Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระราชบัญญัติ สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 (มาตรา 4…
พระราชบัญญัติ
สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546
มาตรา 1 พรบ นี้พระราบัญญัติสภาครูและบุคลากรทา การศึกษา พ.ศ.2546
ให้ไว้ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2546
มาตรา 2 พรบนี้ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิก
พระราชบัญญัติครู พ.ศ.2488
พระราชบัญญัติครู (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2495
พระราชบัญญัติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2509
พระราชบัญญัติครู (ฉบับที่4) พ.ศ.2519
พระราชบัญญัติครู (ฉบับบที่ 5) พ.ศ.2521
พระราชบัญญัติครู (ฉบับที่6) พ.ศ.2523
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
กระทรวง หมายความว่า กระทรวงศึกษาธิการ
วิชาชีพ หมายความว่า วิชาชีพทางการศึกษาที่ทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่่างๆ รวมทั้งการรับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน และการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตลอดจนการสนับสนุนการศึกษา ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่างๆ
ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา หมายความว่า ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัตินี้
ครู หมายความว่า บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพหลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน
ผู้บริหารสถานศึกษา หมายความว่า บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาภายในเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาอื่นที่จัดการศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน
ผู้บริหารการศึกษา หมายความว่า บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารนอกสถานศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
บุคลากรทางการศึกษา หมายความว่า บุคคลซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนการศึกษา ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่างๆ ซึ่งหน่วยงานศึกษากำหนดตำแหน่งให้ต้องมีคุณวุฒิทางการศึกษา
หน่วยงานการศึกษา หมายความว่า สถานศึกษาหรือหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่กำกับดูแล สนับสนุนส่งเสริมให้บริการเกี่ยวกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและอุดมศึกษาต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน
สถานศึกษา หมายความว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน วิทยาลัย สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชนที่มีอำนาจหน้าที่ หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา
ใบอนุญาต หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพซึ่งออกให้ผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามพระราชบัญญัตินี้
เจ้าหน้าที่ หมายความว่า บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้
รัฐมนตรี หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 5 การประกอบวิชาชีพต้องอยู่ภายใต้บังคับหลักเกณฑ์การมีใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการตามพระราชบัญญัตินี้
หมวด 1 สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
ส่วนที่ 3 คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
มาตรา 21 ให้มีคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ประกอบด้วย
1.ประธานกรรมการซึ่งรัฐมานตรี แต่งตั้งจากกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในคณะกรรมการคุรุสภา
2.กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา และเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
3.กรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิจำนวน 4 คน
4.กรรมการจากคณาจารย์ในคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ หรือการศึกษา ทั้งของรัฐและเอกชน ซึ่งเลือกกันเองจำนวน 2 คน
5.กรรมการจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจำนวน 6 คน ซึ่งเลือกตั้งมาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ดำรงตำแหน่งครูที่มีประสบการณ์ด้านการสอนไม่น้อยกว่า 10 ปีหรือดำรงตำแหน่งอาจารย์ 3 หรือมีวิทยฐานะเป็นครูชำนาญการขึ้นไป
มาตรา 22 การสรรหา การเลือก และการเลือกตั้งกรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามมาตรา 21 (3)(4)และ(5)ให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับของคุรุสภา
มาตรา 23 กรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามมาตรา 21 () () () และ () ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 13 มาตรา 14 และมาตรา 15 แลเวแต่กรณี
มาตรา 24 กรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามมาตรา 21 (1) (3) (4) และ (5) ให้อยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งอีก แต่จะดำรงแหน่งเกิน 2 วาระติดต่อกันไม่ได้
มาตรา 25 คณะกรรการมาตรฐานวิชาชีพมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
1.พิจารณาการออกใบอนุญาต การพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
2.กำกับดูแลปฏิบัติตามมาตรฐานและจรรยาบรรณ
ส่งเสริม ยกย่อง และเสนอแนะคณะกรรมการคุรุสภากำหนดมาตรฐานและจรรยาบรรณ
4.ส่งเสริม ยกย่อง และพัฒนาวิชาชีพไปสู่ความเป็นเลิศในสาขาต่างๆ
5.แต่งตั้งที่ปรึกษา คณะกรรมการ หรือมอบหมายกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
ุ6. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด
7.พิจารณาหรือดำเนินการในเรื่องอื่นตามที่รัฐมนตรีหรือคณะกรรมการคุรุสภา
ส่วนที่ 1 บททั่วไป
มาตรา 7 ให้มีสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา เรียกว่า คุรุสภา
มีวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ตามพรบ.นี้
มีฐานะเป็นนิติบุคคลในกำกับกระทรวงศึกษาธิการ
มาตรา 8 คุรุสภามีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ 1.กำหนด
มาตรฐานวิชาชีพ ออกและเพิกถอนใบอนุญาต 2. กำหนดนโยบายและแผนพัฒนาวิชาชีพ 3. ประสาน ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
มาตรา 9 คุรุสภามีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ 1. กำหนดมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ 2.ควบคุมความประพฤติและการดำเนินงานของผู้ประกอบวิชาชีพ 3.ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอประกอบวิชาชชีพ 4.พักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต 5.สนับสนุนส่งเสริมและพัฒนาวิชาชีพ 6.ส่งเสริม สนับสนุน ยกย่อง และผดุงเกียรติผู้ประอบวิชาชีพทางการศึกษา 7.รับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรของสถาบันต่างๆ ตามมาตรฐานวิชาชีพ 8.รับรองความรู้และประสบการณ์ทางวิชาชีพ
9.ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ 10.ออกบังตับของคุรุสภา
มาตรา 10 คุรุสภาอาจมีรายได้ ดังนี้ 1.ถือกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครองในทรัพย์สิน 2. เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน 3.ผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สินและการดำเนินกิจการของคุรุสภา 4. เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้อุทิศให้แก่คุรุสภา 5.ดอกผลของเงินและทรัพยืสินตาม (1) (2)(3) และ (4)
มาตรา 11 ค่าธรรมเนียมตามพรบ.นี้ ให้เป็นไปตามประกาศของรัฐมนตรี
ส่วนที่ 2 คณะกรรมการคุรุสภา
มาตรา 12 ให้มีคณะกรรมการหนึ่่่งเรียกว่า คณะกรรมการคุรุสภา ประกอบด้วย
ประธานกรรมการ 2.กรรมการโดยตำแหน่ง 3.กรรมการผู้วุฒิจำนวน 7 คน
4.กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งจากผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีคณะครุศาสตร์
5.กรรมการจากผู้ปรกอบวิชาชีพทางการศึกษา
มาตรา 13 ประธานกรรมการ กรรมการผู้ทรงวุฒิ ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(ก)คุณสมบัติทั่วไป (ข)ลักษณะต้องห้าม
มาตรา 14 นอกจากที่บัญญัติไว้ในมาตรา 13 กรรมการที่มาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการการศึกษาที่ดำรงตำแหน่งครู ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะดังนี้ 1.เป็นผู้มีใบอนุญาตและไม่เคยถูกพักสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตตามพรบ.นี้ 2.เป็นผู้มีประสบการณ์ด้านปฏิบัติการสอนมาแล้วรวมกันไม่น้อยกว่า 10 ปี หรือดำรงตำแหน่งอาจารย์ 3 หรือมีวิทยาฐานะเป็นครูชำนาญการขึ้นไป
มาตรา 15 นอกจากที่บัญญัติไว้ในมาตรา 13 กรรมการที่มาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้บริหารการศึกษา หรือบุคลากรทางการศึกษาอื่นต้องมีคุณสมบัติเฉพาะมาตรา 14 (1) และต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านปฏิบัติการสอน และมีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้บริหารการศึกษาหรือบุคลากรทางการศึกษาอื่น รวมกันไม่น้อยกว่า 10 ปี
มาตรา 16 กรรมการตามมาตรา 12 (1) (3)(4)และ(5) ให้อยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งอีก แต่จะดำรงตำแหน่งเกิน 2 สองวาระติดต่อกันไม่ได้
มาตรา 17 นอกจากการพ้นตำแหน่ง พ้นจากตำแหน่งเมื่อ ตาย ลาออก รัฐมนตรีโดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรี
มาตรา 18 ก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการตามาตรา 12 (1) (3) (4)และ (5) ไม่น้อยกว่า 90 วัน ให้รมต.แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาคณหนึ่งจำนวน 11 คน คณะกรรมการคุรุสภาตามมาตรา 12 (2) จำนวน 5 คน และจากผู้แทนสมาควมวิชาการหรือวืชาชีพ ด้านการศึกษาที่เป็นนิติบุคคล เลือกกันเองจำนวน 6 คน ทำหน้าที่ สรรหาบุคคลที่สมควรเป็นประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของกรรมการคุรุสภา
มาตรา 19 ในกรณีกรรมการคุรุสภาตามมาตรา 12 (1) และ (31) พ้นจากตำแหน่งก่อนครอบวาระ ให้ครม.แต่งตั้งผู้อื่นซึ่งได้รับการสรรห่าในลำดับถัดไปดำรงแหน่งแทนก็ได้และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนั้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวารที่เหลืออยุ่ของผู้ซึ่งได้รับการแต่งต้งไว้แล้ว
มาตรา 20 ให้คณะกรรมการคุรุสภามีอำนาจหน้าที่ ดัวต่อไปนี้ 1.บริหารและดำเนินการตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของคุรุสภาซึ่งกำหนดไว้ในพรบ.นี้
2.ให้คำปรึกษาและแนะนำแก่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมาตรา 54
4.เร่งรัดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ หรือคณกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
5.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกระทำการใดๆ อันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา
ุ6.ควบคุมดูแลการดำเนินงานและการบริหารงานทั่วไป
7.กำหนดนโยบายการบริหารงาน และให้ความเห้นชอบแผนการดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
8.ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา
9.พิจารณาหรือดำเนินการในเรื่องอื่นตามที่รัฐมนตรีมอบหมาย
ส่วนที่ 4 การดำเนินงานคุรุสภา
มาตรา 27 ในการประชุม ถ้าประธานกรรมการคุรุสภาไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่่งเป็นประธานในที่ประชุม
มาตรา 28 รัฐมนตรีเข้าร่วมประชุม และชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมคระกรรมการคุรุสภา หรือจะส่งความเป็นหนังสือไปยังคุรุสภา
มาตรา 26 ให้คณะกรรมการคุรุสภามีการประชุมอย่างน้อยเดิอนละ 1 ครั้ง และต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงเป็นองค์ประชุม
มาตรา 29 ให้นำความในมาตรา 26 และมาตรา 27 มาบังคับกับการประชุมของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพหรือคณะอนุกรรมการโดยอนุโลม
มาตรา 30 ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพรบนี้ ให้กรรมการคุรุสภา กรรมการมาตรฐานวิชาชีพ อนุกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการควบคุมการประกอบวิชาชีพเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 31 ให้คณะกรรมการคุรุสภาและคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีอำนาจบุคคลใดๆมาให้ถ้อยคำหรือแจ้งให้บุคลใดๆ ส่งเอกสารหรือวัตถุพยาน ต้องระบุด้วยว่าจะให้มาให้ถ้อยคำหรือแจ้งให้บุคคลใดๆส่งเอกสารหรือวัตถพยานที่จำเป็นต่อการดำเนินงานตามอำนาจและหน้าที่
มาตรา 32 ให้กรรมการคุรุสภา กรรมการมาตรฐานวิชาชีพ อนุกรรมการและคณะทำงานได้รับเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด
มาตรา 33 กรรมการคุรุสภา จะดำรงตำแหน่งแล้วแต่กรณีในคราวเดียวกันไม่ได้
มาตรา 34 ให้มีสำนักวิชาการคุรุสภามีหน้าที่ 1.รับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภา 2.ประสานและดำเนินการเกี่ยวกับกิจการอื่นที่คุรุสภามอบหมาย 3.จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับการดำเนินงานเสนอต่อคุรุสภา
มาตรา35 ให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา มีเลขาธการคุรุสภาคนหนึ่งบริหารกิจการของสำนักงานเลขาธิกสนคุรุสภา
มาตรา 36 เลขาธิการคุรุสภาต้องเป็นผู้สามารถทำงานให้แก่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้ เต็มเวลา
มาตรา 37 เลขาธิการคุรุสภามีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งอีก แต่จะดำรงตำแหน่ง2วาระติดต่อกันไม่ได้
มาตรา 38 นอกจากพ้นจากตำแหน่งตามวาระ เลขาธิการคุรุสภาพ้นจากตำแหน้่ง เมื่อ 1.ตาย 2.ลาออก 3.มีความประพฤติเสื่อมเสีย 4.กรณีที่กำหนดไว้ในข้อตกลงระหว่างกับเลขาธิการคุรุสภา
มาตรา 39 เลขาธิการคุรุสภามีหน้าที่บริหารกิจการของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
มาตรา 40 เลขาธิการคุรุสภา มีอำนาจดังนี้ 1.บรรจุ แต่งตั้ง เลื่อน ลด ตัดเงินเดือน หรือค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา 41 ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคลากรภายนอก ให้เลขาธิการคุรุสภาเป็นผู้แทนของคุรุสภา
มาตรา 42 ให้คณะกรรมการคุรุสภาเป็นผู้กำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่น
ส่วนที่ 5 การประกอบวิชาชีพควบคุม
มาตรา 44 ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
มาตรา 43 ให้วิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษาเป็นวิชาชีพควบคุมตามพรบ.นี้
มาตรา 45 การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การกำหนดอายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การขอรับใบอนุญาต และการออกใบแทนอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในข้อคับของคุรุสภา
มาตรา 46 ห้ามมิให้ผู้ใดแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตยมีสิทธิหรือพร้อมจะประกอบวิชาชีพ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจาคุรุสภา
มาตรา 47ื ผู้ซึ่่งได้รับอนุญาตวิชาชีพภายใต้บังคับแห่งข้อจำกัดและเงื่อนไข ตามข้อบังคับของคุรุสภา
มาตรา 48 ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตต้องประพฤติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ ตามที่กำหนดในข้อบังคับของคุรุสภา
มาตรา 49 ให้มีข้อบังคับว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ ประกอบด้วย 1.มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ
2.มาตรฐานการปฏิบัติงาน
3.มาตรฐานการปฏิบัติตน
มาตรา 50 มาตรฐานการปฏิบัติตน ให้กำหนดเป็นข้อบังคับว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ ประกอบด้วย 1.จรรยาบรรณต่อตนเอง 2.จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ 3.จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ 4.จรรยาบรรณ 5.จรรยาบรรณต่อสังคม
มาตรา 51 บุคลากรซึ่งได้รับความเสียหายจากการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพของผู้รับใบอนุญาต มีสิทธิกล่าวหาผู้ได้รับใบอนุญาตผู้นั้นโดยทำเรื่องยื่นต่อคุรุสภา
มาตรา 52 เมื่อคุรุสภาได้รับเรื่องการกล่าวหารือการกล่าวโทษตามมาตรา 51 ให้เลขาธิการคุรุสภาเสนอเรื่องดังกล่าว
มาตรา 53 .ให้ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาหรือขัอกล่าวโทษหร้อมทั้งสำเนาเรื่อง
มาตรา 54 คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ มีอำนาจวินิจฉัย
1.ยกข้อกล่าวหา 2.ตักเตือน 3.ภาคทัณฑ์ 4.พักใช้ใบอนุญาต แต่ไม่เกิน 5ปี
5.เพิกถอนใบอนุญาต
มาตรา 55 ผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพวินิจฉัยชี้ขาด
มาตรา 56 ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งอยู่ในระหว่างถูกพักใช้ใบอนุญาต
มาตรา 57 ผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งถูกสั่งเพิกถอนจะยื่นขอไม่ได้
ส่วนที่ 6 สมาชิกคุรุสภา
มาตรา 60 สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ มีดังต่อไปนี้
1.แสดงความเห็นและซักถามเป็นหนังสือ 2.เลือก รับเลือกตั้งหรือรับแต่งตั้ง 3.ชำระค่าธรรมเนียม ตามประกาศของคุรุสภา 4.ผดุงไว้ซึ่งเกียรติแห่งวิชาชีพ และปฏิบัติตามพรบนี้
มาตรา 59 สมาชิกสามัญต้องเป็นผู็ไม่มีลักษณะต้องห้าม
มาตรา 61 สมาชิกภาพของสมาชิกย่อมสิ้นสุดเมื่อ 1.ตาย 2.ลาออก 3.คณะกรรมการคุรุสภามีมติให้พ้นจากสมาชิก 4.คณะกรรมการคุรุสภามีมติถอดถอนการ้ป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ 5.ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
มาตรา 58 สมาชิกของคุรุสภามี 2 ประเภท ดังนี้
1.สมาชิกสามัญ 2. สมาชิกกิตติมศักดิ์
หมวด 2 คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
ส่วนที่ 1 บททั่วไป
มาตรา 62 ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา 63 คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา 64 ให้คณะกรรมการสางเสริมการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา 1. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน 2.กรรมการโดยตำแหน่ง 3.กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 4.กรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
มาตรา 65 กรรมการส่งเสริมสวัสดิการและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา 66 การประชุมของคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
ส่วนที่ 2 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรการศึกษา
มาตรา 69 ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา มีเลาธิการคนหนึ่งบริหารกิจการของสำนักงาน
มาตรา 67 ให้มีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา มีฐานะเป็นนิติบุคคลในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ
มาตรา 70 เลขาธิการคณะกรรมส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องเป็นผู้สามารถทำงานได้เต็มเวลาและต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
มาตรา 71 เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาาพครูและบุคลากรทางการศึกษา มีหน้าที่บริหารกิจการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามกฎหมาย
มาตรา 72 เลขาธิการคณกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสคิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา มีอำนาจดังนี้ 1.บรรจุ แต่งตั้ง เลื่อน ลด ตัดเงินเดือนหรือค่าจ้าง 2.วางระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินงาน
มาตรา 73ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้เลขาธิการคระกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวีสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นผู้แทน
มาตรา 74 ให้คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นผู้กำหนดอัตราเงินเดือนและผลประโยชน์ตอบแทนอื่น
หมวด 3 การกำกับดูแล
มาตรา 75 ให้รัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่ ดังต่ไปนี้
กำกับดูแลการดำเนินงาน 2.ส่งเป็นหนั่งสือให้กรรมการชี้แจ้งข้อเท็จจริง 3.สั่งเป็นหนังสือให้คุรุสภา
มาตรา 76 ให้คุรุสภาเสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับผลดำเนินงานด้านต่างๆของคุรุสภา
หมวด 4 บทกำหนดโทษ
มาตรา 78 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 43 ต้องวางโทษจำคุกๅม่เกิน 10,000 บาท ทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 79 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 46 หรือมาตรา 56 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 77 ให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบการปฏิบัติงานด้านการเงินการบัญชีของคุรุสภาเป้นประจำปี แล้วรายงานให้รัฐสภาทราบ