Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ประวัติความเป็นมาของการพยาบาลในยุคต่างๆ และพัฒนาการทางพยาบาล…

- - - - พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลัานภาลัย รวบรวมคัมภีร์แพทย์ ตำรายา สรรพคุณยาชนิดต่างๆไว้ ณ โรงพระโอสถเพื่อนประโยช์ของประชาชน
    - - พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จารึกตำราไว้ในแผ่นศิลา เรื่องสมุนไพรที่ใช้ในการปรุงยาที่หาได้ยากมาปลูกไว้ เพื่อให้ราษฏรได้ศึกษาและนำไปใช้ในการรักษา ต่อมาการแพทย์ตะวันตกเข้ามาให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วย และป้องกันโรคติดต่อร้ายแรง โดยนายแพทย์แดน บีซ บรัดเลย์ ชาวบ้านเรียกกันว่า “หมอบลัดเล’’
    - - วางรากฐานและฟื้นฟูการสาธารณสุขกรมพยาบาล เป็นสถาบันแรกที่เป็นต้นกำเนิดของกระทรวงสาธารณสุขในปัจจุบัน ได้แก่ กรมพยาบาล สถาปนาขึ้นในวันที่ 25 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2431 โดยมีพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีคนแรก
    - - หลังสงครามสงบ งานด้านสาธารณสุขก็ปรับปรุงด้านการรักษา การป้องกัน การดูแลเฉพาะโรค
        มีการสร้างโรงพยาบาล สถานีอนามัยมากขึ้น พยาบาลได้รับการช่วยเหลือจากองค์กร WHO UNICEF
    - - กรมสาธารณสุข จัดตั้งกรมสาธารณสุขขึ้นในกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 27 พศฤจิกายน พ.ศ. 2461
        โดยมีพระเจ้าน้องนาเธอ กรมหมื่นชัยนาทนเรนทร เป็นอธิบดีคนแรก
    - - พยาบาลมีการพัฒนาไปอย่างมาก
- - - - มีการสร้างโรงพยาบาล18แห่ง
        พยาบาลต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ รู้จักผสมยา
        ชำนาญในการอาบน้ำคนไข้ นวดและอุ้มคนไข้ได้ รู้จักปูที่นอนและรักษาให้สะอาด
    - - มีการใช้ยาสมุนไพรและเกลือแร่ ใช้หลักการดู ฟัง ถาม จับชีพจร
    - - ริเริ่มการแพทย์แผนใหม่ โรคศิลปะเกี่ยวกับการแพทย์ 3 ประการ คือ
        1) โรคภัยไข้เจ็บไม่ได้เกิดจากภูตผีปีศาจหรือโชคชะตา
        2) สนับสนุนให้ใช้วิธีการสังเกตผู้ป่วย
        3) พัฒนาการจดประวัติ การตรวจร่างกาย การประคบร้อน
  - - - มีบุรุษเข้ามาทำหน้าที่พยาบาล
        การปฏิบัติงานใช้ระเบียบวินัยชองทหาร พยาบาลจึงปฏิบัติงานตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
    - - การเมืองแทรกแซงการบริหารโรงพยาบาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไม่ได้มีจิตใจด้านการบุญการกุศล
        มีการฉ้อโกงเกิดขึ้น การปฏิบัติงานของพยาบาล แพทย์มักจะทำเองส่วนพยาบาลดูแลคนป่วยในเรื่องส่วนตัว เช่น การอาบน้ำ สวนอุจจาระ ต่อมาการพยาบาลไม่เพียงพอ ผู้บริหารจึงนำนักโทษหญิงจากเรือนจำมาเป็นพยาบาล ทำให้สถานภาพของงานบริการพยาบาลต่ำลง การพยาบาลในยุคนี้จึงถูกเรียกว่า “ยุคมืด”
  - - - ค.ศ. 1853 มิสฟลอเรนซ์ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ดูแลสถานที่เจ็บป่วยของสุภาพสตรี
        
        ค.ศ. 1856 โรงพยาบาล King’s College ขอให้มิสฟลอเรนซ์เป็นผู้อำนวยการ
        ยังไม่ทันได้ประจำทำงานก็เกิดสงครามไครเมียร์ขึ้นก่อน ช่วงสงครามไครเมีย
        กองทัพอังกฤษมีบุรุษพยาบาลเป็นผู้ดูแลทหารที่บาดเจ็บ
        แต่บุรุษพยาบาลเหล่านั้นไม่ได้รับการฝึกหัดสำหรับการดูแลทหารที่บาดเจ็บจากสงคราม
        มิสฟลอเรนซ์พร้อมสตรีอาสาสมัคร38คนจึงขอเข้าช่วยเหลือที่โรงพยาบาลแบแรท
        
        ค.ศ. 1855 มิสฟลอเรนซ์และแม่ชีคาทอลิก 3 คนเดินทางไปสถานพยาบาลในเมืองมาลาคาวา
        ปรับปรุงการพยาบาลให้ดีขึ้น และกลับมาช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บที่โรงพยาบาลสคูตารี่ จนถึง ค.ศ.1856
        ต่อมามิสฟลอเรนซ์ก็กลับประเทศอังกฤษหลังสงครามไครเมียร์จบลง
        จากความรู้ ความสามารถ และความเสียสละโดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยากของมิสฟลอเรนซ์
        ลองเฟลโล ได้ประพันธ์โคลง “ซานตาฟิโลมินา” สรรเสริญความดีงามของมิสฟลอเรนซ์ว่าเป็น
        ”สุภาพสตรีแห่งดวงประทีป” (The Lady of the Lamp)
        
        ค.ศ. 1860 มิสฟลอเรนซ์ได้เลือกโรงพยาบาลเซนต์โทมัสเป็นโรงเรียนพยาบาลไนติงเกล
        โดยมีมิสวอร์ดโรพเปอร์เป็นผู้บริหารงานการสอนพยาบาล
        โรงเรียนพยาบาลไนติงเกลได้ผลิตพยาบาลแล้วไปก่อตั้งโรงเรียนพยาบาลในหลายๆประเทศ