Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กลุ่มคิง กระบวนการพยาบาล (Nursing Process) (5.ประเมินผลการพยาบาล…

- - - - ชนิดของข้อมูล (types of data)
        
        ข้อมูลอัตนัย (subjective data) SD คือข้อมูลที่ได้จากการตีความ โดยการซักประวัติ หรือการบอกเล่า โดยอาจเรียกได้ว่าเป็น “อาการ”
        
        ข้อมูลปรนัย (objective data) OD คือข้อมูลที่ได้จากการสังเกตุ ใช้เครื่องมือต่างๆ ปรอท เครื่องวัดความดัน โดยอาจเรียกได้ว่าเป็น “อาการแสดง”
      - แหล่งข้อมูล (sources of data)
        
        แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (primary sources) คือตัวผู้รับบริการ
        
        แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (secondary sources) คือครอบครัว ผู้ประสบเหตุ แฟ้มประวัติ
      - วิธีการรวบรวมข้อมูล (data collection method)
        
        การซักประวัติ (interview)
        
        1.แบบกำหนดทิศทาง:มีรูปแบบชัดเจน พยาบาลกำหนดตำถามที่ต้องการเฉพาะเจาะจง
        
        2.แบบไม่กำหนดทิศทาง:ผู้รับบริการได้พูดตามที่ต้องการ ใช้คำถามปลายเปิด ใช้เวลามาก
        
        การสังเกตุ (observation)
        
        🧸ใช้ความรู้สึกของพยาบาล
        
        🧸พยาบาลต้องฝึกเป็นคนช่างสังเกต
        
        🧸สังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วย
        
        การตรวจร่างกาย (physical examination)
        
        วิธีตรวจร่างกายแบบสมบูรณ์
        
        🩺ตรวจศรีษะจรดปลายเท้า
        
        🩺ตรวจตามระบบ เช่น ระบบประสาท หายใจ
        
        🩺ตรวจตามกรอบแนวคิดของศาสตร์ทางการพยาบาล
        
        เทคนิคการตรวจร่างกาย
        
        1.การดู (inspection)
        
        2.การคลำ (palpation)
        
        คลำเบา (lightly palpation):ตรวจเกือบทุกส่วนทั่วร่างกาย กดแบบเบาๆ มักตรวจเต้านม กระเพาะปัสสาวะ
        
        คลำลึก (deeply palpation):ตรวจท้อง เพื่อหาตำแหน่ง และขนาดของอวัยวะผิดปกติ
        
        3.การเคาะ (percussion) เคาะบนผิวหนัง ด้วยนิ้วมือ โดยจะแบ่งเป็นเคาะโดยตรง กับ โดยอ้อม
        
        4.การฟัง (auscultation)
    - - ✅ความสำคัญของการตรวจข้อมูลเพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลที่ถูกต้อง
      - ✅สาเหตุของการต้องตรวจสอบข้อมูล เพราะข้อมูลอาจไม่สอดคล้องกัน ผู้รับบริการให้ข้อมูลในแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน
      - ✅วิธีการตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องแม่นยำ โดยตรวจสอบอย่างน้อย 2 ครั้ง และเปรียบเทียบกับข้อมูลเดิม
    - - นำข้อมูลทีวบรวมแล้วมาจัดหมวดหมู่ เชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกัน จัดข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยกัน
      - ช่ายให้มองเห็นปัญหาสุขภาพ ปัจจัยเสี่ยง และ ส่วนดีที่มีอยู่ของผู้รับบริการในขณะที่มีปัญหาหา
      - อาจจัดระบบข้อมูลตามกรอบแนวคิดที่แตกต่างกัน เช่น กรอบ แนวคิดทางพยาบาล และ กรอบแนวคิดที่ไม่ใช่ทางพยาบาล
        
        :star:กรอบแนวคิดทางพยาบาล
        ได้แก่
        กรอบแนวคิดแบบแผนสุขภาพของกอร์ดอน กรอบแนวคิดการดูแลตนเอง กรอบแนวคิดการปรับตัว กรอบแนวคิดความสามารถในการดูแลตนเอง
        
        :star:กรอบแนวคิดที่ไม่ใช่ทางพยาบาล
        ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์
    - - 1.ต้องบันทึกสิ่งที่ประเมินได้เพื่อจะได้สื่อสารให้ผู้อื่นได้รับรู้ และ/หรือ รายงานความผิดปกติที่พบ เพื่อดูแลรักษาทันที
      - 2.การบันทึกและการรายงาน เป็นปัจจัยที่จะให้การวินิจฉัยและรักษาในทันที ช่วยให้การปฏิบัติไม่ถูกต้องลดลง
      - 3.การรายงานสิ่งสำคัญที่พบอาจทำก่อนบันทึกทั้งหมดได้
      - ตัวอย่างการประยุกต์ใช้แนวคิด ทฤษฎีพื้นฐานในการพยาบาล
        
        EX1.ทฤษฎีการปรับตัวของรอย
        
        1.1ด้านร่างกาย
        :red_flag:การออกกำลังกาย
        :red_flag:การพักผ่อน
        :red_flag:โภชนาการ
        :red_flag:การขับถ่าย
        :red_flag:O2และการไหลเวียนโลหิต
        :red_flag:อุณหภูมิร่างกาย
        :red_flag:ความรู้สึก ประสาทสัมผัส และ ต่อมไร้ท่อ
        
        1.2ด้านอัตมโนทัศน์
        :red_flag:ความรู้สึกต่อตนเองทั้งรูปร่าง หน้าตา ความรู้สึกต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
        :red_flag:ปฏิกิริยาของคนรอบข้างต่อผู้ป่วย
        :red_flag:ความเชื่อมั่น ความภูมิใจ และจุดเด่นของตนเอง
        :red_flag:ผลกระทบของอาการเจ็บป่วย
        
        1.3ด้านบทบาทหน้าที่
        :red_flag:บทบาทของครอบครัว—>ความรับผิดชอบต่อครอบครัว การเจ็บป่วยส่งผลอย่างไรต่อความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว
        :red_flag:บทบาทการเป็นผู้ชาย—>ความรู้สึกต่อกฏระเบียบ การรักษาพยาบาล คำแนะนำในการดูแลจากแพทย์และพยาบาล
        
        1.4ด้านความสัมพันธ์และการพึ่งพาซึ่งกันและกัน
        :red_flag:การแสวงหาความช่วยเหลือ ความรักและความอบอุ่น
        
        EX2.ทฤษฏีการดูแลตนเองของโอเรม
        
        2.2การดูแลตนเองทั่วไป
        :check:อากาศ อาหาร น้ำ
        :check:การขับถ่าย
        :check:กิจกรรม การพักผ่อน การออกกำลังกาย
        :check:ความสันโดษ
        :check:การป้องกันอันตราย
        :check:การส่งเสริมคุณภาพ
        
        2.1การดูแลตนเองตามพัฒนาการ
        :check:การส่งเสริมการสนับสนุน กระบวนชีวิตและการพัฒนาวุฒิภาวะในแต่ละช่วงวัยของพัฒนาการ
        :check:การป้องกันอันตรายที่จะเกิดจากปัญหาสังคม
        
        2.3การดูแลตัวเองตามการเบี่ยงเบนของสุขภาพ
        :check:การแสวงหาความรู้และแนวทางการรักษาโรคหรือปัญหาสุขภาพ
        :check:การรับรูปในการดูแลตนเอง เพื่อป้องกันโรค หรือ ความเจ็บป่วย
        :check:การยอมรับในความเจ็บป่วยโรคนั้นๆ
        
        รูปแบบการประเมินสภาพผู้ป่วยของนันดา<Diagonotic Division of Nanda>
        :star:กิจกรรมและการพักผ่อน <Activity/Rest>
        :star:การไหลเวียนของโลหิต <Circulation>
        :star:ความสมบูรณ์ของจิตใจและอารมณ์ <Ego integrity>
        :star:กรขับถ่าย <Elimination>
        :star:อาหารและนำ้ <Food&Fluid>
        :star:สุขอนามัยส่วนบุคคล <Gygiene>
        :star:การรับรู้และประสาทสัมผัส <Neurosensory>
        :star:ความเจ็บปวด/ไม่สุขสบาย <Pain/Discomfort>
        :star:การหายใจ <Respiration>
        :star:ความปลอดภัย <Safety>
        :star:อนามัยทางเพศ <Sexuality>
        :star:การเรียนรู้ <Social interaction>
        :star:การเรียนรู้ <Teaching/Learning>
        
        แบบแผนสุขภาพของกอรอดอน<Function health patterns of Gordon>
        :silhouette:การรับรู้สุขภาพ(Health perception and health management pattern)
        :silhouette:อาหารและการเผาผลาญ(Nutrition and metabolic pattern)
        :silhouette:การขับถ่าย(Elimination pattern)
        :silhouette:กิจกรรมและการออกกำลังกาย(Activity and Exercise pattern)
        :silhouette:การนอนหลับพักผ่อน(sleep and rest pattern)
        :silhouette:สติปัญญาและการรับรู้(cognitive and perceptual pattern)
        :silhouette:การรับรู้ตนเองและอัตมโนทัศน์(Self-perception and self concept )
        :silhouette:บทบาทหน้าที่และสัมพันธภาพ(Role and relationship pattern)
        :silhouette:เพศและการเจริญพันธุ์(sex and reproductive pattern)
        :silhouette:ความเครียดและการเผชิญความเครียด(Coping and stress tolerance pattern)
        :silhouette:คุณค่าและความเชื่อ(Value and Belief pattern)
- - - - การให้การวินิจฉัย เป็นกระบวนการสืบค้นหา ปัญหาของผู้รับบริการการวิเคราะห์ข้อมูลรวมมาได้โดยใชเ้หตผุลและ ความรู้ต่างๆอย่างรอบคอบที่เรียกว่ากระบวนการวินิจฉัยการพยาบาล
    - - ข้อวินิจฉัยการพยาบาล เป็นผลของการสรุป เก่ียวกับการตอบสนองของผู้รับบริการ ปัญหาสขุภาพหรอืภาวะสขุภาพดีก็ได้
  - - - ตรวจสอบความถูกต้อง (validation)
      - แปลความหมายของ
        ข้อมูล(interpretation)
      - จัดกลุ่มข้อมูล (classification)
    - - •ปัญหาท่ีมีแนวโน้มจะเกิด
      - •ปัญหาเสี่ยง
      - •ปัญหาท่ีกำลังเกิดอยู่
    - - •กลุ่มปัญหา
      - กลุ่มสาเหตุ/ปัจจัยที่เป็นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา
- - - - อาจกำหนดเป็นเป้าหมายระยะสั้น หรือระยะยาวขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องแก้ไข
      - ต้องมีเกณฑ์การประเมินผลเป้าหมาย เพื่อตรวจสอบว่าบรรลุผลสำเร็จหรือไม่
      - สิ่งสิ่งที่พยาบาลและผู้รับบริการคาดหวังจะให้เกิดขึ้น หลังจากปฏิบัตืกิจกรรมการพยาบาลไปแล้ว
    - - กิจกรรมการพยาบาลที่กำหนดต้องมีเหุผลบ่งชี้ว่าทำเพราะอะไร
      - ต้องกำหนดให้ครอบคลุมบทบาทพยาบาล คือ ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ดูแลรักษา และฟื้นฟูสภาพ
      - เป็นวิธีการที่จะปฏิบัติเพื่อให้ผู้รับบริการมีการเปลี่ยนแปลงจากภาวะที่ไม่พึ่งประสงค์ไปสู่เป้าหมายที่กำหนด
    - - การตอบสนองต่อภาวะสุขภาพดี
      - ผู้รับบริการแต่ละรายจะมีหลายข้อวินิจฉัยให้พยาบาลได้ดูแลช่วยเหลือ โดยครอบคลุมการส่งเสริม ป้องกะน รักษา และฟื้นฟู
      - การตอลสนองต่อสุขภาพที่เบี่ยงเบน
  - - - เป้าหมายระยะสั้น
        (Short-term goals)
        
        เป็นเป้าหมายเกี่ยวกับการมีชีวิตรอด อาจกำหนดให้บรรลุเป้าหมายในเวลาเป็นนาที มักใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วคาดการณ์ไม่ได้
        
        เป็นเป้าหมายที่คาดว่าจะบรรลุผลใน2-3 ชั่วโมง ไม่เกิน 1สัปดาห์
      - เป้าหมายระยะยาว
        
        เป็นการคงไว้ซึ่งทำหน้าที่ตามปกติในขณะที่มีปัญหาสุขภาพ หากไม่สามารถรักษาความเป็นปกติของหน้าที่ได้
        
        บอกการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดในช่วงเวลาที่ยาว ส่วนใหญ่จะเป็นการกำหนดในผู้รับบริการที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง
      - แนวทางการเขียนเป้าหมายการพยาบาล
        
        เป็นพฤติกรรมองผู้รับบริการ
        
        เป็นการตอบสนองต่อภาวะสุขภาพ จึดสอดคล้องกับข้อวินิจฉัยหรือปัญหาที่กำหนด
        
        มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
        
        เป็นการตอบสนองต่อภาวะสุขภาพ ที่จะเปลี่ยนแปลงในลักษณะเพิ่มขึ้น ลดลง คงไว้ ไม่มีปัญหา ตามที่กำหนดในภาวะสุขภาพนั้นๆ
        
        ในแต่ละข้อวินิจฉัยมีเป้าหมายการพยาบาลมากกว่า 1 ข้อ
        
        เป้าหมายการพยาบาลที่กำหนด สอดคล้องกับแนวทางการรักษาของวิชาชีพอื่นในทีมสุขภาพ
        
        เป้าหมายการพยาบาลควรมีระยะเวลากำกับไว้ด้วย
        
        จะทำให้เป้าหมายชัดเจนและบ่งบอกการทำได้จริง
        
        เป้าหมายที่กำหนดเป็นที่ยอมรับร่วมกันระหว่างพยาบาลและผู้รับบริการ
        
        ผู้รับบริการเห็นคุณค่าและพยายามที่จะร่วมกันทำให้บรรลุสำเร็จ
    - - ลักษณะของเกณฑ์การประเมิน
        
        เกณฑ์การประเมินที่สัมพันธ์กับเป้าหมาย
        
        เป็นพฤติกรรมที่วัดได้ สังเกตได้ สังเกตุได้
        
        สอดคล้องกับเป้าหมายการพยาบาลที่กำหนด และสอดคล้องกันข้อมูลที่บ่งชี้ถึงปัญหา
        
        ถูกต้องตามหลักวิชาการ
        
        มีความเป็นไปได้เฉพาะรายตามสถานการณ์นั้นๆ
        
        แต่ละเป้าหมายมีเกณฑ์การประเมินผลมากกว่า 1 เกณฑ์
      - ส่วนประกอบของเกณฑ์การประเมิน
        
        ประธาน:ผู้รับบริการ
        
        กริยา:เป็นพฤติกรรมที่สังเกตได้
        
        เกณฑ์ของการปฏิบัติที่ต้องการให้เกิด:เป็นการระบุมาตรฐาน ภายหลังได้รับการปฏิบัติกิจกรรมพยาบาล
        
        เงื่อนไข:ขยายกริยา เพื่ออธิบายว่า เกิดขึ้นในสถานการณ์ไหนอย่างไร ที่ไหน
    - - 1.1 พิจารณาตามระดับความรุนแรงของปัญหา
        
        ปัญหาลำดับแรก
        
        คือปัญหาที่ต้องการพยาบาลทันที
        
        ปัญหาลำดับที่สอง
        
        คือปัญหาที่ต้องการการแก้ไขรีบด่วน
        
        ปัญหาลำดับที่สาม
        
        คือปัญหาที่รอได้ การดำเนินปัญาเป็นไปอย่างช้า
      - 1.2 พิจารณาตามกรอบแนวคิดความต้องการขั้นพื้นฐานของ Maslow
        
        ปัญหาลำดับที่1
        
        คือปัญหาที่คุกตามชีวิต ความอยู่รอด
        
        ปัญหาลำดับที่2
        
        คือปัญหาที่รบกวนความปลอดภัยและมั่นคงของชีวิต
        
        ปัญหาลำดับที่3
        
        คือปัญหาที่รบกวนความรักและความเป็นเจ้าของ
        
        ปัญหาลำดับที่4
        
        คือปัญหาที่รบกวนความมีคุณค่าในตนเอง
        
        ปัญหาลำดับที่5
        
        คือปัญหาที่รบกวนความสามารถที่จะนำความสำเร็จมาสู่ชีวิต
      - 1.3 พิจารณาตามความต้องการของผู้รับบริการ
    - - กิจกกรรมการพยาบาล (nursing intervention)
        
        กิจกรรมในการให้การพยาบาลที่เป็นวิธีการหรือกลยุทธ์ เฉพาะที่พยาบาลออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ป่วยให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยเกี่ยวข้องกับปัจจัยหรือสาเหตุในข้อวินิจฉัยการพยาบาล
      - ชนิดของกิจกรรมการพยาบาล
        
        กิจกรรมการพยาบาลที่เป็นอิสระ (independent intervention)
        
        กิจกรรมการพยาบาลกึ่งอิสระ ( interdependent intervention )
        
        กิจกรรมการพยาบาลไม่เป็นอิสระ (dependent intervention)
      - ปัจจัยพื้นฐานในการกำหนดกิจกรรมการพยาบาล
        
        มาตรฐานการพยาบาลหรือคู่มือการพยาบาล
        
        แผนการรักษาของแพทย์
        
        บุคลากร
        
        ลักษณะพยาธิสรีรภาพ
        
        ความแตกต่างระหว่างบุคคล
        
        ระยะเวลาที่ต้องใช้ในการทำกิจกรรม
        
        ความรู้ในศาสตร์ต่างๆของพยาบาล
      - ประโยชน์ของการกำหนดกิจกรรม
        
        ทำให้สามรถใช้ทีมการพยาบาลในการให้การดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
        
        ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ
        
        ทำให้สามารถประสานงานภายในทีมและระหว่างทีม
        
        นำไปสู่การบันทึกทางการพยาบาลในลักาณะแก้ปัญหา และพัฒนาเป้นมาตรฐานทางการพยาบาล
        
        ใช้เก้บข้อมูลเป็นประดยชน์ทางการศึกษา และเป็นหลักฐานทางกฎหมาย
        
        ทำให้สามารถให้การดูแลได้ต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง
        
        ทำให้สามารถให้การดูแลผู้ป่วยโดยรวม และเป็นรายบุคคลได้
      - กิจกรรม 5 กิจกรรมใหญ่
        
        ให้บริการ ( giving)
        
        ตรวจสอบ ติดตาม (monitoring)
        
        ให้การดูแล (caring )
        
        สอน (teaching)
        
        ให้การช่วยเหลือ ( helping )
- - - - เป็นการปฎิบัติการพยาบาลตามหน้าที่ที่ได้รับหมอบหมายจากหัวหน้าทีม
      - อาจหน้าที่เดียว หรือหลายหน้าที่จนกว่าที่นั้นจะเสร็จในแต่ละเวร
    - - เป็นการให้การดูแลเฉพาะรายบุคคล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริการทั้งด้าน ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม ครอบคลุมถึงครอบครัว และสิ่งแวดล้อม
      - มี2 ลักษณะคือ แบบ1 เวรและแบบรับผิดชอบตลอดตั้งแต่
        รับไว้จนกระทั่งจำหน่ายออกจาก รพ.
    - - เป็นการผสมผสานการปฎิบัติการพยาบาลตามหน้าที่
        และระบบเจ้าของไข้เข้าด้วยกัน
      - ทำให้มีประสิทธิภาพภาพ ต้องมีหน้าทีม สมาชิกทีมและการประสานงานที่ดีรวมทั้งการนำกระบวนการพยาบาลมาใช้
  - - - ผู้รับบริการ
      - อุปกรณ์ เครื่องใช้
      - ทบทวนแผนการพยาบาล
      - ผู้ปฏิบัติ
    - - สิ่งที่ต้องคํานึงถึงการปฏิบัติการพยาบาล
      - ทักษะที่จำเป็นสําหรับการปฏิบัติการพยาบาล
    - - บันทึกโดยเน้นแหล่งข้อมูล
      - บันทึกโดยเน้นปัญหา
      - บันทึกด้วยคอมพิวเตอร์
      - บันทึกแบบบรรยายตามเหตุการณ์
    - - ต้องพิจารณาว่าผู้ที่ได้รับมอบหมาย มีความรู้ ความสามารถเพียงพอหรือไม่
      - ทั้งพยาบาลรู้วางแผนและได้รับมอบหมาย มีสิทธิและหน้าที่ที่จะทําตามกฎหมายหรือไม่
      - คุณสมบัติที่ต้องพัฒนาให้เกิดขึ้นในผู้ปฏิบัตร คือ 4 H
    - - 1.ต้องประเมินผู้รับบริการก่อนปฏิบัติการพยาบาลเสมอ และประเมินอย่างสม่ำเสมอ ตามสภาวการณ์ของผู้บริการที่เปลี่ยนเเปลง
      - 2.ต้องประเมินความพร้อมของผู้บริการ ที่จะได้รับการพยาบาล
      - ต้องอธิบายให้ผู้รับทราบว่า จะปฏิบัติกิจกรรมอะไรให้ และเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง
    - - 1.ก่อนปฏิบัติงานในแต่ละเวร พยาบาลต้องศึกษารายละเอียดของแผนการพยาบาลใหม่เสมอหลังจากประเมินผู้รับบริการแล้ว เพราะอาจต้องปรับแผนให้สอดคล้องกับสภาพของผู้รับบริการ
      - 2.สําหรับนักศึกษาพยาบาล ควรวางแผนล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาปฏิบัติการพยาบาลต้องบททวนแผนอีกครั้ง และต้องเขียนแผนปฏิบัติการพยาบาลประจําวัน (daily care plan)ซึ่งการปรับแผนประจําวันอาจทําให้หลังจากประเมินผู้รับบริการก่อนเริ่มปฏิบัติงาน และหลังจากประชุมปรึกษาอก่อนปฏิบัติงาน (preconference)
- - - - เน้นเกี่ยวกับหน่วยงานที่ให้การดูเเล
      - จะตรวจสอบการจัดระบบสำหรับให้การดูแล
      - ปัจจัยที่มีผล คือ การบริหาร งบประมาณ การสื่อสาร กระบวนการพัฒนาตนเอง แบบแผนการจัดกำลังคน คุณภาพของบุคลากร สิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องมือเครื่องใช้
    - - เน้นกิจกรรมของผู้ดูแลที่เกิดขึ้น เพื่อตอบสนองต่อ
        ความต้องการของผู้รับบริการในขณะนั้น
      - พิจารณาจากกิจกรรมที่ผู้ดูแลทำให้ผู้รับบริการ
        โดยกูจากการดูแลมเหมาะสม สมบูรณ์
        และถูกเวลาของกิจกรรมนั้นๆ
    - - เน้นที่ภาวะสุขภาพของผู้รับบริการ
      - เป็นการเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงหรือการตอบสนองของผู้รับบริการ
        กับเป้าหมายที่พยาบาลและผู้รับบริการคาดหวัง
  - - - วิธีปฏิบัติของพยาบาล และพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับผู้บริการ