัดคณะกรรมการ คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดกํากับดูแลและส่ งเสริมสนับสนุนการดําเนินงานของสถาน รับเลี้ยงเด็กสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูที่อยู ในเขตพื้นที่ที่ รับผิดชอบ
มาตรา ๕๔ ในสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟู จะต้องไม่ ดําเนินกิจการในลักษณะแสวงหากําไรในทางธุรกิจและต้องมีผู้ ปกครองสวัสดิภาพเป็นผู้ปกครองดูแลและ บังคับบัญชา
มาตรา ๕๕ ให้ปลัดกระทรวงและผู้ ว่าราชการจังหวัดมีอํานาจแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้ปกครองสวัสดิ ภาพของสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูตามหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๕๘ ผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานสงเคราะห์ มีอํานาจและหน้าที่ตามมาตรา ๕๖ (๑) (๒) (๓) และ (๔) และให้ มีอํานาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) จัดการศึกษา อบรม สั่งสอน และฝ กหัดอาชีพแก เด็กที่อยู ในความปกครองดูแลของสถาน สงเคราะห์ให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน
(๒)จัดบริการแนะแนวให้ คําปรึกษาและช่วยเหลือแก่ ผู้ปกครอง
(๓) สอดส่องและติดตามให้คําปรึกษา แนะนําและช่วยเหลือแก่เด็กที่ออกจากสถานสงเคราะห์ ไป แล้วเพื่อเป็นการสงเคราะห้ หรือคุ้มครองสวัสดิภาพแก่ เด็กที่เคยอยูในสถานสงเคราะห มิให้ กลับไปสู่สภาพเดิม
มาตรา ๖๑ ห้ามมิให้เจ้าของผู้ปกครองสวัสดิภาพและผู้ปฏิบัติงานในสถานรับเลี้ยงเด็กสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูทําร้ายร่างกายหรือจิตใจ กักขังทอดทิ้ง หรือลงโทษเด็กที่อยู ในความปกครองดูแลโดยวิธีการรุนแรงประการอื่นเว้นแต กระทําเท่าที่สมควรเพื่ออบรมสั่งสอนตามระเบียบที่รัฐมนตรีกําหนด
มาตรา ๖๒ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่ได้รับมอบหมายจาก ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดให้ผู้ปกครองสวัสดิภาพเป็ นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
หมวด ๗
การส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา
มาตรา ๖๓ โรงเรียนและสถานศึกษาต้องจัดให้ มีระบบงานและกิจกรรมในการแนะแนวให้ คําปรึกษาและฝึกอบรมแก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ ปกครอง เพื่อส่งเสริมความประพฤติที่เหมาะสม ความรับผิดชอบต่อสังคม และความปลอดภัยแก่ นักเรียนและนักศึกษา ตามหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๖๔ นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษาและ ตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๖๕ นักเรียนหรือนักศึกษาผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๖๔ ให พนักงานเจ้ าหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบที่ รัฐมนตรีกําหนด และมีอํานาจนําตัวไปมอบแก่ ผู้ บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษาของนักเรียนหรือนักศึกษานั้นเพื่อ ดําเนินการสอบถามและอบรมสั่งสอนหรือลงโทษตามระเบียบ ในกรณีที่ไม สามารถนําตัวไปมอบไ้ด จะแจ้งด้วยวาจา หรือเป็นหนังสือก็ได
มาตรา ๖๖ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามหมวดนี้มีอํานาจดําเนินการเพื่อส่งเสริมความประพฤตินักเรียน และนักศึกษาดังต อไปนี้
(๑) สอบถามครูอาจารย์ หรือหัวหน้าสถานศึกษา เกี่ยวกับความประพฤติการศึกษา นิสัยและ สติปัญญาของนักเรียนหรือนักศึกษาที่ฝ่าฝืนมาตรา๖๔
(๖) ประสานงานกับผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา ครูผู้ปกครอง ตํารวจ หรือพนักงาน เจ้ าหน้ าที่อื่นเพื่อดําเนินการให้ เป็นไปตามหมวดนี้
มาตรา ๖๗ ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายหรือระเบียบเกี่ยวกับความประพฤติ ของนักเรียนหรือนักศึกษา ให้ พนักงานเจ้ าหน าที่มีอํานาจเข าไปในเคหสถาน สถานที่หรือยานพาหนะใดๆ ใน ระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถงพระอาทิตย์ตกหรือในระหว่างเวลาทําการเพื่อทําการตรวจสอบการฝ่ฝืนดังกล่าวได
หมวด ๘
กองทุนคุ มครองเด็ก
มาตรา ๖๘ ให รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งในสํานักงาน ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย เรียกว่า“กองทุนคุ้มครองเด็ก” เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายในการ สงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็กรวมทั้งครอบครัวและครอบครัวอุปถัมภ์ของเด็กตาม พระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๖๙ กองทุนประกอบด้วย (๑)เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้ (๒) เงินที่ได้รับจากงบประมาณรายจ่ายประจําปี (๓)เงินหรือทรัพย สินที่มีผู้ บริจาคหรือมอบให้ (๔)เงินอุดหนุนจากต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ (๕)เงินหรือทรัพย์ สินที่ตกเป็นของกองทุนหรือที่กองทุนได้ รับตามกฎหมายหรือโดยนิติกรรมอื่น(๖) เงินที่ริบจากเงินประกันของผู ปกครองที่ผิดทัณฑ์บนตามมาตรา๓๙ (๗) ดอกผลที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์ สินของกองทุน
มาตรา ๗๐ เงินและดอกผลที่กองทุนได้รับตามมาตรา ๖๙ ไม่ต้องนําส่งกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
มาตรา ๗๑ ให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุนคณะหนึ่งประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทน สํานักงบประมาณ ผู้แทนกรมบัญชีกลาง และผู้ ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้งไม่ เกินสามคน ในจํานวนนี้ต้องเป็นผู้แทนจากภาคเอกชนซึ่งเกี่ยวข้องกับงานด้านสวัสดิการเด็กอย่ างน อยหนึ่งคนเป็นกรรมการ และให้รอง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งลัดกระทรวงมอบหมายเป็นกรรมการและเลขานุการ
มาตรา ๗๒ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ มาตรา ๑๒ มาตรา ๑๓ และมาตรา ๑๕ มาใช บังคับกับการดํารงตําแหน่งการพ้นจากตําแหน่งและการประชุมของคณะกรรมการบริหารกองทุนและการ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการบริหารกองทุนโดยอนุโลม
มาตรา ๗๕ ให มีคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดําเนินงานของกองทุนจํานวนห าคน ประกอบด้วย ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ด้านการเงินการสวัสดิการเด็กและการประเมินผล และให้ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายเป็นกรรมการและเลขานุการ
มาตรา ๗๗ ให้คณะกรรมการบริหารกองทุนจัดทํางบดุลและบัญชีทําการส่ งผู้สอบบัญชีตรวจสอบ ภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่ วันสิ้นปี บัญชีทุกปี
หมวด ๙
บทกําหนดโทษ
มาตรา ๗๘ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๖ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๗๙ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๗ มาตรา ๕๐ หรือมาตรา ๖๑ ต้ องระหว่างโทษจําคุกไม่ เกินหก เดือนหรือปรับไม่ เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๘๐ ผู้ใด่ขัดขวางไม่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรา๓๐ (๑) หรือ(๕) หรือไม่ ยอมส่งเอกสารหรือส่งเอกสารโดยรู้อยู่ว่าเป็นเอกสารเท็จแก่พนักงานเจ้ าหน้ าที่เมื่อถูกเรียกให้ ส่ งตามมาตรา๓๐ (๔) ต้ อง ระหว่างโทษจําคุกไม่ เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่ เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๘๑ ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกําหนดของศาลในการคุมความประพฤติห้ามเข้ าเขตกําหนด หรือห้ามเข้าใกล้ ตัวเด็กตามมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่ เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้ง ปรับ
มาตรา ๘๒ ผู้ใดจัดตั้งหรือดําเนินกิจการสถานรับเลี้ยงเด็กสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ หรือสถานพัฒนาและฟื้นฟูตามมาตรา ๕๒ โดยมิได รับใบอนุญาตหรือใบอนุญาตถูกเพิกถอน หรือหมดอายุต้ องระวางโทษจําคุกไม่ เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๘๓ เจ้าของหรือผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานรับเลี้ยงเด็กสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ หรือสถานพัฒนาและฟื้ นฟูผู้ใดไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎกระทรวง หรือ ระเบียบที่ออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ต้ องระวางโทษจําคุกไม่ เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่ เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๘๔ ผู้ใดกระทําการเป็นผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูโดยมิได้รับแต่งตั้งตามมาตรา ๕๕ ต้องระหว่างโทษจําคุกไม่ เกินหนึ่ง เดือนหรือปรับไม่ เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๘๕ ผู้ใดกระทําการอันเป็นการยุยงส่งเสริมช่ วยเหลือหรือสนับสนุนให้ นักเรียนหรือ นักศึกษาฝ่าฝืนบทบัญญัติามมาตรา ๖๔ ต้องระหว่างโทษจําคุกไม่ เกินสามเดือน หรือปรับไม่ เกินสามหมื่นบาท หรือ ทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๘๖ ผู้ใดไม่อํานวยความสะดวกแก่ พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้ าที่ตามมาตรา ๖๗ ต้อง ระหว่างโทษจําคุกไม่ เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่ เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ
เหตุผลในการประกาศใช้ พระราชบัญญัติฉบับนี้คือเกี่ยวกับวิธีการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็กไม่เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบันสมควรกําหนดขั้นตอนและปรับปรุงวิธีการปฏิบัติต่ อเด็กให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้เด็กได้รับการอุปการะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน และมีพัฒนาการที่เหมาะสม อันเป็นการส่งเสริม ความมั่นคงของสถาบันครอบครัวรวมทั้งป้องกันมิให้เด็กถูกทารุณกรรมตกเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์ โดยมิชอบ หรือถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม และสมควรปรับปรุงวิธีการส่งเสริมความร่วมมือในการคุ้มครองเด็กระหว่างหน่วยงานของรัฐและเอกชนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กจึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้