Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
maxresdefault (การพยาบาล (6.ประเมินสัญญาณชีพเป็นระยะ เพื่อประเมินความรุนแร…
ความหมาย
ภาวะที่รกเกาะต่ำกว่าปกติ โดยเกาะลงมาถึงบริเวณส่วนล่างของผนังมดลูก (lower uterine segment) ซึ่งรกจะเกาะใกล้ หรือแผ่คลุม internal os เพียงบางส่วนหรือคลุมทั้งหมด
สาเหตุ
5.รกแผ่กว้างผิดปกติ เช่น erythoblastosisfetalis รกขนาดใหญ่ ครรภ์แฝด มารดาเป็นเบาหวาน
6.รกฝังตัวแน่น (placenta accreta)
4.เคยผ่าท้องทำคลอด
7.ทารกท่าผิดปกติ
3.ปัจจัยที่ทำให้ decidua เสียไป ซึ่งการที่เลือดมาเลี้ยง decidua น้อยลงจะทำให้รกแผ่กว้าง ลงมายังผนังมดลูกส่วนล่าง ปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ การอักเสบติดเชื้อ มีแผลบาดเจ็บหรือแผลเป็นจากการขูดมดลูก และการสูบบุหรี่มาก ๆ
2.จำนวนครั้งของการคลอด ตั้งครรภ์ตั้งแต่ 5 ครั้งขึ้นไป
1.อายุเกิน 35 ปี
ชนิด
Marginal placenta previa
รกเกาะต่ำชนิดที่ขอบรกเกาะที่ขอบของ internal os พอดี
Partial placenta previa
รกเกาะต่ำที่ขอบรกคลุมปิด internal os เพียงบางส่วน
Low-lying placenta
รกฝังตัวที่บริเวณ lower uterine segment ซึ่งขอบรกยังไม่ถึง internal os แต่อยู่ใกล้ชิดมาก
Total placenta previa
รกเกาะต่ำที่ขอบรกคลุมปิด internal os ทั้งหมด
การพยาบาล
6.ประเมินสัญญาณชีพเป็นระยะ เพื่อประเมินความรุนแรงของการเสียเลือด
7.ดูแลให้ใส่ผ้าอนามัย เพื่อสังเกตปริมาณเลือดที่ออก
5.งดน้ำและอาหาร และให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
4.เจาะเลือดส่งตรวจ Hb, Hct และเตรียมเลือดไว้ เพื่อทดแทนกรณีที่สูญเสียเลือดมาก
8.เตรียมสตรีให้พร้อมสำหรับการตรวจพิเศษและการผ่าตัด
3.งดการตรวจทางช่องคลอด และทวารหนัก รวมทั้งงดสวนอุจจาระในระยะก่อนคลอด
9.ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก เนื่องจากการหดรัดตัวของมดลุกทำให้เลือดออกมากขึ้น
2.ให้นอนพักบนเตียงในท่า Semi-Fowler เพื่อให้ส่วนนำกดรกไว้ทำให้เลือดออกน้อย หรือนอนใน
ท่านอนตะแคงซ้าย เพื่อช่วยลดการกดทับเส้นเลือด inferior vena cava และทำกิจกรรมที่จำเป็น
10.ประเมินอาการช็อกอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ซีด กระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็น ใจสั่น พักไม่ได้ และ
อาการปวด
1.อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวทราบถึงพยาธิสภาพและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น แผนการ
รักษา และการปฏิบัติตนที่เหมาะสมเพื่อลดความวิตกกังวล
11.ประเมิน FHS เป็นระยะตามสภาวะเลือดออก หากพบความผิดปกติให้ออกซิเจน 4-5 ลิตร/นาที
และรายงานแพทย์
12.หากมีการคลอดเตรียมช่วยเหลือทารกแรกเกิดทันที ถ้าพบมีภาวะขาดออกซิเจน
พยาธิสภาพ
ภายหลังสัปดาห์ที่ 30 มดลูกมีการซ้อมการหดรัดตัว กล้ามเนื้อมดลูกส่วนบนหดรัดตัวดึงรั้งกล้ามเนื้อมดลูกส่วนล่างขึ้นไป ทำให้เกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดบริเวณรกและมีเลือดไหลออกทางช่องคลอดให้เห็น หรือรกติดแน่นเพราะว่า Decidua ไม่ดีหรือเกิดการฉีกขาดบริเวณ lower uterine segment
อุบัติการณ์
พบร้อยละ 0.5 หรือ 1:200 ของการคลอด รกเกาะต่ำจะมีโอกาสเกิดสูงขึ้นในรายที่มีประวัติของภาวะรกเกาะต่ำในครรภ์ก่อน คือมีโอกาสสูงขึ้นในครรภ์ต่อมาร้อยละ 4-8
ผลกระทบ
ผลต่อลูก
3.Fetal distress
4.บาดเจ็บจากการคลอด
2.ทารกท่าผิดปกติ
5.ทารกมีความปิดปกติ เช่น ความผิดปกติของระบบประสาท,ระบบหายใจ
1.คลอดก่อนกำหนด,ทารกเจริญน้อยกว่าปกติ,ซีด
ผลต่อแม่
2.ติดเชื้อ,โลหิตจาง,Subinvolution
3.รกฝังตัวแน่น (placenta accreta) มักพบในมารดาที่มีประวัติ C/S
1.ตกเลือดทั้งในระยะตั้งครรภ์,คลอด,หลังคลอด
4.มดลูกแตกที่ส่วนล่างจากการทำสูติศาสตร์หัตถการ
การรักษา
1.การรักษาแบบประคับประคอง (Expectant management)
ในรายที่ preterm, มีเลือดออกเล็กน้อยหรือปานกลาง, อาการทั่วไปดี, GA<34 wks, BW<2,500gm, ยังไม่เจ็บครรภ์, ทารกยังมีชีวิต
รักษาโดยให้ corticosteroid, tocolysis
2.การรักษาแบบเร่งด่วน (Active treatment)
2.1 การเร่งคลอดโดยเจาะถุงน้ำ ให้ oxytocin แล้วช่วยคลอดด้วย F/E,V/E
2.3 Vagina delivery ทำในรายรกเกาะต่ำชนิด marginalis/low-lying,เลือดออกไม่มาก,มารดาไม่มีภาวะซีด,ทารกตัวไม่โต,ทารกตายในครรภ์,มดลูกหดรัดตัวดี,ความก้วหน้าการคลอดดี
2.2 C/S ในรายที่มีเลือดออกมาก ซีด ไม่มีความก้าวหน้าการคลอด รกเกาะต่ำชนิด totals,parietialis,ทารกท่าผิดปกติ,frtal distress,มารดาครรภ์แรกอายุมาก,ความดันโลหิตสูง
การวินิจฉัย
1.จากประวัติอาการและอาการแสดง
มักจะไม่มีอาการเจ็บครรภ์ หน้าท้องนุ่มไม่แข็งตึง คลำทารกได้
ทารกอยู่ในท่าผิดปกติ เช่น ท่าก้น ท่าขวาง
อาการซีด จะสัมพันธ์กับปริมาณเลือดที่ออก
:red_flag:เลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่เจ็บ (painless)
2.การตรวจหาตำแหน่งรกเกาะ
การตรวจภายในเป็นวิธีที่วินิจฉัยโรคได้แน่นอน แต่ต้องทำการตรวจในห้องผ่าตัด โดยเตรียม
ผู้ป่วยให้พร้อมที่จะทำการผ่าตัดได้ทันทีที่วินิจฉัย ซึ่งเรียกการตรวจแบบนี้ว่า double setup
ultrasound หาตำแหน่งรก