Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลเด็กที่มีความผิดปกติของทางเดินอาหาร โภชนาการ และการดูดซึม…

- - - - ปากแหว่ง
        
        Complete clef of the lip and alveolus
        
        Incomplete clef of the lip
        
        Bilateral cleft lip
      - เพดานโหว่
        
        Incomplete and submucous cleft palate
        
        Complete cleft palate
    - - ดูดนมลำบาก อาจสำลักได้ พูดไม่ชัด มีปัญหาด้านการได้ยิน การพูด ทันตกรรม รอยแหว่งที่บริเวณริมฝีปากบนและรูโหว่ที่เพดานปาก
    - - ปากแหว่ง ผ่าตัดมักทำเมื่อทารกมีอายุ 8-12 สัปดาห์ โดยใช้ rule of ten
      - เพดานโหว่ ผ่าตัดมักทำเมื่อ 12-18 เดือน บางท่านแนะนำ 18-24 เดือน
        (มักทำ clef lip ก่อน clef palate)
  - - - อาจได้รับอาหารไม่เพียงพอหรือสำลักนมได้ง่าย เนื่องจากดูดกลืนได้ไม่ดี
      - อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณริมฝีปากหรือเพดานที่เป็นรอยโรคจากการปนเปื้อนกับอาหารน้ำเมือกและน้ำลาย
      - บิดารมารดาวิตกกัวล เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเด็ก
      - บิดามารดาวิตกกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดและผลการรักษา เนื่องจากขาดความรู้
    - - อาจเกิดภาวะหายใจลำบาก ภายใน 48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด
      - แผลผ่าตัดมีโอกาสกระทบกระเทือน แยกและติดเชื้อหลังผ่าตัด
      - บิดามารดา วิตกกังวล ในการดูแลเด็กเมื่อกลับบ้านเนื่อจากขาดความรู้
- - - - หลอดอาหารตัน (esophageal atresia:EA)
      - หลอดอาหารติดต่อหลอดลมคอ (tracheoesophageal fistula:TEF)
    - - หลังคลอดจากอาการและอาการแสดง เช่น น้ำลายออกมาก หายใจลำบาก และหายใจเสียงดังคล้ายมีเสมหะอุดหลอดลม
      - ไม่สามารถใส่สายยางให้อาหารได้ ลึก 8-10 Cm.
    - - ขจัดทางติดต่อระหว่างหลอดลมกับทางเดินอาหารช่วงล่าง ซึ่งมักจะทำโดยการตัดขาดจากกันและเย็บปิดช่องทางติดต่อที่หลอดลม
      - ต่อหลอดอาหารช่วงบนและช่วงล่างเข้าด้วยกัน
  - - - มีโอกาสเกิดการสำลักน้ำลายหรือน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนเข้าไปในหลอดคอ
      - บิดามารดาอาจเกิดความเครียด และวิตกกังวลเกี่ยวกับความผิดปกติของบุตร การผ่าตัด และการดูแลบุตรทั้งในระยะก่อนและหลังผ่าตัด
    - - มีโอกาสเกิดภาวะพร่องออกซิเจน จากการมีเสมหะอุดกั้นทางเดินหายใจ
      - มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะแรกหลังผ่าตัด คือรูรั่วสหรือการตีบแคบของรอยต่อ การเกิดซ้ำของทางติดต่อระหว่างหลอดอาหารและหลอดลมคอและไหลย้อนของสิ่งคัดหลั่งและอาหารจากกระเพาะเข้าสู่หลอดลมคอ
      - มีโอกาสเกิดภาวะขาดสารน้ำ สารอาหารและอิเล็กโทรไลต์
      - บิดามารดาอาจเกิดความวิตกกังวล เกี่ยวกับการเจ็บป่วยของบุตร ความก้าวหน้าของการรักษา อละการดูแลบุตรทั้งขณะอยู่ที่โรงพยาบาลและเมื่อกลับบ้าน
- - - - ปวดท้อง
      - อาเจียน
      - ถ่ายอุจจาระเป็นมูกปกเลือด
      - อาการซึม
    - - ไม่ผ่าตัด: hydrostatic reduction โดยการสวนแบเรียมทางทวารหนัก/สารเหลวอื่นสวนแทน
      - ผ่าตัด
        
        Surgical manipulation : ใช้มือรูดออกจากกัน
        
        Surgical resection with end to end anastomosis : ตัดส่วนที่เน่าออกแล้วต่อส่วนที่เหลือ
    - - ลำไส้ส่วนต้นมุดเข้าไปในลำไส้ส่วนปลาย
  - - - มีโอกาสเกิดภาวะเสียสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์เนื่องจากการอาเจียนเลือดออกในลำไส้และลำไส้ลดการดูดซึม
      - มีโอกาสได้รับอันตรายจากการที่ลำไส้แตกทะลุ หรือเยื่อบุช่องท้องอักเสบ
      - บิดามารดาอาจเกิดความวิตกกังวล เกี่ยวกับความเจ็บป่วยของบุตร เข้าใจวิธีการตรวจและการรักษา
    - - มีโอกาสเกิดภาวการณ์ไหลเวียนเลือดล้มเหลว จากการเสียเลือด สูญเสียน้ำและอิเล็กโทรไลต์
      - มีโอกาสลำไส้แตกทะลุ คลายตัวไม่หมด ขาดเลือดมาเลี้ยง หรือกลับมาเป็นซ้ำหลังจากการใช้แรงดัน เพื่อคลายการกลืนกันของลำไส้
      - มีโอกาสเกิดภาวะชักจากไข้สูง อันเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดได้ภายหลังผ่าตัดและการสวนแบเรียมเพื่อการรักษา
      - บิดามารดา เกิดความวิตกกังวล เกี่ยวกับผลการรักษาและอาการของบุตร
- - - - ความผิดปกติของพาราซิมพาเธติก ทำให้เกิดการอุดตันของลำไส้ใหญ่ ทำให้มมีการขยายพองของลำไส้ใหญ่
    - - ในทารกแรกเกิด จะถ่ายขี้เทาช้า
      - ทารกและเด็ก จะมีท้องผูก อาจมีก้อนเล็ก แข็ง ถ่ายยาก ท้องผูกรุนแรงขึ้น อุจจาระมีกลิ่นเหม็น จำนวนมาก
    - - ประคับประคอง สวนล้างด้วย NSS
      - Colostomy รอให้ทารกอายุประมาณ 1 ปี หรือน้ำหนัก 8-10 kg
      - ผ่าตัดเพื่อการรักษา + toilet training เป็นการต่อลำไส้ และรูทวารหนัก colo-anal anastomosis
  - - - มีภาวะท้องอืด ท้องผูก จากการอุดตันของลำไส้
      - มีโอกาสเกิดภาวะลำไส้อักเสบ จากการอุดตันของลำไส้และความต้านทานของผนังลำไส้ลดลง
      - มีโอกาสลำไส้แตกทะลุจากการที่ลำไส้มีการขยายมาก
      - มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดรักษา เช่น การติดเชื้อในช่องท้อง การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
      - บิดามารดาอาจเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัด และการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด
    - - เกิดการคั่งของลมหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารและลำไส้ทำให้เกิดภาวะท้องอืด เนื่องจากการทำงานของลำไส้ได้ดี
      - มีโอกาสเกิดการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดและ/หรือเกิดการระคายเคือง หรือมีการอักเสบของผิวหนังรอบรูเปิดของลำไส้ใหญ่ (ในรายที่ได้รับการผ่าตัดเปิดลำไส้ใหญ่ออกทางหน้าท้อง) เนื่องจากการปนเปื้อนของน้ำย่อยหรืออุจจาระ
      - บิดามารดาอาจวิตกกังวลเกี่ยวกับความก้าวหน้าของการรักษาสภาพของเด็กหลังผ่าตัด ตลอดจนการดูแลที่บ้าน
      - รู้สึกสูญเสียภาพลักษณ์จากการมีลำไส้ใหญ่มาเปิดที่หน้าท้อง
- - - - โรค
        
        ความผิดรูปตั้งแต่เกิดของผนังหน้าท้อง
      - อาการและอาการแสดง
        
        บริเวณกลางท้องทารกมีถุงomphaloceleติดอยู่กับผิวหนัง
        
        ตัวถุงลักษณะเป็นรูปโดม ผนังบางมองเห็นอวัยวะได้
  - - - โรค
        
        ความผิดรูปแต่กำเนิดที่มีความพิการของผนังหน้าท้องเป็นช่องแคบยาว
      - อาการและอาการแสดง
        
        น้ำหนักตัวน้อย
        
        ลำไส้สั้น
        
        ความผิดรูปของทางเดินอาหาร
        
        อวัยวะส่วนที่เคลื่อนออกมานี้จะไม่มีถุงperineum และamnionคลุมเหมือน omphalocele
  - - - ทำได้โดยใช้สารละลายฆ่าเชื้อpovidineทาที่ผนังถุง
      - เมื่อทาสารละลายฆ่าเชื้อแล้วจะทำให้เยื่อบุผิวหนังงอกออกมาปกคลุมทั้งหมด
    - - Primary fascial closure
        
        ทำใน gastroscihsis และ Omphalocele ขนาดไม่ใหญ่มาก นำอวัยวะกลับเข้าสู่ช่องท้อง โดยการเปิดช่องท้องให้กว้างขึ้นและเย็บปิดกล้ามเนื้อ rectus ทั้งสองเข้าหากัน
      - Staged repair
        
        เป็นการเปิดหน้าท้องให้กว้างขึ้นเพื่อนำอวัยวะภายในคืนสู่ช่องท้อง
    - - การช่วยหายใจ เพราะทารกมีความดันในช่องท้องสูง อาจใช้เครื่องช่วยหายใจ
      - การให้สารน้ำสารอาหารทางหลอดเลือดดำ โดยเฉพาะใน gastroschisis ทารกต้องงดน้ำงดอาหาร แต่ใน omphalocele ต้องระวังภาวะทุพโภชนาการหรือถ่ายเหลว
      - การป้องกันการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
      - ติดตามผลการรักษาใน gastroscihsis จะติดตามความพิการในระบบทางเดินอาหาร Omphalocele ควรแก้ไขความพิการร่วมซึ่งพบได้บ่อย สำหรับภาวะ ventral hernia
  - - - ค่า O2 satuation มากกว่าหรือเท่ากับ 95
      - อัตราการหายใจ 40-60 ครั้ง / นาที
      - ลักษณะการหายใจไม่หอบเหนื่อย ไม่มีจมูกบานขณะหายใจ ไม่มีอกบุ๋ม
      - ผู้ป่วยมีสีผิวชมพู ปลายมือปลายเท้าไม่เขียว ซีด
- - - - ระดับสูง(high type)
        
        Anoretal agenesis
        
        ความผิดรูปของทวารหนักรวมบางส่วนของเรคตั้มขาดหายไป
        
        Rectal atresia
        
        ทวารหนักส่วนที่ตันจะอยู่สูงกว่าระดับเส้นP-C
        
        การรักษา
        
        anorectoplasty
        
        colostomy
      - ระดับกลาง (intermediate type)
        
        ความผิดรูปที่ส่วนปลายลำไส้แต่ยังไม่แทรกผ่านเข้าไปในส่วนกลุ่มกล้ามเนื้อหูรูด ยกเว้นในกรณีที่มีทางติดต่อจะแทรกผ่านกรวยกลุ่มกล้ามเนื้อหูรูดงอกเข้าไปยางส่วน
        
        การรักษา
        
        anorectoplasty
        
        colostomy
      - ระดับต่ำ (low type)
        
        มีความผิดรูปเพียงบางส่วนของทวารหนักที่ไม่เปิดออกภายนอกอย่างปกติ
        
        การรักษา
        
        anal transposition
        
        cutback procedure
        
        anal diatation
  - - - เพศชาย
        
        ระดับต่ำ (low type)
        
        ตรวจพบมีรูเปิดทางติดต่อออกบริเวณฝีเย็บ
        
        ระดับกลาง (intermediate type)
        
        ตรวจพบทางติดต่อกับทางเดินปัสสาวะ เห็นขี้เทาไหลมาทางรูเปิดท่อปัสสาวะ
      - เพศหญิง
        
        ระดับต่ำ(low type)
        
        ตรวจพบรูเปิดของทางติดต่อ ตั้งแต่บริเวณฝีเย็บที่ควรจะเป็นรูทวารหนักขึ้นไปข้างหน้า
        
        พบทางติดต่อเปิดเหนือเยื่อพรหมจารี มีขี้เทาออกทางช่องคลอด
    - - การถ่ายภาพรังสีจะถ่ายด้านข้างของทารกในท่าศีรษะห้อยลงตามวิธีของinvertogram
- - - - ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ 3 ครั้งต่อวันหรือมากกว่า
      - ถ่ายมีมูกหรือมูกเลือดปนอย่างน้อย1ครั้ง
      - ถ่ายเป็นน้ำปริมาณมากๆจำนวนมากกว่า 1ครั้งขึ้นไปใน1;yo
    - - ไวรัส
        
        ให้อาหารแล้วถ่ายมาก หยุดอาหรแล้วดีขึ้น
        
        โซเดียมในอุจจาระน้อยค่า pH<6
        
        อุจจาระเป็นน้ำ มีฟอง และมีกลิ่นเปรี้ยว
      - แบคทีเรีย
        
        งดอาหารทางปากแล้วยังถ่ายมาก
        
        ช่วงแรกจะถ่ายมาก ช่วงหลังจะถ่ายครั้งละน้อยๆแต่บ่อยครั้ง
    - - รักษาภาวะขาดน้ำ
        
        ให้น้ำและเกลือแร่ทดแทนที่ขาดใช้เวลา 4 วัน อาจให้ทางปากหรือหลอดเลือดดำ ถ้าขาดเล็กน้อย-ปานกลางนิยมให้ORS
        
        ให้สารละลายเกลือแร่ทางปากเท่ากับปริมาณอุจจาระหรืออาเจียนที่สูญเสียไป หรือให้ 10 ml/kg หลังการถ่ายแต่ละครั้ง
      - ป้องกันมิให้เกิดภาวะขาดน้ำ
        
        ให้ORS ถ้าเด็กยังดื่มนมมารดาก็ให้ดื่มต่อไปและให้ของเหลว เช่น โจ๊ก น้ำข้าวใส่เกลือฯ
      - กำจัดเชื้อออกจากลำไส้ โดยการใช้ยา