ANC
ตรวจร่างกาย

data

หญิงตั้งครรภ์อายุ 37 ปี

GA 28 Wks G4p2-0-1-2

LMP 28 สิงหาคม 2562

EDC 3 มิถุนายน 2563

ประวัติการเจ็บป่วย : ปฏิเสธ

ประวัติการผ่าตัด :
ปี 2554 ผ่าตัดคลอด
ปี 2559 ผ่าตัดคลอด

ประวัติการแพ้ยา : ปฏิเสธ

ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว : ปฏิเสธ

ได้รับวัคซีนบาดทะยักครบ ปี 2556

LAB ที่ส่งตรวจ

คัดกรองเบาหวาน

BS 50 gm ได้ 168 mg/dL (ผิดปกติ)

OGTT 83-145-73-54 ปกติ

ไวรัสตับอักเสบบี HBsAg = Negative

ตรวจซิฟิลิส VDRL = Negative

การตรวจปัสสาวะ
Albumin = Negative
Sugar = Negative

ตรวจเลือด Hb = 13.5 Hct = 38.3 (ปกติ)

MCV = 84.1 (ปกติ)

Hb E screening = Negative

ประวัติการตั้งครรภ์

ปี 2554 ผ่าตัดคลอดบุตร เพศหญิง Full Term

ปี 2559ผ่าตัดคลอดบุตร เพศชาย Full Term

ปี 2544 Spontaneous Abortion ไม่ขูดมดลูก

การตรวจร่างกาย

น้ำหนักมารดาก่อนตั้งครรภ์ 58 กิโลกรัม
ส่วนสูง 156 เซนติเมตร
BMI 23.58 kg/m2

BP = 110/62 mmHg Pulse = 86 ครั้ง/นาที

-Heart normal s1s2 no murmur - Lung clear and equal breath sound no adventitous sound

ตรวจร่างกาย Head to toe : ปกติ

การตรวจเต้านม หัวนม ลานนม : ปกติ

การดู ขนาดหน้าท้องกับอายุครรภ์สมมาตรกันดี
วันขนาดหน้าท้องได้ 28 เซนติเมตร
มี striae gravidalum สีเงิน

การคลำ : 2/4 > สะดือ vertex HF ท่า LOP

การฟัง FHS ได้ 156 ครั้ง/นาที

Notify

Elderly Pregnancy

Elderly Pregnancy

Problem List

พยาธิสภาพของโรค Down Syndrom

ความหมาย

อาการปัญญาอ่อนที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21

การตรวจคัดกรอง

ไตรมาสที่ 1 : ตรวจคัดกรองเมื่ออายุครรภ์ระหว่าง 11-13 สัปดาห์

ไตรมาสที่ 2 : เมื่ออายุครรภ์ 14 สัปดาห์ขึ้นไป

การตรวจไตรมาสที่ 1 ร่วมกับ ไตรมาสที่ 2

การตรวจ Fetal cell-free DNA ในพลาสมาของสตรีมีครรภ์

ใช้ผลตรวจไตรมาสแรกและสองมาแปลผลรวมกัน มีประสิทธิภาพในการตรวจสูงขึ้น มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ยุ่งยากและหญิงตั้งครรภ์ต้องเจาะเลือดสองครั้ง ผลตรวจออกช่วงไตรมาสที่สอง จึงไม่นิยม

วิเคราะห์ Cell-free DNA ในพลาสมาของหญิงตั้งครรภ์ หากพบว่าทารกเป็น Trisomy 21 จะมีอัตราส่วนของ DNA Fragment มากกว่าปกติ

ทำได้ช่วง 12 -24 สัปดาห์

มีอัตราตรวจพบ ร้อยละ 98.6-100

วิธีการตรวจ

Ultrasound

ตรวจสารเคมีในเลือด

สามารถทำได้ช่วงระหว่างอายุ 15-22 สัปดาห์

แบ่งกลุ่มอาการไว้สองกลุ่ม

โครงสร้างความพิการชัดเจน

รูรั่วกระบังลม (Diaphragmatic hernia)

สมองส่วนหน้าไม่แยกจากกัน (holoprosencephaly)

ลำไส้เล็กส่วนต้นตีบตัน(esophageal atresia)

sonographic markers หรือ Soft signs

กระโหลกศีรษะแบน (brachycephaly)

นิ้วโก่งเข้าด้านใน (clinodactyly)

ผนังหลังคอหนา

ไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญสามารถทำได้แม้ฝากครรภ์ล่าช้า พ้นไตรมาสแรกไปแล้ว

การตรวจ triple/quadruple screening

inhibin A สูง

alpha-fetoprotien (AFP) ต่ำ

human chorionic ganadotropin (free-or total beta hCG)สูง

unconjugated estriol (UE3) ต่ำ

การตรวจทางชีวเคมี

การวัด nuchal translucency

ทารกดาวน์จะมี NT หนากว่าปกติ

การตรวจ PAPP-A และ Free beta - hCG

PAPP-A ต่ำ

Free beta - hCG สูง

ทำในช่วง 10-13 สัปดาห์

ทำในช่วง 11-13 สัปดาห์

การแปรผล

ผลการตรวจเป็นบวก

ผลการตรวจเป็นลบ

ความเสี่ยงการเกิดสูง มารดากลุ่มนี้จะได้รับการให้คำปรึกษา และให้ทางเลือกในการตรวจโครโมโซมทารก

ความเสี่ยงต่ำ ไม่คุ้มค่าที่จะตรวจโครโมโซมทารก

การวินิจฉัย

การตรวจโครโมโซมจากรกเด็กCVS (Chorionic villous sampling)

การเจาะเลือดจากสายสะดือทารก

การเจาะน้ำคร่ำ

ต้องมีอายุครรภ์ 16-18สัปดาห์

มีโอกาสทำให้แท้งบุตรน้อย

เมื่อเทียบกับการตรวจ amniocentesis การตรวจนี้จะตรวจได้เร็วกว่า

อายุครรภ์ประมาณ 17 สัปดาห์


LATE ANC

อาการไม่สุขสบาย ไตรมาส 2

Previous C/S

น้ำหนักใน 1 เดือนขึ้นมากกว่า 3 กิโล

การฝากครรภ์ครั้งแรกควรตรวจภายใน 12 สัปดาห์หรือรีบมาพบแพทย์ทันทีหากสงสัยว่าตั้งครรภ์ ส่วนการฝากครรภ์ในครั้งถัดไปนั้นแพทย์จะนัดให้มาตามอายุครรภ์ข้างต้น คุณแม่อาจมามาก่อนหรือหลังนัดได้ บวกลบไม่เกิน 2 สัปดาห์

การฝากครรภ์ช้าไปนั้นมีความเสี่ยงและอันตรายมาก การฝากครรภ์ช้าอาจทำให้เราไม่ทราบถึงความผิดปกติของลูกน้อยในครรภ์ หากเกิดความผิดปกติอาจไม่ได้รับรักษาทันท่วงที

มารดามาฝากครรภ์ครั้งแรกตอน GA 22 Wks

ไม่สามารถเจาะถุงน้ำคร่ำตรวจกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรมได้

การตรวจคัดกรองทาลัสซีเมีย

การคัดกรองหาภาวะติดเชื้อในหญิงตั้งครรภ์

การตรวจคัดกรองเบาหวาน

ไอโอดีนมีผลต่อพัฒนาการทางด้านสมองของทารกในครรภ์ช่วงชีวิตที่กำลังมีการพัฒนาของสมองเป็นช่วงที่วิกฤติที่สุด คือเมื่อตัวอ่อนอายุ8 สัปดาห์จนถึงช่วงอายุ3ปีหลังคลอดการพัฒนาและเจริญเติบโตของสมองของตัวอ่อนในครรภ์และทารกแรกเกิดจำเป็นต้องรับไทรอยด์ฮอร์โมนที่เพียงพอจากมารดาไอโอดีนที่แม่ได้รับจากอาหารจะถูกนำไปสร้างไทรอยด์ฮอร์โมนและไทรอยด์ฮอร์โมนจากแม่จะถูกส่งไปยังตัวอ่อนที่อยู่ในครรภ์ โดยผ่านทางplacent

"ทารกพิการแต่กำเนิด"เพราะแม่ท้องขาด"โฟเลต"เป็นสารอาหารที่สำคัญในการสร้างเซลล์ต้นกำเนิดของทารกนับตั้งแต่ช่วงเริ่มปฏิสนธิจนกลายเป็นตัวอ่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง28วันแรกหลังจากปฏิสนธิที่เป็นช่วงของการสร้างระบบประสาททั้งสมองและกระดูกสันหลังรวมถึงระบบอวัยวะทุกส่วนของร่างกายการรับประทานโฟเลตที่ถูกต้องจะต้องรับประmานอย่างน้อย1ถึง2เดือนก่อนการตั้งครรภ์จึงจะสามารถป้องกันการพิการแต่กำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดและควรรับประทานโฟเลตขนาด400ไมโครกรัมหรือวันละ1เม็ดต่อเนื่องกันเพื่อให้มีระดับโฟเลตภายในร่างกายอยู่ในระดับที่พอเหมาะต่อการเติบโตของตัวอ่อนรวมถึงรับประทานต่อเนื่องไปถึงช่วง3เดือนแรกของการตั้งครรภ์ความพิการแต่กำเนิดมีทั้งแบบที่ป้องกันได้และป้องกันไม่ได้ทั้งนี้การป้vงกันความพิการแต่กำหนดควรทำตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์หรือทำโดยเร็วที่สุดเมื่อตั้งครรภ์ก่อนอายุครรภ์12สัปดาห์ความพิการที่สามารถป้องกันได้

BMI = 23.58 kg/m2

น้ำหนักในไตรมาสที่ 2 สามารถขึ้นได้ สัปดาห์ 0.44 กิโลกรัม

น้ำหนักตลอดารตั้งครรภ์สามารถเพิ่มขึ้นได้ 11.5-16 กิโลกรัม

กิจกรรมการพยาบาล

ปริมาณอาหารที่แนะนำให้บริโภคใน 1 วัน

ข้าว แป้ง 9 ทัพพี

ผัก 6 ทัพพี

ผลไม้ 6 ส่วน

เนื้อสัตว์ 12 ช้อนโต๊ะ

นม 3 แก้ว

น้ำมัน กะทิ <= 6 ช้อนชา

น้ำตาล <= 5 ช้อนชา

กินอาหารให้ครบ 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มข้าวและธัญพืช กลุ่มผัก กลุ่มผลไม้ กลุ่มเนื้อสัตว์ และกลุ่มนม ในปริมาณที่เหมาะสมและควรกินให้หลากหลาย ตามที่แนะนำให้บริโภคใน 1 วัน โดยคำนึงถึงน้ำหนักเพื่อให้ได้พลังงานและสารอาหารเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ ซึ่งจะส่งผลให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตดีตัวของแต่ละบุคคล

กินอาหารระหว่างมื้อ ได้แก่ อาหารว่างเช้าและบ่าย เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์มีความต้องการพลังงานและสารอาหารเพิ่มขึ้น การบริโภคอาหาร 3 มื้อหลัก อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเลือกอาหารว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น นมจืด ผลไม้ ขนมไทยที่มีรสหวานเล็กน้อย เช่น เต้าส่วน กล้วยบวชชี ฟักทองแกงบวด

ควรกินอาหารที่เป็นแหล่งธาตุเหล็ก สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เช่น ตับ เลือด เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดง และควรกินอาหารที่มีวิตามินซีสูงร่วมด้วย เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม มะปรางสุก มะละกอสุก ส้ม เป็นต้น เพื่อช่วยในการดูดซึมเหล็ก

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

อาหารสุกๆดิบๆ

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

บุหรี่

คาเฟอีน

ควบคุมปริมาณอาหารแต่ละมื้อให้เท่าๆกัน

มารดามีอาการท้องอืด

กิจกรรมการพยาบาล

ทานอาหารที่ย่อยง่าย อิ่มนาน เช่นขนมปังกรอบ งดอาหารมันๆ หรืออาหารที่ทำให้เกิดแก๊สได้ง่าย

ทานอาหารครั้งละน้อยๆแต่บ่อยมื้อ

มื้อเย็นควรรับประทานให้เร็วขึ้น โดยกะเวลาก่อนที่จะนอนราว ๆ 4 – 5 ชั่วโมง

เสี่ยงต่อการแตกของมดลูกหากมีการคลอดเอง

สังเกตอาการหากเจ็บครรภ์ต้องได้รับการผ่าตัดทันที

Elderly Pregnancy

ความหมาย

สตรีตั้งครรภ์ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปในวันกำหนดคลอด

ภาวะแทรกซ้อน

การแท้งบุตร

ectopic pregnancy

stillbirth

ทารกมีโครโมโซมผิดปกติ

การตั้งครรภ์แฝด

pretern

low birth weight

hypertention

GDM

การดูแลรักษา

ระยะก่อนตั้งครรภ์

ให้คำปรึกษาแก่สตรีสตรีให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงระหว่างการตั้งครรภ์

การเตรียมพร้อมตรวจร่างกายก่อนตั้งครรภ์

ระยะตั้งครรภ์

ไตรมาสแรก

ไตรมาสที่ 2 ที่ 3

ซักประวัติตรวจร่างการอย่างละเอียด

หากมีโรคประจำตัวควรประเมินภาวะของโรค การควบคุมโรค การดำเนินโรค และภาวะแทรกซ้อน

ตรวจอัลตราซาวนด์เพื่อยืนยันอายุครรภ์และตำแหน่งของการตั้งครรภ์

แนะนำให้คำปรึกษาทางพันธุกรรม

ตรวจ anomaly scan

แนะนำให้เจาะถุงน้ำคร่ำเพื่อตรวจโครโมโซม

เฝ้าระวังภาวะทารกโตช้าในครรภ์

เฝ้าระวังภาวะคลอดก่อนกำหนด

ผลข้างเคียงจากการเจาะน้ำคร่ำ

เสี่ยงแท้งประมาณร้อยละ 5 (1ใน 200)จากการติดเชื้อของถุงน้ำคร่ำ

มีเลือดออกทางช่องคลอด

น้ำเดินก่อนกำหนด

การดูแลหลังเจาะน้ำคร่ำ

งดทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากในช่วง 24 ชั่วโมงหลังตรวจ

งดมีเพศสัมพันธ์ใน24 ชั่วโมงหลังตรวจ

อาการผิดปกติที่ต้องมาพบแพทย์ทันที

มีไข้

ปวดท้องมาก มีน้ำเดิน

มีเลือดออกทางช่องคลอด

ทำในช่วงอายุครรภ์ 11-14 สัปดาห์

ภาวะเสี่ยงจากการทำ CVS

ภาวะเสี่ยงแท้ง 1-2 %

ติดเชื้อ

การดูแลหลังทำ CVS

หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ออกแรงมาก

อาการที่ต้องไปพบแพทย์ทันที

มีอุณหภูมิร่างกายเกิน 38 องศา

มีเลือดออกจากช่องคลอด

มดลูกหดรัดตัว

ภาวะแทรกซ้อน

แท้งร้อยละ 1.4

ก้อนเลือดคั่งบริเวณสายสะดือ

เลือดออกจากทารกไปมารดา

หัวใจทารกเต้นช้าลง