Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ ๑๓ พระราชบัญญัติ สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ (หมวด ๑…
บทที่ ๑๓ พระราชบัญญัติ สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖
หมวด ๑ สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
ส่วนที่ ๒ คณะกรรมการคุรุสภา
มาตรา ๑๕ นอกจากที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๓
กรรมการที่มาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ดารงตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้บริหารการศึกษา หรือบุคลากรทางการศึกษาอื่น ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะตามมาตรา ๑๔ (๑) และต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านปฏิบัติการสอน และมีประสบการณ์ในตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้บริหารการศึกษา หรือบุคลากรทางการศึกษาอื่น รวมกันไม่น้อยกว่าสิบปี
มาตรา ๑๖ กรรมการตามมาตรา ๑๒ (๑) (๓) (๔) และ (๕)
ให้อยู่ในตาแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งอีก แต่จะดารงตาแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันไม่ได้
มาตรา ๑๗ นอกจากการพ้นตาแหน่งตามวาระ กรรมการตามมาตรา ๑๒ (๑) (๓) (๔) และ (๕) พ้นจากตาแหน่งเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) รัฐมนตรีโดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือหย่อนความสามารถ
(๔) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๕ แล้วแต่กรณี
มาตรา ๑๔ กรรมการที่มาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ดารงตาแหน่งครู ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะดังต่อไปนี้
(๑) เป็นผู้มีใบอนุญาตและไม่เคยถูกสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
(๒) เป็นผู้มีประสบการณ์ด้านปฏิบัติการสอนมาแล้วรวมกันไม่น้อยกว่าสิบปี หรือดารงตาแหน่งอาจารย์ ๓ หรือมีวิทยฐานะเป็นครูชานาญการขึ้นไป
มาตรา ๑๓ ประธานกรรมการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(ก) คุณสมบัติทั่วไป
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีอายุไม่ต่ากว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์
(๓) มีความซื่อสัตย์และยุติธรรมเป็นที่ประจักษ์
(ข) ลักษณะต้องห้าม
(๓) เคยมีประวัติเสื่อมเสียทางจริยธรรม จรรยาบรรณ และการประกอบวิชาชีพ
(๔) เป็นผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นกรรมการ หรือดารงตาแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง
(๒) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๕) เป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างหรือที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีสัญญาจ้างกับสานักงานเลขาธิการคุรุสภาหรือสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
(๖) เคยต้องโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิดที่ได้กระทาโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๗) เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่กระทากับกิจการคุรุสภาหรือสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
(๑) เป็นบุคคลล้มละลายซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี
(๘) มีลักษณะต้องห้ามอื่นตามที่กาหนดในข้อบังคับของคุรุสภา
มาตรา ๑๘ ก่อนครบวาระการดารงตาแหน่งของกรรมการตามมาตรา ๑๒ (๑) (๓) (๔) และ (๕) ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน
ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาคณะหนึ่งจานวนสิบเอ็ดคนจากคณะกรรมการคุรุสภาตามมาตรา ๑๒ (๒) จานวนห้าคน และจากผู้แทนสมาคมวิชาการหรือวิชาชีพด้านการศึกษาที่เป็นนิติบุคคล
มาตรา ๑๒ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า คณะกรรมการคุรุสภา ประกอบด้วย
(๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนเจ็ดคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูงด้านการบริหารการศึกษา
(๔) กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งจากผู้ดารงตาแหน่งคณบดีคณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์ หรือการศึกษา ซึ่งเลือกกันเองจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐจานวนสามคน และจากสถาบันอุดมศึกษาเอกชนจานวนหนึ่งคน
(๒) กรรมการโดยตาแหน่ง ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(๕) กรรมการจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ซึ่งเลือกตั้งมาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจานวนสิบเก้าคน
(๑) ประธานกรรมการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูงด้านการศึกษา มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือกฎหมาย
มาตรา ๑๙ ในกรณีที่กรรมการคุรุสภาตามมาตรา ๑๒ (๑) และ (๓) พ้นจากตาแหน่งก่อนครบวาระ
ห้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งผู้อื่นซึ่งได้รับการสรรหาในลาดับถัดไปดารงตาแหน่งแทนก็ได้และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนั้นอยู่ในตาแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้ว
มาตรา ๒๐ ให้คณะกรรมการคุรุสภามีอานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๕) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกระทาการใดๆ อันอยู่ในอานาจและหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา
(๔) เร่งรัดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ หรือคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพปฏิบัติตามอานาจและหน้าที่ที่กฎหมายกาหนด
(๖) ควบคุมดูแลการดาเนินงานและการบริหารงานทั่วไป ตลอดจนออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือข้อกาหนดเกี่ยวกับสานักงานเลขาธิการคุรุสภาในเรื่องดังต่อไปนี้
(ค) การคัดเลือก การบรรจุ การแต่งตั้ง การถอดถอน วินัยและการลงโทษทางวินัย การออกจากตาแหน่ง การร้องทุกข์ และการอุทธรณ์การลงโทษของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งวิธีการ เงื่อนไขในการจ้างพนักงานเจ้าหน้าที่ของคุรุสภา
(ง) การบริหารและจัดการการเงิน การพัสดุ และทรัพย์สินของคุรุสภา
(ข) การกาหนดตาแหน่ง คุณสมบัติเฉพาะ อัตราเงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนอื่นของพนักงานเจ้าหน้าที่ของคุรุสภา
(จ) กาหนดอานาจหน้าที่และระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจสอบภายใน
(ก) การจัดแบ่งส่วนงานของสานักงานเลขาธิการคุรุสภาและขอบเขตหน้าที่ของส่วนงานดังกล่าว
(๒) ให้คาปรึกษาและแนะนาแก่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
(๘) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกาหนดไว้ให้เป็นอานาจและหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา
(๑) บริหารและดาเนินการตามวัตถุประสงค์และอานาจหน้าที่ของคุรุสภาซึ่งกาหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
(๙) พิจารณาหรือดาเนินการในเรื่องอื่นตามที่รัฐมนตรีมอบหมาย
(๗) กาหนดนโยบายการบริหารงาน และให้ความเห็นชอบแผนการดาเนินงานของสานักงานเลขาธิการคุรุสภา
(๓) พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คาสั่งของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามมาตรา ๕๔