Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Antenatal Care :pencil2: Pregnancy in advanced maternal age…
Antenatal Care :pencil2:
Pregnancy in advanced maternal age การตั้งครรภ์ในสตรีอายุมาก
ข้อมูลทั่วไป :star:
ตรวจร่างกาย
ศีรษะ : หนังศีรษะสะอาดดี ไม่มีรังแค
ตา : เยื่อบุตาสีชมพู
ช่องปาก : สุขภาพช่องปากปกติ ไม่มีฟันผุ
ลำคอ : คลำไม่พบก้อน ต่อมไทรอยด์ปกติ
เต้านม : ลานหัวนมปกติ เต้านมปกติ
แขนขา : แขนขาไม่บวม
ตรวจครรภ์
การคลำ
พบว่าขนาดของมดลูกไม่สัมพันธ์กับอายุครรภ์ คลำได้ 2/4 เหนือหัวหน่าว
การฟัง
ไม่ได้ยินเสียง FHS
การดู
หน้าท้องปกติ เหมาะสมกับอายุครรภ์
หญิงตั้งครรภ์ อายุ 36 ปี
G1P0000
GA 11 wks. by date
EDC by date 5 ตุลาคม 2562 x 3 วัน
ปฏิเสธประวัติการเจ็บป่วย
ปฏิเสธประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
มีประวัติการแพ้ยา Aroxia(ยาแก้ปวด) - ผื่นขึ้น
ไม่เคยรับการฉีดวัคซีนบาดทะยัก
น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ 46 kg. ส่วนสูง 149 cm.
BMI = 20.72 kg/m2
เข้าโรงเรียนพ่อแม่ ครั้งที่ 1 : 3 มีนาคม 2563
ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับกลุ่มอาการดาวน์ : 3 มีนาคม 2563
ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Urine Protein/Sugar : Trace/Neg
Hb : 11.5
Hct : 34.5
VDRL : Neg
HIV Ab : Neg
HBsAg : Neg
Group Blood : O
Rh : Positive
Ab screening : Neg
BS 50 gm. : 77
MCV : 81.1
Hb typing : Normal or Non clinically significant thalassemia
Notify
Pregnancy in advanced maternal age การตั้งครรภ์ในสตรีอายุมาก
Problem List
หญิงตั้งครรภ์มีอาการคลื่นไส้อาเจียน
รับประทานอาหารได้น้อย น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้น
คำแนะนำ
1.เลี่ยงอาหาร / สิ่งกระตุ้นที่ทำให้คลื่นไส้อาเจียน เช่น ผักกลิ่นฉุน
2.กินอาหารแข็งย่อยง่าย เช่น แครกเกอร์ ขนมปังกรอบ
3.จิบน้ำอุ่นทันทีที่ตื่นนอนแล้วนอนพัก 15 นาที
4.รับประทานน้อย แต่บ่อยครั้ง
5.ดื่มน้ำมากๆ อาจเป็นน้ำผลไม้ / น้ำขิง
1 more item...
หญิงตั้งครรภ์มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจาะน้ำคร่ำ
ให้ความรู้ คำแนะนำ และตอบข้อซักถามแก่หญิงตั้งครรภ์
ทำไมต้องเจาะน้ำคร่ำ?
เป็นหัตถการที่ทำกันมากที่สุดในการหาความผิดปกติของโครโมโซมของทารกก่อนคลอด เพื่อให้คู่สามีภรรยามส่วนร่วมในการตัดสินใจ
การเจาะน้ำคร่ำ?
การเจาะน้ำคร่ำใช้เข็มขนาดเล็ก เพียงแต่ว่าจะมีขนาดยาว เพราะต้องเจาะผ่านชั้นผนังหน้าท้อง ไขมัน กล้ามเนื้อ และผนังมดลูกเข้าไปจึงจะดูดน้ำคร่ำออกมาตรวจได้ ก่อนการเจาะสามารถฉีดยาชาเพื่อลดความเจ็บปวดที่ชั้นผนังหน้าท้องก่อนได้ และเวลาเจาะจริงก็อาจมีอาการเสียวท้องน้อยหรือปวดหน่วงๆคล้ายปวดประจำเดือนเบาๆได้บ้าง โดยอาการเหล่านี้จะค่อยๆเบาลงหลังเจาะน้ำคร่ำไม่นานระหว่างการเจาะน้ำคร่ำ จะดูอัลตราซาวด์ควบคู่ไปด้วยเพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าเข็มจะไปจิ้มโดนทารกในครรภ์
การปฏิบัติตัวก่อนและหลังการเจาะน้ำคร่ำ
ก่อนการตรวจ
ทานอาหารได้ตามปกติ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันไปเจาะ
:check:หากอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ขึ้นไปควรปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อน เพื่อลดโอกาสที่ถุงน้ำคร่ำอาจรั่ว
:check:หากอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ขึ้นไปควรปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อน เพื่อลดโอกาสที่ถุงน้ำคร่ำอาจรั่ว
ก่อนการเจาะน้ำคร่ำ แพทย์จะแจ้งเกี่ยวกับขั้นตอนและการเซ็นเอกสารรับทราบซึ่งต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน ต่อจากนั้น ว่าที่คุณแม่อาจต้องให้ญาติหรือคนใกล้ชิดช่วยเหลือในเรื่องการเดินทางกลับหลังจากเจาะน้ำคร่ำแล้ว
1 more item...
หลังการตรวจ
งดกิจกรรมที่กระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก เช่น เดินมาก ยกของหนัก เพศสัมพันธ์
สามารถไปทำงานได้ตามปกติถ้าเป็นงานทั่วๆไป
ถ้ามีความกังวลให้ปรึกษาคุณหมอที่เจาะว่าสมควรหยุดงานหรือไม่ เพราะต้องพิจารณาเป็นรายๆไป
1 more item...
อาการที่ผิดปกติที่ควรรีบมาพบแพทย์
มีไข้ มีอาการหนาวสั่น
เกิดการหดรัดตัวขึ้น (อาการที่ช่วงท้องเกิดการเกร็งและผ่อน)
มีของเสีย หรือมีน้ำใส ๆ ออกจากช่องคลอด
เลือดออกทางช่องคลอด
1 more item...
รอผลตรวจนานแค่ไหน?
ผลการตรวจครั้งแรกมักจะออกมาภายใน 3 วัน ซึ่งสามารถบอกได้ว่ามีการพบโรคใดบ้าง (ดาวน์ เอ็ดเวิร์ด หรือพาทัวซินโดรม) หากเป็นการทดสอบหาภาวะความผิดปรกติที่หายากกว่านั้น อาจใช้เวลา 2 -3 อาทิตย์กว่าผลจะออก
ความหมาย :
การตั้งครรภ์ในสตรีที่อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 35 ปี
ถ้าเป็นการตั้งครรภ์ครั้งแรก เรียกว่า elderly primigravida
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์ :warning:
ภาวะความดันโลหิตสูงร่วมกับการตั้งครรภ์
ภาวะเบาหวานร่วมกันกับการตั้งครรภ์
การแท้ง การตั้งครรภ์นอกมดลูก
รกเกาะต่ำ รกลอกตัวก่อนกำหนด
ภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด ภาวะน้ำคร่ำน้อย
หลอดเลือดดำขดพอง ริดสีดวงทวาร การอักเสบของหลอดเลือดดำ
ระยะการคลอดยาวนาน เสี่ยงต่อการใช้สูติศาสตร์หัตถการในการช่วยคลอด
ความผิดปกติของรก การตกเลือดในระยะหลังคลอด
ผลกระทบต่อทารก :warning:
ความพิการแต่กำเนิดของทารกโดยเฉพาะ Down's syndrome ซึ่งอัตราเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติทางโครโมโซมจะเพิ่มตามอายุของสตรีมีครรภ์ :!!:
ทารกจะเจริญเติบโตช้าในครรภ์
การคลอดก่อนกำหนด หรือเกินกำหนด
ทารกตัวโต และคลอดไหล่ยาก
อัตราทุพพลภาพและอัตราตายปริกำเนิดสูงขึ้น
การตรวจคัดกรองทารกที่ผิดปกติ
การเจาะน้ำคร่ำ และนำเซลล์ที่เจาะได้จากน้ำคร่ำมาตรวจทางพันธุกรรม
เจาะเลือดจากแม่ โดยหลักการจะเป็นการหาเซลล์ของทารกที่หลุดออกมา และผ่านตัวรกเข้าสู่กระแสเลือดของแม่
Triple screening หรือ Quadruple screening เป็นการหาสารชีวเคมีในร่างกายแม่ เทียบกับค่าของสตรีตั้งครรภ์ปกติ ผลที่ได้จะมีความแม่นยำ ประมาณ 70 - 80 %
Down's syndrome
:red_flag:
ความหมาย
เป็นโรคทางพันธุกรรมชนิดหนึ่ง ที่สาเหตุเกิดจากความผิดปกติทางด้านจำนวนของโครโมโซม โดยมีอัตราการเกิดประมาณ 1 ต่อ 800-1,000 การเกิดมีชีพ และอุบัติการณ์ยังเพิ่มขึ้น ตามอายุของมารดาขณะตั้งครรภ์
การตรวจคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์ของทารกในครรภ์
วิธีคัดกรองในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ (First-trimester sceening)
ตรวจเมื่ออายุครรภ์ 11-13 wks.
ประกอบด้วยการวัดความหนาแน่นของน้ำที่สะสมบริเวณต้นคอทารก [Nuchal translucency (NT)] โดยใช้อัลตร้าซาวด์ ร่วมกับการตรวจหาค่าสารชีวเคมี ในกระแสเลือดของสตรีตั้งครรภ์ 2 ชนิด คือ β-hCG และ PAPP-A
β-hCG (Beta human chorionic gonadotrophin) ซึ่งผลิตจากรก ✓ถ้าเป็นดาวน์ซินโดรม → beta hCG ได้สูงกว่าปกติ ↑
Pregnancy associated plasma protein A (PAPP-A) ซึ่งผลิตจากรก ✓ถ้าเป็นดาวน์ซินโดรม → PAPP-A ได้ต่ำกว่าปกติ ↓
สามารถคัดกรองทารกดาวน์ซินโดรมได้ประมาณ 80%
วิธีคัดกรองในช่วงไตรมาสสองของการตั้งครรภ์ (Second-trimester screening)
Triple screening (AFP + β-hCG + Estriol) : สามารถคัดกรองทารกดาวน์ซินโดรมได้ประมาณ 60%
AFP (Alpha fetoprotein) ซึ่งผลิตจากถุงไข่แดงของตัวอ่อนและตับ ✓ถ้าเป็นดาวน์ซินโดรม → AFP ได้ต่ำกว่าปกติ ↓
β-hCG (Beta human chorionic gonadotrophin) ซึ่งผลิตจากรก ✓ถ้าเป็นดาวน์ซินโดรม → beta hCG ได้สูงกว่าปกติ ↑
uE3 (Unconjugated estriol) ซึ่งผลิตจากรกและต่อมหมวกไตของตัวอ่อน ✓ถ้าเป็นดาวน์ซินโดรม → uE3 ได้ต่ำกว่าปกติ ↓
Quadruple screening (+Inhibin-A) : สามารถคัดกรองทารกดาวน์ซินโดรมได้ประมาณ 80%
Inhibin-A ผลิตจากรก ✓ถ้าเป็นดาวน์ซินโดรม → ได้มากกว่าปกติ ↑ .
:warning: กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการที่ทารกในครรภ์เป็นดาวน์ซินโดรม ให้ตรวจวินิจฉัยก่อนคลอดด้วยวิธีการเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis)
วิธีคัดกรองในช่วงไตรมาสแรกร่วมกับวิธีคัดกรองในช่วงไตรมาสสองของการตั้งครรภ์ (Sequential first and second-trimester screening)
สามารถคัดกรองทารกดาวน์ซินโดรมได้ประมาณ 90%
ถ้าตรวจวิธีคัดกรองในช่วงไตรมาสแรกพบเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ ให้ตรวจ Quadruple screening ในไตรมาสสองต่อ
ถ้าพบเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ให้ตรวจวินิจฉัยก่อนคลอด ด้วยการเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis)
การตรวจวินิจฉัยกลุ่มอาการดาวน์ของทารกในครรภ์
1.ตัดตัวอย่างรก (chorionic villus sampling)
ตัดหรือดูดเนื้อรกบางส่วน เนื่องจากทารกและรกเจริญพัฒนามาจากเซลล์เนื้อเยื่อเดียวกัน จึงมีลักษณะทางพันธุกรรมคล้ายคลึงกัน ทำให้ตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของทารกได้ โดยจะกระทำในระยะที่รกเริ่มเกาะแน่นพอที่จะไม่เกิดการแท้ง อายุครรภ์ที่เหมาะสมคือ 11-14 wks. ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ การแท้งบุตร
2.เจาะน้ำคร่ำมาตรวจ (amniocentesis)
เพื่อตรวจหาโครโมโซมเป็นกระบวนการนำนํ้าครํ่าที่อยู่รอบตัวของทารกในโพรงมดลูกออกมา เพื่อทำการตรวจหาโครโมโซมของทารก โอายุครรภ์ที่เหมาะสมในการเจาะน้ำคร่ำคือ 16 - 18 wks. ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ การแท้งบุตร
3.การเจาะเลือดจากสายสะดือทารกในครรภ์ (Cordocentesis)
ตรวจวินิจฉัยความผิดปกติทางโครโมโซมโดยเฉพาะกลุ่มอาการดาวน์ การตรวจวินิจฉัยโรคติดเชื้อแต่กำเนิด ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ เลือดออก
การแปลผลการตรวจคัดกรองทารกดาวน์
การตรวจคัดกรองให้ผลบวก
มีความเสี่ยงต่อการเกิดทารกดาวน์สูงกว่า 1 ใน 200 (ณ ขณะที่ตรวจเลือด) ซึ่งมีความเสี่ยงเช่นเดียวกับหญิงตั้งครรภ์ที่อายุมากกว่า 35 ปี หญิงตั้งครรภ์ในกลุ่มนี้จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ และให้ทางเลือกในการตรวจโครโมโซมของทารกโดยการเจาะตรวจน้ำคร่ำ หรือการตัดชิ้นเนื้อรกไปตรวจ
การตรวจคัดกรองให้ผลบวก ไม่ได้ หมายความว่าทารกจะเป็นดาวน์ซินโดรมเสมอไป แต่มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ทารกดาวน์สูงกว่าหญิงตั้งครรภ์ทั่วไป ซึ่งต้องเจาะน้ำคร่ำตรวจต่อไป
การตรวจคัดกรองให้ผลลบ
มีความเสี่ยงต่อการเกิดทารกดาวน์ต่ำกว่า 1 ใน 200 (ณ ขณะที่ตรวจเลือด) ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงน้อย และไม่มีความจำเป็นต้องทำการเจาะน้ำคร่ำตรวจโครโมโซมของทารก หรือการตรวจเนื้อรก
อย่างไรก็ตามการตรวจคัดกรองที่ให้ผลลบ มิได้หมายความว่าทารกไม่มีโอกาสเป็นดาวน์ เพียงแต่บอกว่ามีโอกาสเกิดน้อยมาก
การตรวจด้วยเทคนิค Non-Invasive Prenatal Testing (NIPT)
การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์จากเลือดมารดา สามารถหาความเสี่ยงการเกิดกลุ่มอาการดาวน์หรือความผิดปกติของโครโมโซมอื่นที่สำคัญ รวมถึงโครโมโซมเพศและเพศของทารกในครรภ์ได้
สามารถรับการตรวจ NIPT ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ขึ้นไป และเนื่องจากเป็นการตรวจชิ้นส่วนสารพันธุกรรมจากรกที่ปนอยู่ในเลือดของมารดา จึงเป็นการตรวจที่ปลอดภัยและมีความแม่นยำสูงถึง >99% เนื่องจากใช้ เทคโนโลยีวิเคราะห์ลำดับเบส (Next Generation Sequencing) ในการวิเคราะห์หาความผิดปกติของโครโมโซม
ไม่เหมาะสมกับมารดาที่
เป็นโรคมะเร็ง
ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ
ได้รับเลือดภายใน 12 เดือนที่ผ่านมา
ผ่านการบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ หรือการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด
มีความผิดปกติของโครโมโซมชนิด trisomy
ข้อดีของการตรวจ
ไม่เป็นอันตรายต่อมารดาและทารกในครรภ์และไม่มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
สามารถทราบผลการตรวจภายในเวลา 5 - 14 วัน
มีความแม่นยำในการคัดกรองหาความผิดปกติของโครโมโซมและเพศของทารกในครรภ์ > 99%
ใช้ตัวอย่างเลือดจากมารดาเพียงเล็กน้อย