Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 8 พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 (มาตรา 4…
บทที่ 8
พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ
พ.ศ.2545
มาตรา 1
พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545”
พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 35 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทาได้โดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
มาตรา 2
ระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3
ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ.2523
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
“การศึกษาภาคบังคับ”
หมายความว่า การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่เก้าของการศึกษา
ขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
“สถานศึกษา”
หมายความว่า สถานศึกษาที่จัดการศึกษาภาคบังคับ
“ผู้ปกครอง”
หมายความว่า บิดามารดา หรือบิดา หรือมารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อานาจปกครองหรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหมายความรวมถึงบุคคลที่เด็กอยู่ด้วยเป็นประจาหรือที่เด็กอยู่รับใช้การงาน
“เด็ก”
หมายความว่า เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดจนถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่เด็กที่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับแล้ว
“คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน”
“คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา”
“องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”
หมายความว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสถานศึกษาอยู่ในสังกัด
“พนักงานเจ้าหน้าที่”
หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฎิบัติการตาม
พระราชบัญญัตินี้
“รัฐมนตรี”
หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 5
ให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณี ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา และการจัดสรรโอกาสเข้าศึกษาต่อระหว่างสถานศึกษาที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับโดยให้ปิดประกาศไว้ ณ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา สานักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานศึกษา รวมทั้งต้องแจ้งเป็นหนังสือให้
ผู้ปกครองของเด็กทราบก่อนเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
มาตรา 6 ให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา
เมื่อผู้ปกครองร้องขอ ให้สถานศึกษามีอานาจผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกาหนด
มาตรา 7
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจเข้าไปในสถานที่ใด ๆ ในเวลาระหว่าง
พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกหรือในเวลาทาการของสถานที่นั้น เพื่อตรวจสอบการเข้าเรียนของเด็ก หากพบว่ามีเด็กไม่ได้เข้าเรียนในสถานศึกษาตามมาตรา 5 ให้ดาเนินการให้เด็กนั้น ได้เข้าเรียนในสถานศึกษานั้น แล้วรายงานให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
แล้วแต่กรณีทราบ
มาตรา 8
ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจาตัวแก่บุคคลซึ่ง
เกี่ยวข้องบัตรประจาตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศกาหนด
มาตรา 9
ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องอานวย
ความสะดวกตามสมควร
มาตรา 10
ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็น
เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 11
ผู้ใดซึ่งมิใช่ผู้ปกครอง มีเด็กซึ่งไม่ได้เข้าเรียนในสถานศึกษาอาศัยอยู่ด้วย ต้องแจ้งสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณี ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่เด็กมาอาศัยอยู่ เว้นแต่ผู้ปกครองได้อาศัยอยู่ด้วยกับผู้นั้น
มาตรา 12
ให้กระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานศึกษา จัดการศึกษาเป็นพิเศษสาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ
สติปัญญา อารมณ์ สังคม การสื่อสารและการเรียนรู้ หรือมีร่างกายพิการ หรือทุพพลภาพ หรือเด็กซึ่งไม่สามารถพึ่งตนเองได้ หรือไม่มีผู้ดูแล หรือด้อยโอกาส หรือเด็กที่มีความสามารถพิเศษให้ได้รับการศึกษาภาคบังคับด้วยรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม รวมทั้งการได้รับสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดตามความจาเป็น เพื่อประกันโอกาสและความเสมอภาคในการได้รับการศึกษาภาคบังคับ
มาตรา 13
ผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 6 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา 14
ผู้ใดไม่อานวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 9 ต้อง
ระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา 15
ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควร กระทาด้วยประการใด ๆ อันเป็นเหตุให้เด็กมิได้เรียนในสถานศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา 16
ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 11 หรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา 17
ในระหว่างที่ยังไม่มีคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ทาหน้าที่แทนคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตราที่ 18
ในระหว่างที่ยังไม่มีคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา ให้คณะกรรมการการประถมศึกษากรุงเทพมหานคร คณะกรรมการการประถมศึกษาอาเภอ หรือคณะกรรมการการประถมศึกษากิ่งอาเภอ แล้วแต่กรณี ทาหน้าที่แทนคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา และให้สานักงานการประถมศึกษากรุงเทพมหานคร สานักงานการประถมศึกษาอาเภอ หรือสานักงานการประถมศึกษากิ่งอาเภอแล้วแต่กรณี ทาหน้าที่แทนสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มาตรา 19
ให้บรรดากฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับ และคาสั่งที่ออก
ตามพระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ.2523 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษายังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดแย้งกับบทบัญญัติในพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 20
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ กับมีอานาจออกประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พันตารวจโท ทักษิณ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี
นายอิสมาแอ มะซะ 6220160464 กลุ่ม 6
เลขที่ 24