Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้พื้นฐานของการวิจัย (Foundation of Research) (ธรรมชาติของการวิจัย,…
ความรู้พื้นฐานของการวิจัย
(Foundation of Research)
การจัดกระทำข้อมูล
1) Input
เป็นการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์
2) Processing
เป็นขั้นตอนของการจัดแบ่งประเภทของข้อมูล
3) Output
เป็นขั้นตอนที่นำผลจากการขั้นตอนที่ได้จากขั้น Processingมาเขียนเป็นรายงาน
4) การสรุปผลการวิจัยและเขียนรายงาน
1.ความหมายของการวิจัย
(Meaning of Research)
เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ที่มีระบบ มีขั้นตอนที่ชัดเจนปราศจากอคติส่วนตัว สามารถตรวจสอบได้ที่ผู้วิจัยนำมาใช้ศึกษาค้นคว้าข้อเท็จจริงเพื่อนำไปใช้อธิบายปรากฏการณ์ทางสังคมหรือพัฒนาเป็นกฎทฤษฏี
จุดมุ่งหมายของการวิจัย
2.1 มุ่งหาคำตอบเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหา
2.2 การวิจัยเป็นการสรุปผลหลักเกณฑ์และทฤษฏีที่
ใช้ในการคาดคะเนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
2.3 การวิจัยเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลหรือ
ปรากฏการณ์ที่สังเกตได้มาใช้ในการสรุปผล
แนวคิดพื้นฐานของการวิจัย
3.1 กฎเหตุและผลของธรรมชาติ
(Deterministic Law of Nature)
เป็นแนวคิดที่ระบุว่าปรากฏการณ์ใดๆที่เกิดขึ้นนั้นจะสามารถแสวงหาสาเหตุที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์นั้นได้เสมอ ๆ
3.2 กฎความเป็นระบบของธรรมชาติ
(Systematic Law of Nature)
เป็นแนวคิดที่ระบุว่าปรากฏการณ์ใดๆที่เกิดขึ้นตามกฎของเหตุและผลของธรรมชาติจะมีรูปแบบของความสัมพันธ์ของตัวแปรที่ค่อนข้างจะชัดเจน
3.3 กฎความสัมพันธ์ของธรรมชาติ
(Associative Law of Nature)
เป็นแนวคิดที่ระบุว่าในการเกิดปรากฏการณ์ใดๆที่แตกต่างกันนั้นจะมีความมากน้อยของตัวแปรที่เป็นสาเหตุและตัวแปรผลที่แตกต่างกัน
3.4 กฎองค์ประกอบหลักของธรรมชาติ
(Principle Component of Nature)
เป็นแนวคิดที่ระบุว่าตัวแปรสาเหตุและตัวแปรผลที่เกิดขึ้นนั้นๆ ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์เชิงเดี่ยว แต่จะมีตัวแปรอื่นๆที่มักจะมาเกี่ยวข้องอยู่เสมอๆ
3.5 กฎความน่าจะเป็นของธรรมชาติ
(Probabilistic Law of Nature)
เป็นแนวคิดที่ระบุว่าในปรากฏการณ์ใดๆนั้น ความรู้ความจริง
ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจะเป็นผลลัพธ์ของปรากฏการณ์ที่มีความน่าจะเป็นในการเกิดขึ้นที่ค่อนข้างสูง
คุณลักษณะของการวิจัย
การวิจัย เป็นวิธีการๆหนึ่งที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ความจริงด้วยวิธีการทาวิทยาศาสตร์ที่มีระบบและขั้นตอนชัดเจนและมีการกำหนดจุดมุ่งหมายของการวิจัยในแต่ละครั้งอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไร
ธรรมชาติของการวิจัย
5.1 การวิจัยเป็นกระบวนการเชิงประจักษ์
5.2 การวิจัยเป็นการดำเนินการที่เป็นระบบ
5.3 การวิจัยมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน
5.4 การวิจัยมีความเที่ยงตรง
5.5 การวิจัยมีความเชื่อมั่น
5.6 การวิจัยมีเหตุผล
5.7 การวิจัยเป็นการแก้ปัญหา
5.8 การวิจัยต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่
5.9 การวิจัยมีวิธีการที่หลากหลาย
5.10 การวิจัยต้องใช้ศักยภาพของผู้วิจัย
ประเภทของการวิจัย
6.1 จำแนกตามประโยชน์ที่ได้รับหรือเหตุผลในการวิจัย
6.2 จำแนกตามลักษณะ(ความลึก/ความกว้าง)ของข้อมูล
6.3 จำแนกตามระเบียบวิธีวิจัย
6.4 จำแนกตามลักษณะของวิชาหรือศาสตร์
6.5 จำแนกตามเวลาที่ใช้ในการทำวิจัย
6.6 จำแนกประเภทการวิจัยตามเป้าหมายหลักของการวิจัย
6.7 จำแนกตามการจัดกระทำ
ขั้นตอนในการวิจัย
1) เลือกหัวข้อปัญหา
2) การกำหนดขอบเขตของปัญหา
3) การศึกษาเอกสารและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
4) การกำหนดสมมุติฐาน
5) การเขียนเค้าโครงการวิจัย
6) การสร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูล
7) ขั้นดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล
ตัวแปรและสมมติฐาน
ความหมายของตัวแปร
คุณสมบัติหรือคุณลักษณะหรือปรากฏการณ์ของสิ่งต่างๆที่ผู้วิจัยต้องการจะศึกษาหาความจริง ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ได
ลักษณะและชนิดของตัวแปร
2.1 ลักษณะของตัวแปร
1) ตัวแปรรูปธรรม
2) ตัวแปรนามธรรม
2.2 ชนิดของตัวแปร
1) ตัวแปรอิสระ
2) ตัวแปรตาม
การนิยามตัวแปรและการหาข้อมูลหรือข้อเท็จจริง
สมมติฐาน
ประเภทของสมมติฐาน
แหล่งที่มาของสมมติฐาน
ลักษณะของสมมติฐานที่ดี
การเขียนคำถามวิจัย
(Research Questions)
ประเด็นคำถามเชิงพรรณนา
ประเด็นคำถามเชิงความสัมพันธ์
ประเด็นคำถามเชิงเปรียบเทียบ