Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีการเรียนรู้
การประยุกต์ใช้ในการสอนซ่อมเสริมวิชาภาษาไทย child_care (๑…
ทฤษฎีการเรียนรู้
การประยุกต์ใช้ในการสอนซ่อมเสริมวิชาภาษาไทย
๑. ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม (Behaviorism)
-
:pencil2: ๑.๑ การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิก (Ciassical Conditioning) ของ อิวาล พาฟลอฟ (Lvan Pavloy)
พาฟลอฟได้ทำการทดลองให้สุนัขน้ำลายไหลด้วยเสียงกระดิ่ง โดยธรรมชาติแล้วสุนัขจะไม่มีน้ำลายไหลเมื่อได้ยินเสียง
กระดิ่ง แต่พาฟลอฟได้นำเอาผงเนื้อบดมาเป็นสิ่งเร้าตามธรรมชาติ
ทำให้สุนัขน้ำลายไหลได้ เขาใช้สิ่งเร้าทั้งคู่หลาย ๆ ครั้ง แล้วตัดสิ่งเร้าตามธรรมชาติออกเหลือแต่กระดิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งเร้าที่วางเงื้่อนไข
ปรากฏว่าสุนัขน้ำลายไหลเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งอย่างเดียว จึงสรุปได้ว่า การเรียนรู้สิ่งมีชิวิตเกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข (Conditioning Stimulus) :beer_mugs:
:smiley: การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้การวางเงื่อนไข(Conditioning Stimulus) ของ อิวาล พาฟลอฟ (Lvan Pavloy) สู่การจัดการเรียนการสอน
๑. การนำความต้องการทางธรรมชาติของผู้เรียนมาใช้เป็นสิ่งเร้า สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี :confetti_ball:
๒. การจะสอนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในเรื่องใด อาจใช้วิธีเสนอสิ่งที่จะสอนไปพร้อม ๆ ไปกับสิ่งเร้าที่ผู้เรียนชอบตามธรรมชาติ :star:
-
๔. การจัดกิจกรรมการเรียนให้ต่อเนื่อง และมีลักษณะคล้ายคลึงกันสามารถช้วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น เพราะมีการถ่ายโยงประสบการณ์เดิมกับประสบการณ์ใหม่ :lock:
๕. การเสนอสิ่งเร้าให้ชัดเจนในการสอน จะสามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และตอบสนองได้ชัดเจนขึ้น :unlock:
:pencil2: ๑.๒ การวางเงื่อนไขการกระทำ (Operant Conditioning) ของ บีเอฟ สกินเนอร์ (B.F.Skiner)
สกินเนอร์ได้ทำการทดลองกับสัตว์ในห้องทดลอง คือ หนูขาวโดยทีี่หนูจะวิ่งไปมา ปีนป่ายโน่นนี่ จนที่สุดหนูขาวจะแตะถูกลิ้นหรือคานในหีบทดลอง ผลคือทำให้หนูขาวได้รับอาหารเมื่อเกิดพฤติกรรมแบบนี้หลาย ๆ ครั้ง ทำให้หนูขาวใช้ระยะเวลาในการตอบสนองน้อยลง พฤติกรรมดังกล่าวถือว่าหนูขาวเกิดการเรียนรู้ว่า เมื่อต้องการอาหารจะต้องแตะคาน :beer_mugs:
:smiley: การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้การวางเงื่อนไขการกระทำ (Operant Conditioning) ของ บีเอฟ สกินเนอร์ (B.F.Skiner) สู่การจัดการเรียนการสอน
:<3: ๑. ครูจะต้องทราบว่าพฤติกรรมของนักเรียนที่แสดงว่านักเรียนเรียนรู้แล้วมีอะไรบ้าง และให้แรงเสริมพฤติกรรมนั้น ๆ
:star: ๒. ตอนแรก ๆ ครูควรให้แรงเสริมทุกครั้งที่นักเรียนแสดงพฤติกรรมที่พึงปรารถนาแต่ตอนหลังใช้แรงเสริมเป็นครั้งคราวได้
:explode: ๓. ถ้าจำเป็นสำหรับนักเรียนบางคนในการเปลี่ยนพฤติกรรม ครูอาจจะใช้แรงเสริมที่เป็นขนมหรือรางวัลที่เป็นสิ่งของหรือสิ่งที่จะเอาไปแลกเป็นของรางวัลได้
-
-
:tada: ๕. สำหรับพฤติกรรมที่ซับซ้อนหรือการเรียนรู้ที่ซับซ้อน ครูควรใช้หลักการตัดพฤติกรรม คือ ให้แรงเสริมกับพฤติกรรมที่นักเรียนได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ตามลำดับ
:beer_mugs: ๗. ค่อย ๆ ลดแรงเสริมแบบให้ทุกครั้งลงเมื่อเห็นว่าผู้เรียนกระทำได้แล้ว และผู้เรียนเริ่มแสดงว่ามีความพึงพอใจซึ่งเป็นแรงเสริมด้วยตนเองจากการทำงานนั้นได้
:pencil2: ๑.๓ การเชื่อมโยงของธอร์นไดร์ส (Thorndike)
Thorndike เป็นนักจิตวิทยาในกลุ่มพฤติกรรมนิยมที่เชื่อว่า การเรียนรู้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนอง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากการลองผิดลองถูก ทฤษฎีการเรียนรู้การเชื่อมโยงของธอร์นไดร์ส (Thorndike) มีดังนี้ ๑. กฎแห่งความพร้อม (Law of Readiness) คือ การเรียนรู้จะเกิดได้ดีถ้าผู้เรียนมีความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ
๒. กฎแห่งการฝึกหัด (Law of Exercise) คือ การหัดหรือการกระทำบ่อย ๆ ด้วยความเข้าใจจะทำให้การเรียนรู้นั้นคงทนถาวร ถ้าไม่ได้กระทำบ่อยซ้ำ ๆ การเรียนรู้นั้นจะไม่คงทนถาวรและในที่สุดจะลืมได้
๓. กฎแห่งการใช้ (Law of Use and Disue) คือ การเรียนรู้จากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนอง ความมั่นคงของการเรียนรู้จะเกิดขึ้น หากมีการนำไปใช้บ่อย ๆ และหารไม่มีการนำไปใช้อาจมีการลืมเกิดขึ้นได้
๔. กฎแห่งผลที่พึงพอใจ (Law of Effect) คือ เมื่อบุคคลได้รับผลที่พึงพอใจย่อมอยากจะเรียนรู้ต่อไป แต่ถ้าได้ผลที่ไม่พึงพอใจ จะไม่อยากเรียนรู้ ดังนั้นการได้รับผลที่พึงพอใจจึงเป็นปัจจัยสำคัญในกาารเรียนรู้ :beer_mugs:
-
๒. ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มปัญญานิยม (Cognitivism)
-
:pencil2: ๒.๑ ทฤษฎีการเรียนรู้ขอเกสตัสท์ (Gestalt Theory) เกสตัสท์ เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยมที่เชื่อว่า การเรียนรู้เกิดขึ้นจากการนำสิ่งเร้าต่าง ๆ มารวมกัน เริ่มต้นด้วยการรับรู้โดยส่วนรวมก่อน แล้วจึงจะสามารถเรียนรู้ส่วนย่อยทีละส่วนต่อไป ดังนั้นการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีนี้จึงเน้นกระบวนการคิดโดยเสนอภาพรวมก่อนเสนอส่วนย่อย :smiley:
-
:pencil2: ๒.๒ ทฤษฎีการพัฒนาทางสติปัญญาของบรูเนอร์ (Bruner) บรูเนอร์ (Bruner) เป็นนักจิตวิทยาที่สนใจและศึกษาเรื่องจิตวิทยาการเรียนรู้และพัฒนาการทางสติปัยญา โดยเชื่อว่ามนุษย์จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากการค้นพบดวยตนเอง :fire:
-
:pencil2: ๒.๓ ทฤษฎีการเรียนรู้อย่างมีความหมายของออซูเบล (Ausubel)
ออซูเบล (Ausubel) เป็นนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยมที่เชื่อว่า การเรียนรู้เกิดขึ้นเมื่อผู้เรียนได้รวมหรือเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนรู้ใหม่ซึ่งอาจจะเป็นความคิดรวบยอดหรือความรู้ที่ได้รับใหม่ในโครงสร้างทางสติปัญญากับความรู้เดิมที่อยู่ในสมองของผู้เรียนอยู่แล้ว :<3:
-
๓. ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มมนุษย์นิยม (Humanism)
-
:pencil2: ๓.๑ ทฤษฎีการเรียนรู้ของมาสโล (Maslow) ความต้องการของมนุษย์จะเป็นตัวกระตุ้นให้มนุษย์แสดงพฤติกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการนั้น ๆ มาสโลจึงได้จัดลำดับขั้นของ ความต้องการมนุษย์โดยเรียงลำดับความต้องการน้อยสุดไปหาสูงสุด :star:
:beer_mugs: พีรมิตแสดงความต้องการพื้นฐาน ๕ ระดับตามทฤษฎีการเรียนรู้ของมาสโล(Maslow) :fire:
-
:explode: ๒. ความต้องการด้านความมั่นคงปลอดภัย (Safety need) เป็นความต้องการความมั่นคงปลอดภัยส่วนบุคคลทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
:lock: ๓. ความต้องการด้านความรัก (Love need) เป็นความต้องการที่จะรู้สึกเป็นเจ้าของและเป็นที่ยอมรับในสังคม
:champagne: ๔. ความต้องการด้านการยอมรับ (Esteem need) เป็นความต้องกาารที่จะได้รับการยอมรับนับถือจากคนในสังคมและเห็นคุณค่าของตนเอง
:beer_mugs: ๕. ความต้องการด้านการที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเอง (Self - actualization) เป็นความต้องการการปรารถนาที่จะเป็นมากกว่าที่เป็นอยู่
-
๔. ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มสรรค์สร้างนิยม (Constuctivism)
-
:pencil2: ทฤษฎีการสร้างสรรค์มีหลักการดังนี้
๑. ผู้เรียนจะสร้างความเข้าใจในสิ่งที่เรียนรู้ด้วยตนเอง
๒. การเรียนรู้สิ่งใหม่กับความรู้สึกเดิมและความเข้าใจที่มีอยู่ในปัจจุบัน
๓. การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมีความสำคัญต่อการเรียนรู้
๔. การจัดสิ่งแวดล้อม กิจกรรมที่คล้ายคลึงกับชีวิตจริง ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย :red_flag:
-