Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ประวัติความเป็นมาของการพยาบาลในยุคต่างๆและพัฒนาการทางการพยาบาล 14693294…

- - - - จากศิลาจารึกหลักที่หนึ่งและไตรภูมิพระร่วงพบการเจ็บป่วยคือปวดท้องท้องอืด อาการไข้ ปวดศีรษะและการคลอดบุตร
      - พิธีเสียกบาล หินบด
        
        มีกากใช้ยาสมุนไพร ยาพื้นบ้าน
        
        การรักษาตามความเชื่อ ได้แก่ โชคลาง และไสยศาสตร์
    - - สมัยพระนารายณ์มหาราช มีการติดต่อกับชาวต่างชาติ ได้แก่ ฝรั่งเศส จีน อิเดีย
      - รักษาทางตะวันตกในพระราชวงศ์
      - ชาวบ้านใช้พิธีทางไสยศาสตร์และสมุนไพร
    - - พ.ศ.2325-2367
        
        สิสถาปนากรุงเทพเป็นราชธานีธานีการรักษายังเป็นแบบโบราณ
        
        ร.2 โปรดเก้าโปรดเกล้าให้สืบเสาะคำภีร์แพทย์ จดตำราจารึกเป็นตำรายาหมอนวดไว้บนแผ่นหินฟังไว้ตามเสาระเบียงพระวิหารวัดพระพุทธไสยาสน์
      - พ.ศ.2367-2394
        
        มีนักสอนศาสนาอเมริกันและคณะเพรสไบทีเรียนเข้ามาเผยแพร่ศาสนาและนำความรู้ด้านการแพทย์
      - พ.ศ.2394-2411
        
        ร.4 มีสถานที่ตรวจรักษาหลายแห่งทำการรักษาโดยคณะมิชชั่นนารี
      - พ.ศ.2411-2454
        
        ร.5 อหิวาตกโรคระบาดจึงโปรดเกล้าตั้งโรงพยาบาลและล้มเลิกไปเมื่อหมดระบาด
      - พ.ศ.2431
        
        โปรดเกล้าให้ตั้งโรงพยาบาลถาวรที่ตำบลวังหลังพระราชทานนามว่าโรงพยาบาลศิริราช
      - สงครามโลกครั้งที่2
        
        พ.ศ.2482-2486
        
        การพยาบาลพัฒนาก้าวหน้าของพยาบาลชะงัก พยาบาลทำงานหนักไม่มีเวลาในการพัฒนาวิชาชีพ
        
        นับจาก พ.ศ.2486
        
        มีการพัฒนาการการพยาบาลมากขึ้น มีการช่วยเหลือจากต่างประเทศในรูป
      - พ.ศ.2467
        
        สร้างโรงพยาบาลแมคคอมมิค เชียงใหม่
      - พ.ศ.2449
        
        สร้างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
      - พ.ศ.2439
        
        สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถทรงโปรดเกล้าให้กระทรวงธรรมการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลขึ้นในโรงพยาบาลศิริราช
      - พ.ศ.2436
        
        เกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสเรื่องแดนฝั่งโขงเกิด สภาอุณาโลมแดง
  - - - ผู้เป็นแพทย์จะต้องตัดผมและตัดเล็บให้สั้นส่วนเสื้อขาวและต้องอาบน้ำทุกวันและต้องไม่นำสิ่งที่การทราบมาจากผู้ป่วยไปเผยแพร่
      - เผายาที่มีกินหอมหวานในห้องผ่าตัดเพื่ออะไรปีศาจไม่ให้เข้าใกล้แผล
      - คัมภีร์พระเวทกล่าวถึงการรักษาทางอายุรศาสตร์ ศัลยศาสตร์ การพันผ้า
        การใช้ยาพิษและวิธีแก้ ทิศโรคทางประสาทโรคจิตโรคเด็กโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์การอนามัยตลอดทั้งการป้องกันโรค
    - - ชาวโรมันชาวโรมันนำวิทยาการต่างๆจากรีมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยใช้หมอพระและการรักษาตามแนวทางของ Hippocrates
    - - ใช้พิธีกำประกอบเวทมนต์ ใช้พิธีบูชายัญให้วิญญาณร้ายออกจากร่างมนุษย์ไปสู่สัตว์ต้องฆ่าสัตว์จึงจะหายป่วย
      - นำผู้ป่วยมาวางไว้ที่ชุมชน เมื่อคนผ่านไปมาเห็นอาการถ้าตนเองเคยรักษาหายก็จะแนะนำช่วยรักษา
    - - พระมีบทบาทในการทำพิธีรักษา
      - มีศัลยแพทย์ชื่อ IMPOTEPเป็นผู้เรียนรู้กายวิภาคโดยการชำแหละร่างกายเรียนรู้ว่าสมองเป็นอวัยวะมีหน้าที่บังคับสร้างกาย IMPOTEPรู้จักวิธีเย็บแผล ประดิษฐ์เฝือก ผ้าพัน
      - มีความเชื่อว่าวิญญาณจะกลับมาเข้าทางเดิมได้ถ้าร่างกายคนตายไม่เน่าเปลือยจึงทำให้ชาวอียิปต์ใช้วิธีการ อาบน้ำศพ พันผ้า ห่อศพเก็บไว้ในพีระมิด
    - - เชื่อว่าเทพเจ้าเป็นผู้บันดาลให้เกิดโรคและเป็นผู้รักษาโรคการรักษาทำโดยพระใช้วิธีพระสวดมนต์ภาวนะ บีบนวด
      - Hippocrates เป็นผู้ริเริ่มการแพทย์แผนใหม่
        
        เชื่อว่าโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้เกิดจากผีปีศาจหรือโชคชะตาแต่เกิดจากการละเมิดกฏธรรมชาติ
        
        สอนให้ใช้วิธีสังเกตอาการผู้ป่วยอย่างละเอียดการแสดงสีหน้าของผู้ป่วยการหายใจและอื่นๆ
      - อลิซโตเติ้ลและนักปราชญ์ร่วมสมัยสร้างระบบที่ศึกษาจากการปฎิบัติ โดยใช้พื้นฐานการเรียนรู้จากการช้ำและสัตว์
      - ด้านการพยาบาลพยาบาลจะดูแลผู้ป่วยโดยการเช็ดตัวจัดหาเครื่องดื่มจัดหาอาหารและอาบน้ำอุ่นให้ผู้ป่วยซึ่งจะทำงานเหล่านี้ตามคำสั่งแพทย์
    - - การวินิจฉัย มี 4 ขั้นตอน
        
        การดู
        
        การฟัง
        
        การถาม
        
        การสัมผัส
      - ค้นคว้าพืชพันธุ์ไม้สำหรับทำยา
      - ชำนาญการจับชีพจรเพื่อใช้ในการวินิจฉัยโรค
    - - จากการอพยพประชาชนชาวยุโรปทำให้มีผู้คนหลากหลาย ส่งผลต่อการพัฒนาการพยาบาลที่เกิดความก้าวหน้าโดยเฉพาะการศึกษา
- - - - มีทักษะความสามารถ ความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติการพยาบาลเป็นอย่างดี เน้นการป้องกัน และ ส่งเสริม สุขภาพ การดูแลสุขภาพชุมชน
      - มีความสามารถในการให้บริการพยาบาลโดยใช้แนวคิด ทฤษฎีการพยาบาล กระบวนการพยาบาล และศาสตร์สาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง
    - - มีความสามารถในการคิด ใช้วิจารณญาณและการตัดสินใจในการแก้ปัญหาสุขภาพ
      - มีความคิดริเริ่มปรับปรุงงานให้ทันต่อความก้าวหน้าของวิทยาการและเทคโนโลยี
      - มีความคิด ความสามารถเป็นสากล หรือในเชิงนานาชาติ
      - สามารถคัดกรอง แปล วิเคราะห์ และเลือกใช้ข้อมูล
      - มีทักษะ ความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ตลอดชีวิตมีความรอบรู้ในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบการบริการสุขภาพ และศาสตร์อื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ความรู้ด้านประชากรศาสตร์ เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข การตลาด ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ชาติพันธุ์ฯลฯ
    - - มีความสามารถในการเป็นผู้บริหารและการจัดการที่ดีมีความสามารถในการประกันการดูแล คุณภาพของการบริการ
    - - มีสมรรถนะให้คำปรึกษาด้านจริยธรรมที่เกี่ยวกับสุขภาพ
      - มีความปรารถนา และพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ประชาชน
      - มีค่านิยมร่วมในขนมธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของสังคม
      - มีคุณธรรม จริยธรรมในด้านส่วนตัว และหน้าที่การงาน
      - มีความจงรักภักดีต่อหน่วยงาน และองค์การ
      - ตระหนักและคำนึงถึงคุณค่าของวิชาชีพและสิทธิมนุษยชนของผู้รับบริการ
      - ใฝ่ดี ธำรงรักษาเอกลักษณ์ไทยที่พึงประสงค์
    - - มีบุคลิกภาพที่เหมาะสมด้านการแต่งกาย อารมณ์และจิตใจ มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขันมีความสุข