Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติด้านจิตใจในระยะหลังคลอด (ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (postpartum…
ความผิดปกติด้านจิตใจในระยะหลังคลอด
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (postpartum depression)
ความหมาย
ความผิดปกติด้านอารมณ์ ความคิด และการรับรู้ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายและ พฤติกรรม ที่เริ่มอาการตั้งแต่ 4 สัปดาห์ถึง 1 ปีหลังคลอด ลักษณะสำคัญของภาวะซึมเศร้าหลังคลอดที่ต่างจากภาวะอารมณ์เศร้าหลัง คลอด คือ อาการรุนแรงจนรบกวนความเป็นอยู่และการเลี้ยงดูทารกอาการเป็นอยู่นานได้ถึง 6 เดือนหลังคลอดหรือนานกว่า (พรรณพิไล ศรีอาภรณ์, 2560)
สาเหตุของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
ความตึงเครียดทางร่างกาย (biological stress)
1.1 การเปลี่ยนแปลงทางของร่างกายในระยะคลอด
1.2 การเปลี่ยนแปลงของต่อมไร้ท่อและระดับของฮอร์โมนคาดว่าอาจเกิดจากการลดลงของ estrogen progesterone corticotropin releasing hormone
1.3 ประสบการณ์ของการคลอดไม่ดี
ความตึงเครียดทางจิตใจ (psychological stress)
2.1 การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงปรารถนา หรือเป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า
2.2 ปัญหาในชีวิตสมรส หรือขาดความมั่นคงในชีวิตสมรส
2.3 ไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจ ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเพียงพอจากคู่สมรสและ ครอบครัว ถูกทอดทิ้ง ละเลย
2.4 มีความวิตกกังวลต่อเพศ ลักษณะและความสมบูรณ์ของบุตร ทารกเจ็บป่วยพิการ หรือเสียชีวิต
2.5 วิตกกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของตนเอง เกรงว่าสามีจะไม่พึงพอใจใน สภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป
2.6 สับสนกับการเปลี่ยนแปลงบทบาทการเป็นมารดา มีความยากลำบากในการสร้างสัมพันธภาพกับทารกและวิตกกังวลต่อภาระหน้าที่ในการเลี้ยงบุตร ไม่แน่ใจว่าตนเองจะเลี้ยงบุตรได้
2.7 ความล้มเหลวในการปรับตัวต่อบทบาทการเป็นมารดา ท าให้เกิดความรู้สึกผิด ละอาย และสูญเสียความเชื่อมั่นในตนเอง
2.8 มีความผิดปกติทางจิตใจในระยะตั้งครรภ์ หรือเคยมีประวัติซึมเศร้าในครรภ์ก่อน หรือ เป็น bipolar illness มีโอกาสเป็นซ้ าได้มากกว่าร้อยละ 20
ความตึงเครียดทางสังคม (social stress)
3.1 มารดาวัยรุ่นที่ต้องพึ่งพาบิดามารดา
3.2 เศรษฐานะ ความยากจน ทำให้วิตกกังวลต่อค่าใช้จ่ายในการคลอด และการเลี้ยงดูบุตร
3.3 ไม่ได้รับการเตรียมตัวก่อนคลอด ส่งผลให้ไม่สามารถวางแผนดูแลตนเองและ เลี้ยงดู บุตรได้ อาจเกิดความไม่แน่ใจว่าตนเองจะสามารถเลี้ยงดูบุตรได้
3.4 มารดาหลังคลอดที่ได้รับการดูแลอย่างเคร่งครัดจากครอบครัว เช่น การอยู่ไฟหลังคลอดตามวัฒนธรรม ความเชื่อ ทำให้เกิดความขัดแย้งและสับสนกับการปฏิบัติตามคำแนะนำของพยาบาล
อาการและอาการแสดง
ซึมเศร้าโดยมีอาการเกือบทั้งวันความสนใจหรือความเพลิดเพลินใจในสิ่งต่างๆลดลงอย่างมาก เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลง หรือกินจุ น้ำหนัก เพิ่มขึ้น นอนไม่หลับ หรือนอนมากกว่าปกติ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง รู้สึกตนเองไร้ค่าหรือรู้สึกผิดอย่างไม่สมเหตุสมผล สมาธิลดลง ลังเลใจ อาจมีความคิดในการฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายบุตร (คชารัตน์ ปรีชา, 2559) ผลการศึกษาพบว่า มารดาหลังคลอดที่มีภาวะซึมเศร้า มักมีอาการวิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำกลัวโดย ไม่ทราบสาเหตุ มองโลกในแง่ร้าย ไม่มีความพึงพอใจในเหตุการณ์ต่างๆรอบตัว รู้สึกว่าตนเอง ด้อยค่า คิดว่า ตนเองไม่สามารถเป็นมารดาที่ดีได้ ไม่ชื่นชอบตนเองไม่เข้าสังคม แยกตัวเอง จิตใจหดหู่ หม่นหมองมีความคิดทำร้ายตนเอง (beck, 2002 อ้างถึงใน พรรณพิไล ศรีอาภรณ์, 2560)
ผลกระทบของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
ผลกระทบต่อมารดาหลังคลอด ได้แก่ สูญเสียสมรรถภาพทางร่างกายจากการพักผ่อนไม่ เพียงพอ ความเหนื่อยล้า เซื่องซึม และสูญเสียพลังงาน ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้
ผลกระทบต่อครอบครัว ได้แก่ การติดต่อสื่อสารภายในครอบครัวไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ สัมพันธภาพกับสามี ส่งผลให้เกิดปัญหาภายในครอบครัว
ผลกระทบต่อบุตร ได้แก่ มารดาหลังคลอดไม่สามารถแสดงบทบาทการเป็นมารดาได้ดีไม่สามารถส่งเสริมหรือกระตุ้นพัฒนาการด้านร่างกายและจิตอารมณ์ของบุตร ปฏิเสธและไม่สนใจบุตรมักโยนความผิดให้แก่บุตร มีการทุบตีทารุณเด็ก ละทิ้งเด็ก
การวินิจฉัยภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
ใช้เกณฑ์ของ Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disoders V (DSM-V)มีอาการตามเกณฑ์การวินิจฉัยต่อไปนี้ 5 ข้อ โดยอย่างน้อยต้องมีข้อ 1 หรือข้อ 2 หนึ่งข้อ และมีอาการนาน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยไม่เคยมีประวัติของ mania หรือ hypomania ดังนี้
(1) ซึมเศร้าโดยมีอาการเกือบทั้งวัน
(2) ความสนใจหรือความเพลิดเพลินใจในสิ่งต่างๆ ลดลงอย่างมาก
(3) เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลง หรือกินจุ น้ำหนักเพิ่มขึ้น มากกว่าร้อยละ 5 ใน 1 เดือน
(4) นอนไม่หลับ หรือนอนมากกว่าปกติ
(5) Psychomotor agitation หรือ retardation
(6) อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
(7) รู้สึกตนเองไร้ค่า หรือรู้สึกผิดอย่างไม่สมเหตุสมผล
(8) สมาธิลดลง ลังเลใจ
(9) คิดเรื่องการตาย หรือการฆ่าตัวตาย
ภาวะโรคจิตหลังคลอด (postpartum psychosis)
ความหมาย
มารดาหลังคลอดเกิดความวิกลจริตร่วมกับความผิดปกติด้านอารมณ์ ซึ่งมารดาจะมีอาการของโรค ไบโพลาร์และมีอาการโรคจิตเภท โดยมักเริ่มเกิดอาการใน 2 – 3 วันแรกหลังคลอด อาการจะพบได้ภายใน 1 เดือนแรกหลังคลอด รายที่เป็นรุนแรงอาจมีอาการวิกลจริต (beck, 1999 อ้างถึงใน พรรณพิไล ศรีอาภรณ์, 2560)
สาเหตุของโรคจิตหลังคลอด
เคยมีประวัติเป็นโรคจิตหลังคลอด มีประวัติไบโพลาร์ (bipolar) มีโอกาสที่จะ เป็นโรคนี้สูงกว่าสตรีทั่วไปถึง 40 เปอร์เซ็นต์ มารดาหลังคลอดที่มีลักษณะบุคลิกภาพแปรปรวน เช่น เก็บตัว ย้ำคิดยำทำ เป็นต้น มีความเครียดในระยะตั้งครรภ์ เช่น ขาดการช่วยเหลือสนับสนุนจากสามี และคนใน ครอบครัว ปัญหาเศรษฐานะ ประวัติบุคคลในครอบครัว ญาติใกล้ชิดป่วยด้วยโรคไบโพลาร์
อาการแสดงของโรคจิตหลังคลอด
แบ่งได้ 2 ระยะ
อาการนำ
มักเป็นในระยะ 2 - 3 วันแรกหลังคลอดมารดาจะมีอาการไม่สุขสบายนำมาก่อน อาการที่พบบ่อย คือ นอนไม่หลับ ฝันร้าย บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง ขาดความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว กระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่แน่นอน เป็นต้น
อาการโรคจิต
ต่อจากระยะแรก มารดาหลังคลอดจะมีอาการโรคจิตหรือวิกลจริตร่วมกับ ความผิดปกติของอารมณ์ ซึ่งอาการจำเพาะของโรคจิตหลังคลอด คือ โรคไบโพลาร์ (bipolar disorder) หรือโรคอารมณ์แปรปรวนสองแบบ (manic depressive illness)ซึ่งจะมีทั้งอาการซึมเศร้าและอาการแมเนียโดยบางครั้งมีอาการซึมเศร้าอย่างมากและบางครั้งมีอาการแมเนีย
Postpartum Blues
อุบัติการณ์ : ร้อยละ 50 – 70
เวลาที่เริ่มเกิดอาการ : 2 – 3 วัน ระยะเวลาที่เกิดอาการ : < 2 สัปดาห์ อาการ : ซึมเศร้า อารมณ์ แปรปรวน กังวล, สับสน ไม่มีสมาธิ หายเองได้
Postpartum Depression
อุบัติการณ์ : ร้อยละ 4-10
เวลาที่เริ่มเกิดอาการ : 1-2 สัปดาห์ ระยะเวลาที่เกิดอาการ : > 2 สัปดาห์ อาการ : ซึมเศร้า ไม่สนใจตัวเอง รู้สึกผิด สิ้นหวัง รู้สึกไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้
Postpartum Psychosis
อุบัติการณ์ : ร้อยละ 0.1-0.2
เวลาที่เริ่มเกิดอาการ : อาการนำ 2-3 วันหลังคลอด 2-4 สัปดาห์
ระยะเวลาที่เกิดอาการ : แปรปรวน
อาการ : จิตหลอน หลงผิด ไม่อยู่ในโลกของความเป็นจริง อารมณ์ไม่ เหมาะสมกับเหตุการณ์
ผลกระทบของโรคจิตหลังคลอด
สูญเสียสมรรถภาพทางร่างกาย จากความผิดปกติเกี่ยวกับการนอน และน้ำหนักที่ลดลง อย่างรวดเร็ว
ขาดความสนใจทางเพศ อาจเป็นสาเหตุของการหย่าร้างและชีวิตสมรสแตกแยกได้
รู้สึกว่าตนมีความผิดที่มีอารมณ์เศร้าในช่วงเวลาซึ่งควรมีความสุข และลังเลที่จะเล่าอาการหรือ ความรู้สึกด้านลบของตนที่มีต่อบุตรให้ผู้อื่นทราบ
รู้สึกห่างเหินต่อบุตร ซึ่งเกิดจากอาการไม่สบายหรือเนื่องจากถูกแยกออกจากบุตร
อาจฆ่าบุตรได้ (infanticide) มีอาการวิกลจริตไปชั่วคราวและไม่มีความสามารถรู้ผิดชอบชั่วดี
มีอาการโรคจิตหลังคลอดมีโอกาสสูงถึงร้อยละ 30 - 50 ที่จะเกิดอาการซ้ำในการคลอดครั้งต่อไป
การประเมินและการวินิจฉัย
การซักประวัติ
รวบรวมข้อมูลจากการซักถามและศึกษาจากประวัติ รวมทั้งเฝ้าระวังมารดาที่มีประวัติเสี่ยงที่จะเกิด ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดและโรคจิตหลังคลอด
การตรวจร่างกาย
สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับมารดาหลังคลอด
การรักษาภาวะซึมเศร้าหลังคลอดและโรคจิตหลังคลอด
การรักษาทางกาย
1.1 ในรายที่มีอาการซึมเศร้าหลังคลอด กลุ่มยาที่เลือกใช้เป็นอันดับแรก คือ serotonin reuptake inhibitor โดยการให้ยาแก้ซึมเศร้า (antidepressant) ในขนาดที่เพียงพอ
1.2 การให้ยาต้านโรคจิต (antipsychotic drug) ในกลุ่ม atypical antipsychotic
1.3 การให้ยาควบคุมอารมณ์ (mood stabilizer)
1.4 การช็อคไฟฟ้า (ECT) ในรายที่มีอาการรุนแรงหรือใช้ยารักษาไม่ได้ผล
การรักษาทางจิตโดยใช้จิตบำบัด (psychotherapy)
2.1 จิตบำบัดรายบุคคล (individual therapy) จิตบำบัดกลุ่ม (group therapy) การบำบัดทางปัญญา (cognitive behavior therapy) หรือการบำบัดที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหา (problem focused therapy) เพื่อแก้ไขความขัดแย้งต่างๆ ให้ยอมรับบทบาทการเป็นมารดามากขึ้น
2.2 จิตบำบัดครอบครัว (family therapy) หรือจิตบำบัดระหว่างคู่สมรส (marital therapy) หรือ สุขภาพจิตศึกษา (psychoeducation)
การรักษาโดยการแก้ไขสิ่งแวดล้อม (environment therapy)
เป็นการจัดสภาพแวดล้อมใน โรงพยาบาลเพื่อช่วยส่งเสริมกระบวนการรักษา ประกอบด้วย การจัดสภาพแวดล้อมภายในหอผู้ป่วยให้น่าอยู่ การจัดกิจกรรมต่างๆภายในหอผู้ป่วยให้เหมาะสม
นางสาวอัยรินทร์ ข่วงทิพย์ เลขที่ 72 ห้อง A