Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 14 พระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547…
บทที่ 14 พระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547
ให้ไว้ ณ วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2547
ข้าราชการครู หมายความว่า ผู้ที่ประกอบวิชาชีพซึ่่งทหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและสงเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาของรัฐ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หมาความว่า บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้ให้รับราชการ โดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณแผ่นดิน
คณาจารย์ หมายความว่า บุคลากรซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาของรัฐ
บุคลากรทางการศึกษา หมายความว่า ผู้ทำหน้าที่ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกันกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ การบริการการศึกษา และปฏิบัติงานอื่นในหน่วยงานการศึกษา
หมวด 1 คณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มาตรา 7-28
ให้มีคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เรียกว่า "ก.ค.ศ."
หน้าที่ของ ก.ค.ศ. เสนอนโยบายให้คำปรึกษาและออกกฎ ก.ค.ศ.
การประชุม ก.ค.ศ. ต้องมีมาร่วมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวน ก.ค.ศ. ต้องมีมาร่วมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวน ก.ค.ศ.ทั้งหมด
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี และไม่เกิน 70 ปี มีสัญชาติไทย ไม่ดำรงตำแหน่งหรือเกี่ยวข้องทางการเมืองและไม่มีประวัติเสื่อมเสีย
การตั้งกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี
หมวด 2 บบทั่วไป มาตรา29-37
การดำเนินตามพระราชบัญญัติให้เป็นไปตามหลักการบริหาร กิจการบ้านเมืองที่ดี โดยยึดถือระบบคุณธรรม ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน
เงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่งไม่ถือเป็นเงินเดือน
วันหยุดราชการตามประเพณี วันหยุดราชการประจำปีและวันลาหยุดราชการ
ระเบียบการแต่งเครื่องแบบ
บำเหน็จบำนาญข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามกฎหมาย
หมวด 3 การกำหนดตำแหน่ง วิทยฐานะและการให้ได้รับเงินเดือน เงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่ง มาตรา 38-44
ตำแหน่งซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้สอนในหน่วยงานการศึกษาได้แก่ ครูผู้ช่วย ครู อาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์และศาสตราจารย์
ตำแหน่งครูมีวิทยฐานะ ได้แก่ ครูชำนาญการ ครูชำนาญการพิเเศษ ครูเชี่ยวชาญและครูเชี่ยวชาญพิเศษ
ตำแหน่งคณาจารย์ ได้แก่ อาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษามีวิทยฐานะ ได้แก่ รองผู้อำนวยการชำนาญการ ชำนสญการพิเศษและเชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการชำนาญพิเศษ เชียวชาญ และเชียวชาญพิเศษ
หมวด 5 การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ
การเลื่อนขั้นเงินเดือนผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งโดยคณะกรรมการพิจารณา
การยึดหลักปฏิบัติตนที่เหมาะสม
ผู้ใดมีผลงานโดดเด่นเป้นที่ประจักษณ์ให้ดำเนินการยกย่องเชิดชูเกียรติ ตามสมควรแก่กรณีให้รับเงินวิทยพัฒน์ได้
หมวด 4 การบบรจุและการแต่งตั้ง
การบรรจุบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใดให้บรรจุและแต่ตั้งจากผู้สอบแข่งขันได้สำหรับตำแหน่งนั้น
สำหรับผู้ที่มีตำแหน่งอยู่แล้วให้มีสิทธิสอบแข่ขันได้ แต่จะมีสิทธิบรรจุตามที่สอบได้ก็ต่อเมื่อพ้นจากตำแหน่งนั้นๆแล้ว
การกำหนดตำแหน่งบางตำแหน่งเป็นสัญญาจ้างปฏิบัติงานรายปีหรือตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด
โอนพนักงานส่วนท้องถิ่นมาบรรจุแต่งตั้งไม่ได้หรืออาจทำได้หากบุคคลนั้นสมัครใจ โดยก.ค.ศ ประสงค์รับโอนและทำการตกลงกับหน่วยงานสังกัดเดิม
หมวด 6 วินัยและการรักษาวินัย มาตรา 82-97
สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่ ก.ค.ศ.กำหนดอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ
ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสมอภาคและ
เที่ยงธรรม
ปฏิบัติตามคำสั่งบังคับบัญชาซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการ
ต้องไม่กระทำการยินยอมให้ผู้อื่นทำการหาผลประโยชน์ในตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน
ต้องไม่ลอกเลียนผลงานวิชาการของผู้อื่น
หมวด 7 การดำเนินการทางวินัย มาตรา 89-106
ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ความจริงและยุติธรรม
ถ้าผิดวินัยเล็กน้อยและมีเหตุผลอันควรลดโทษจะลดโทษให้ทำทัณฑ์บนเป็นหนังสือ
สำหรับอธิการบดี ผู้อำนวยการ ตำแหน่งวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ศาสตราจารย์ ฟรือตำแหน่งใดกระทำความผิดร้ายแรง จะให้ก.ค.ศ.พิจารณา
หมวด 8 การออกจากราชการ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะออกราชการ เมื่อ....
4.ถูกสั่งให้ออก
3.ลาออกและได้รับอนุญาตให้ลาออก
5.ถูกสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออก
2.พ้นจากราชการตามกฎหมาย
ุ6.ถูกเพกถอนใบประกอบวิชาชีพ (เว้นแต่ได้รับการแต่งตั้งให่ดำรงตำแหน่งที่ไม่ต้องใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ)
1.ตาย
หมวด 9 การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ มาตรา 121-126
ผู้ใดที่ถูกลงดทษภาคทัณฑ์ตัดเงินเดือนหรือลดขั้นเงินเดือนให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ.ที่ก.ค.ศ.แต่งตั้งได้ภายใน 30 วัน
ผู้ใดถูกสั่งบทลงโทษปลดออก ไล่ออกจากราชการให้มีสิทธิอุทธรณ์หรือร้องทุกข์ได้แล้วแต่กรณี
ผู้ใดเห็นว่า อ.ก.ค.ศ. มีมติไม่ถูกต้องหรือไม่ธรรมให้มีสิทธิร้องทุกข์ต่อ ก.ค.ศ.
เมื่อวินิจฉัยอุทธรณ์แล้วผู้ใดเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้นั้นมีสิทธิ์ฟ้องร้องคดีต่อศาลปกครองได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
ผู้ที่ไม่โอนมาจากพนักงานส่วนท้องถิ่นถูกลงโทษวินัยก่อนวันโอนมาบรรจุผู้นั้นมีสิทธิอุทธรณ์ได้ตามกฎหมายระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น