Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ผู้สูงอายุหญิงไทย อายุ 58 ปี (ข้อมูลผู้สูงอายุ (เพศ หญิง อายุ 58 ปี…
ผู้สูงอายุหญิงไทย
อายุ 58 ปี
การพยาบาล
ความดันโลหิตสูง
ออกกำลังกาย เช่น เดิน วิ่งช้าๆ การบริหารท่าต่างๆ รำมวยจีน โยคะ
จำกัดปริมาณอาหารต่างๆ เช่น แคลเซียม โปแทสเซียม
รับประทานอาหาร DASH คือ อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ เน้นพวกธัญพืช เช่น ปลา นมไขมันต่ำ ถั่ว หลีกเลี่ยงเนื้อแดง น้ำตาล
ลดการรับประทานเกลือ ให้รับประทานเกลือไม่เกินวันละ 1500 มิลลิกรัม
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ไม่หยุดยาหรือปรับยาเอง
ทานยาตามแพทย์สั่งเสมอ และพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
ข้อเข้าเสื่อม
ออกกำลังกายที่กระแทกเข่าน้อย เช่น ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เดิน
ใช้แผ่นรองด้านในรองเท้าและสนับเข่า เพื่อช่วยพยุงและลดแรงกระแทกต่อเข่า
บริหารกล้ามเนื้อต้นขา
ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์พอดี
รับประทานยาแก้ปวด และยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
ไม่นั่งงอเข่าเกิน 90 องศา ไม่นั่งคุกเข่า นั่งยองๆ หรือนั่งพับเพียบ
ท่าบริหารแรงกระแทกต่ำ
ท่ายืนทรงตัว ยืนตัวตรงแล้วยกขาขึ้นพับไปข้างหลัง ค้างไว้ 10 นาที นำมือสองข้างไขว้กันบนหน้าอก วางขาและยกขาอีกข้าง ทำสลับกัน 6 รอบ
ท่านั่งเก้าอี้ วางเท้าข้างหนึ่งบนพื้น เหยียดขาอีกข้างขนานพื้น ค้างไว้ 10 วินาที แล้วสลับอีกข้าง โดยปฏิบัติเหมือนกันซ้ำอีก
ท่าลุกนั่งเก้าอี้ ทิ้งน้ำหนักลงให้เต็มฝ่าเท้า แล้วลุกนั่งให้ก้นสัมผัสกับเก้าอี้ในขณะนั่ง และเหยียดขาตรงในขณะยืน ท่าละ 20 วินาที 6 รอบ โดยหยุดพักระหว่างรอบ
ภาวะอ้วน
เลือกทำอาหารโดยวิธีต้ม นึ่ง ตุ๋น
ทานอาหารให้ตรงเวลา ค่อยๆลดปริมาณอาหารในมื้อ
เย็น. ออกกำลังกายโดยเดินช้าๆ ครั้งละ 20-30 นาที
หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดมัน ขนม นม เนย ของไขมันสูง
ดื่มน้ำมากๆ
เลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
ลดปริมาณข้าวหรือแป้งให้น้อยลง
เพิ่มการรับประทานผัก ผลไม้ ที่มีรสหวานน้อย
การนอนหลับ
ดูแลให้ผู้สูงอายุนอนและตื่นให้ตรงเวลาเป็นประจำทุกวัน
กระตุ้นให้ทำกิจกรรมกลางวัน เช่น การสนทนา ร่วมทำกิจกรรมภายในครอบครัว
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายก่อนนอน 3 ชั่วโมง เพราะการออกกำลังกายจะกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติอาจทำให้หลับยาก
ดื่มเรื่องดื่มอุ่นๆเช่น นม เนื่องจากนมมีสารแอลทริบโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่เป็นยานอนหลับทางธรรมชาติ
5.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น กาแฟ
6.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารปริมาณมากๆก่อนนอน
ดูแลจัดเตรียมอุปกรณ์ขับถ่ายปัสสาวะหรือจัดที่นอนอยู่ใกล้ห้องน้ำ
แนะนำผู้สูงอายุเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวด้านจิตใจและอารมณ์ ได้แก่ สวดมนต์ ทำสมาธิ
ไม่ดื่มน้ำช่วง 4-5 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
ถ่ายปัสสาวะก่อนเข้านอน
ถ้าไม่มีอาการง่วงนอนเมื่อถึงเวลาเข้านอน ก็เลื่อนเวลาเข้านอนหรือลุกทำกิจกรรมเบาๆที่ชอบ เช่น อ่านหนังสือ แทนการนอนพลิกตะแคงไปมา
ทฤฎีที่เกี่ยวข้อง
ทฤษฎีเชิงชีวภาพ
ทฤษฎีเชื่อมตามขวาง
(Cross linkage theory)
ผู้สูงอายุที่เป็นข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการที่กระดูกอ่อน ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องและดูดซับแรงกระแทกภายในข้อเข่ามีการสึกหรอและเสื่อมสภาพลง กระดูกในข้อเข่าจะเสียดสีกันเอง จากพฤติกรรมการนั่งยองๆ น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการอักเสบและมีอาการปวด ซึ่งภายในกระดูกอ่อนจะมีคอลลาเจนอยู่ เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนเหล่านี้ก็จะลดลง ตามที่ทฤษฎีกล่าวว่าเมื่อมีอายุมากขึ้น คอลลาเจนจะเสียความยืดหยุ่น ทำให้เกิดความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ
ความดันโลหิตสูงเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ในกรณีนี้ผู้สูงอายุชอบรับประทานอาหารรสชาติเค็ม ใส่ผงชูรสปรุงอาหาร ซื้อแกงถุงมารับประทานบางครั้ง และเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการเชื่อมตามขวางมากขึ้น สารfibrous protein จับตัวกันมากขึ้น ทำให้ fiber collagen หดตัว ขาดความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ผนังหลอดเลือดมีแรงตึงตัวน้อยลง เสื่อม เปราะ แตกง่าย หัวใจทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกายส่วนต่างๆเป็นเหตุให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง
ทฤษฎีอนุมูลอิสระ
(Free radicals theory)
การชอบรับประทานอาหารที่มีไขมัน หรืออาหารที่มีรสหวาน ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระ เมื่ออายุมากขึ้นกระบวนการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ลดลง มีการสะสมของไขมันมากเกินความจำเป็น จะส่งผลให้เซลล์ไขมันสร้างอนุมูลอิสระมากเกินความต้องการ ทำให้เกิดภาวะเครียดออกซิเดชัน การเผาผลาญไขมันทำได้ยาก ผู้สูงอายุจึงมีรูปร่างอ้วน น้ำหนักมากกว่าเกณฑ์
ทฤษฎีเสื่อมโทรม
(Wear and tear)
การใช้งานขาและหัวเข่าผิดท่า หรืออยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน เช่น การก้มยกของ คุกเข่า นั่งพับเพียบ เดินขึ้นบันได นั่งขัดสมาธิ หรือการทำกิจกรรมต่างๆที่ใช้งานข้อต่อเนื่องยาวนานจนทำให้กระดูกอ่อน ผิวข้อสึกกร่อน เซลล์กระดูกอ่อนลอกหลุด ได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่เพียงพอ ซึ่งตามทฤษฎีได้กล่าวไว้ว่าการใช้งานอวัยวะอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานาน หรือใช้อย่างหักโหม เมื่ออายุมากขึ้น จึงเกิดการตายของเซลล์ เนื้อเยื่อ อวัยวะ และระบบต่างๆในร่างกายทำงานเสื่อมลง
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น สมองมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางเสื่อม สารสื่อประสาท ฮอร์โมนต่างๆก็เริ่มมีการขาด เสียสมดุลย์ตามวัย เช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆในร่างกาย ส่งผลกับการนอนหลับของผู้สูงอายุ คือ นอนไม่หลับ หรือ อ่อนเพลียหลังจากตื่นนอน
ทฤษฎีจิตสังคม
ทฤษฎีการมีกิจกรรม
The activity theory
คุณป้า บอกว่า ตนเองเป็นคนตลก ชอบความสนุก เฮฮา ไม่ชอบเครียด และชอบการเข้าร่วมกิจกรรม เพราะเป็นการใช้เวลาที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ อย่าอยู่แต่ในบ้าน ออกมาพบเจอโลกภายนอกบ้างมาเจอเพื่อน ได้ทำกิจกรรมด้วยกัน
ข้อมูลผู้สูงอายุ
เพศ หญิง อายุ 58 ปี น้ำหนัก 68 กิโลกรัม ส่วนสูง 160 เซนติเมตร BMI 26.56 กิโลกรัม / เมตร2 รอบเอว 80 เซนติเมตร
โรคประจำตัว โรคความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิต 123/74 mmHg.(หลังเดินรอบเก้าอี้ BP 145/82 mmHg.) ชีพจร 80 ครั้ง / นาที อัตราการหายใจ 20 ครั้ง / นาที
สถานะ สมรส อาศัยอยู่กับ สามี ลูก และหลาน ความสัมพันธ์เป็น แม่/ย่า
ระดับการศึกษา อนุปริญญา
อาชีพ ทำสวน/แม่บ้าน รายได้ ประมาณ 15000 บาท/เดือน รายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย
ในช่วง 1 เดือนหรือก่อนหน้า มีปัญหาสุขภาพเรื่อง เริ่มเป็นโรคข้อเสื่อม
ยาที่ใช้ในปัจจุบัน ยาความดันโลหิตสูง ไม่เคยผ่าตัด ไม่มีประวัติแพ้ยา แพ้อาหาร
แบบประเมินผู้สูงอายุที่ผิดปกติ
การประเมินปัญหาการนอนหลับ
คุณป้ามีปัญหาการนอนหลับคือ นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก และมีอาการง่วง อ่อนเพลีย ตอนกลางวัน
การคัดกรองโรคข้อเข่าเสื่อม
คุณป้ามีอาการปวดเข่า แสดงว่า มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม
การคัดกรองโรคข้อเข่าเสื่อมทางคลินิก
จากการประเมินพบว่ามีเสียงดังกรอบแกรบในข้อเข่าขณะเคลื่อนไหว และกดเจ็บที่กระดูกข้อเข่า
การประเมินการตรวจร่างกาย
ประเมินระบบประสาทสัมผัส
การมองเห็น สายตาสั้น รูม่านตาปกติเท่ากันทั้งซ้ายและขวา ปฏิกิริยาต่อแสงมีทั้งซ้ายและขวา ตาสะอาด
การรับกลิ่น การรับรส การได้ยิน การสัมผัส ปกติ
ลักษณะที่สังเกตเห็นได้
ผม ดำปนขาว บาง
ผิว ขาว-เหลือง ความตึงผิวในระดับปานกลาง อุณหภูมิผิวปกติ ความชุ่มชื่นลดลง
เล็บ สีแดง-ชมพู ปกติ
การเคลื่อนที่และการทรงตัว ไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน