Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 การเเปลความหมายของคะเเนน (ความหมายของคะเเนน (ตัวเลขที่ได้จากการว…
บทที่ 6
การเเปลความหมายของคะเเนน
ความหมายของคะเเนน
ตัวเลขที่ได้จากการวัดผลวิธีใดวิธีหนึ่ง หรือหลายๆวิธี
ใช้เเทนปริมาณความมากน้อยของคุรลักษณะหรือพฤติกรรมที่ต้องการวัดความรู้
วัดความคิดเเละทักษะ
คะเเนนสามารถเเทนความสามรถที่เเท้จริงของผู้เรียน
ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้ในการวัด
ความเหมาะสมของเครื่องมือตลอดจนการบริหารการสอบ
ประเภทของคะเเนน
1.คะเเนนดิบ (raw score)
คะเเนนดิบมีความหมายมากขึ้นถ้าทราบว่าผุ้เรียนคนอื่นได้คะเเนนเท่าไร
โดยเอาคะเเนนของเเต่ละคนมาเปรียบเทียบกัน
เป็นคะเเนนที่ไม่สามารถมาความได้เเน่ชัด
คะเเนนดิบไม่สามารถเปรียบเทียบระหว่างวิชาได้
ที่วัดจากเครื่องมือหรือวิธีการใดๆ ที่ได้มาเป็นตัวเลข
คะเเนนดิบไม่สามารถให้ความหมายที่ชัดเจนได้
คะเเนนที่วัดจากผู้เรียนโดยตรง
2.คะเเนนมาตรฐาน (standard score)
จุดเปรียบเทียบคือคะเเนนเฉลี่ยของกลุ่ม
ใช้เป็นหลักในการเปรียบเทียบความสามารถของกลุ่มผู้เรียนได้
กำหนดจุดมาตรฐานที่ใช้เปรียบเทียบความเก่งอ่อนที่มีหน่วยวัดเท่ากัน
จึงมีผลทำให้ตัวเลขนำมาเปรียบเทียบบวกลบกันได้ตามหลักคณิตศาสตร์
ใช้ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของกลุ่มเป็นตัวกำหนด
คะเเนนมาตรฐานทุกชนิดจะมีค่าเฉลี่ยเเละค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานคงที่ไม่ว่าจะเป้นของข้อมูลชุดใด
คะเเนนที่เเปลงรูปจากคะเเนนดิบ ให้ไปสู่เสกลที่เป้นมาตรฐาน
การเเปลงคะเเนนดิบให้เป็น
คะเเนนมาตรฐาน
การเเปลงคะเเนนมาตรฐานในเเนวเส้นตรง
ถ้าคะเเนนดิบมีการกระจายหรือเเจกเเจงอย่างไรคะเเนนมาตรฐานลักษณะนี้ก็เเจกเเจงลักษณะนั้น
เป็นการเเปลงคะเเนนดิบให้เป็นคะเเนนมาตรฐานโดยยังรูปเดิมของโค้งคะเเนนดิบหรือโค้งคะเเนนเเจกเเจงของคะเเนนดิบ
คะเเนนมาตรฐานซี (Z - Score)
มีคะเเนนเฉลี่ยเป็น0 เเละค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็น1 เสมอ
ถ้านำไปเเจกเเจงความถี่เเละเขียนกราฟจะเเจกเเจงเหมือนคะเเนนดิบเสมอ
คะเเนนมาตรฐานซีมีค่าเป็นบวกหรือลบก็ได้
เป็นการหาผลต่างระหว่างคะเเนนดิบของเเต่ละคนกับคะเเนนเฉลี่ยว่า เป็นที่เท่าของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ถ้าค่าเป็นบวกคะเเนนนั้นจะสูงกว่าค่าเฉลี่ย ถ้าค่าเป็นลบคะเเนนนั้นจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
คะเเนนมาตรฐานทีเชิงเส้น (T - Score)
มีคะเเนนเฉลี่ยเป็น 50 เเละค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็น 10 เสมอ
ถ้านำไปเเจกเเจงความถี่เเละเขียนกราฟจะมีการเเจกเเจงเหมือนคะเเนนดิบเสมอ
โดยนำคะเเนนมาตรฐานซีคูณด้วย 10 เเล้วนำมาบวกด้วย 50
เป็นคะเเนนที่ช่วยให้สเกลของคะเเนนมาตรฐานซีมีความละเอียดมากขึ้น
ใช้ในการตัดเกรด
ใช้เปรียบเทียบความสามารถของผู้เรียน
คะเเนนมาตรฐานเก้า (Stanine Scale)
สร้างตารางเเจกเเจงความถี่ของคะเเนนชุดนั้น
นำคะเเนนของนักเรียนเเต่ละคนมาลงรอยคะเนนน
เป็นคะเเนนที่ดัดเเปลงมาจากคะเเนนมาตรฐานซีที่มีการกระจายเป้นดค้งปกติ
หาค่าความถี่ (f) ของเเต่ละคะเเนน เเละหาความถี่สะสม(cf)
หาตำเเหน่ง(PR)โดยใช้สูตร (cf+1/2f) 100/N
การตัดสินผลการเรียน