Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กลุ่ม 9 การพยาบาลเด็กโรคติดเชื้อ กลุ่มที่ 9 (โรคติดเชื้อแบคทีเรีย (คอตีบ…

- - - - มีไข้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนสูงสุดวันที่ 3หรือ 4พร้อมกับผื่นขึ้น
      - น้ามูกไหล ไอ ตาแดง ถ้าดูในปากจะพบจุดขาวเล็กๆ ล้อมรอบด้วยผื่นสีแดง (Koplik s spot)
      - ลักษณะผื่นจะเป็นแบบ maculopapular rash rashเริ่มที่ไรผม หน้าผาก หลังหูไล่ลงมาตามตัว แขน ขา ตามลาดับ
      - ไข้ลง แล้วผื่นจะค่อยจางลงเปลี่ยนเป็นสีคล้า ตัวลาย (hyperpigmentation)
      - อาจตรวจพบต่อมน้าเหลืองบริเวณหลังหูโต
    - - ให้ยาลดไข้ ให้ดื่มน้ามากๆ
      - ให้ยาแก้ไอ ลดน้ามูก
      - ถ้าหอบมากให้ออกซิเจน
    - - ฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 9เดือนขึ้นไป
  - - - มีน้ามูก ไอ ต่อมน้าเหลืองที่ท้ายทอยหลังหูโต กดเจ็บ
      - มีไข้ไม่เกิน 1 วันหลังผื่นขึ้น ผื่นจะขึ้นบริเวณใบหน้าก่อนและลามลงอย่างรวดเร็ว
    - - หัดเยอรมันมีอาการน้อยและหายได้เร็ว ให้การรักษาตามอาการ
    - - โดยการฉีด วัคซีน หญิงที่ฉีดวัคซีนแล้วแนะนาว่าระวังอย่าให้ตั้งครรภ์ภายใน 3 เดือนหลังฉีด
      - ให้ immune serum globulin ขนาดสูงใน 7 วัน หลังสัมผัสโรค
  - - - มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร 1-2 วันก่อนผื่นขึ้น ผื่นจะเริ่มด้วยตุ่มแดงและเปลี่ยนเป็น papule และกลายเป็นตุ่มน้าใส และแห้งเป็นสะเก็ดอย่างรวดเร็ว
    - - รักษาตามอาการ ให้ยาลดไข้ที่ไม่ใช่แอสไพริน ให้ยาแก้คัน Calamine lotion และยาปฏิชีวนะ ผู้ป่วยที่มี
      - ภูมิคุ้มกันต่าต้องให้ยาฆ่าเชื้อไวรัสหรือ immun e globulin globulinหลังหลังสัมผัสโรคไม่เกิน 4วัน
      - Antiseptic soap อ่อนๆ
    - - แยกผู้ป่วยอย่างน้อย 5 วันหลังผื่นขึ้น หรือจนกว่าจะตกสะเก็ดหมด
      - ล้างมือให้สะอาดหลังสัมผัสกับผื่น
      - ฉีดวัคซีนป้องกันโรค
- - - - ไข้ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร
      - ปวดขากรรไกรข้างแก้ม ต่อมน้าลายหน้าหูบวมโต กดเจ็บ
    - - ให้ยาลดไข้ เช็ดตัว
      - ประคบอุ่นลดปวด
      - ดูแลความสะอาดปากฟัน
      - พักผ่อน เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน
  - - - ระยะไข้ ( Febrile stage)ไข้จะสูงลอย 3-5วัน อาจนานถึง 7วันอาจมีผื่นหรือจุดเลือดออกเล็กๆ ทา Tourniquet t est
        ให้ผลบวกเกล็ดเลือดต่า
      - ระยะช็อค (shock stage)ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตลด
      - ระยะพักฟื้น (convalescent stage)น้าและโปรตีนที่รั่วออก เริ่มกลับเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือด จะมีปัสสาวะออกมากขึ้น หัวใจเต้นช้า
    - - ไข้ ตับโต เลือดออก มีระดับความเข้มข้นของเลือด (Hct.) เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% เกร็ดเลือดต่ากว่า 1แสน
      - WBC ต่า 2000 -5000
        cumm.
      - ภาพรังสีปอดพบ pleural effusion
    - - ระยะไข้สูง
        
        ให้ยาลดไข้ ไม่ควรใช้ แอสไพริน ให้น้าและเกลือแร่อย่างเพียงพอ
      - ระยะช็อค
        
        ต้องติดตามอาการผู้ป่วยอย่างไกลชิดแนะนาให้พ่อแม่ทราบอาการนาของช็อค
      - ระยะพักฟื้น
        
        เมื่ออาการเริ่มดีขึ้น ปัสสาวะออกมากขึ้น พ้นระยะช็อคแล้ว ต้องหยุดให้ สารนาทางหลอดเลือดดา เพราะอาจทาให้เกิด fluid
        overload
    - - ระวังไม่ให้เด็กถูกยุงลายกัด
      - รณรงค์ กาจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุง
  - - - Major
        
        นน.ลด
        
        ท้องเสียเรื้อรัง
        
        มีไข้นานมากกว่า 1 เดือน
        
        ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างรุนแรงเรื้อรัง
      - Minor
        
        อมน้าเหลืองโตทั่วไป
        
        ติดเชื้อราในปาก คอหอย
        
        ผื่นทั่วตัว
        
        มารดาติดเชื้อ HIV
- - - - เยื่อบุทางเดินหายใจเกิดเยื่อสีขาวแกมเทาติดแน่น
    - - ระยะฟักตัวของโรคใช้เวลาประมาณ 2-6 วัน อาการขึ้นกับตาแหน่งของแผ่นเยื่อ
    - - นาเนื้อเยื่อบริเวณใต้แผ่นเยื่อไปเพาะเชื้อ ตรวจ C BC จะตรวจพบเม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติ
    - - กล้ามเนื่อหัวใจอักเสบ
      - เส้นประสาทอักเสบ
    - - Diphtheria antitoxin ให้เร็วที่สุดหลังจากการทดสอบการแพ้แล้ว เพื่อไปล้างทอกซินที่อยู่ในกระแสเลือดและที่จับกังเนื้อเยื่ออย่างหลวม ๆ
      - ยาปฏิชีวนะ ให้ PenicillinPenicillinเพื่อกาจัดเชื้อ ฉีดหรือกิน นาน 7-10 วัน
    - - ฉีดวัคซีนป้องกัน รวมทั้งผู้ที่หายจากโรคแล้วด้วย
      - ดูแลผู้ที่สัมผัสโรค และพาหะนาโรค
      - แยกผู้ป่วยเพื่อป้องกันการแผ่กระจายโรค
  - - - Convalescent stage : อาการไอค่อย ๆ ลดลง
      - Paroxysmal stage : ไออย่างรุนแรง เป็นชุด จนอาเจียน เขียว จนหลอดเลือดฝอยใต้เยื่อบุตาแตก
      - Catarrhal stage : คลายหวัด ไข้ต่า ๆ น้ามูก คัดจมูก จาม
    - - ประคับประครอง : ดื่มน้ามากๆ อาหารอ่อน ยา phenobarbital
      - ให้ ATB
      - ใส่เครื่องช่วยหายใจ
    - - ปอดอักเสบ ปอดแฟบ ชัก ขาดสารอาหาร
  - - - Wound bacterial stage : เชื้อเข้าสู่แผล ยังไม่ผลิตสารพิษ สามารถรักษาหายได้
      - Tetanotoxic stage : สารพิษเข้าสู่กระแสเลือด แต่ ทอกซิน ยังไม่จับกับเซลประสาทส่วนกลาง
      - Neurologic stage : เกิดอาการทางระบบประสาท
      - ขากรรไกรแข็ง อ้าปากไม่ขึ้น (Lock
      - หน้าแสยะยิ้ม rinus sardonicus)
      - กลืนลาบาก คอแข็ง ใบหน้าหดเกร็ง
      - ในทารกแรกเกิด ไม่ดูดนนม ร้องกวน เขียว
    - - ประคับประคอง
      - ล้างแผล ฉีด Antitoxin
  - - - ผู้สัมผัส IsoniacidIsoniacidนาน 3 66เดือน
      - ผู้ติดเชื้อระยะแผง IsoniacidIsoniacidนาน 6-9เดือน
      - ผู้เป็นโรค ให้ยา 4ตัว ใน 2 เดือนแรก Isoniacid,Rifampicin,Pyrazinamide, Streptomycin หรือ Ethambuta
      - 4 เดือนต่อมา ลดเหลือ 2ตัว คือ Isoniacid + Rifampicin
      - ลดเหลือ 2ตัว คือ Isoniacid + Rifampicin
        
        วัณโรคปอด และต่อมน้าเหลือง ให้ต่ออีก 4 เดือน
        
        วัณโรคสมอง, กระดูก ให้ต่ออีก 10 เดือน