Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ติดเชื้อในกระแสเลือด (Septicemia) (สาเหตุ (โรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อในปอด…
ติดเชื้อในกระแสเลือด (Septicemia)
คือภาวะการติดเชื้อในกระแสโลหิตซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย จากนั้นเชื้อแบคทีเรียซึมเข้าสู่กระแสเลือด
อาการ
รู้สึกหนาว มือและเท้าเย็นมาก
ป่วยเป็นไข้ขึ้นสูง ผู้ป่วยบางราย
อาการอาจค่อย ๆ เป็นหนักขึ้น
และอาจป่วยเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบร่วมด้วย
หายใจเร็วขึ้น
ชีพจรเต้นเร็ว
รู้สึกตัวน้อยลง รวมทั้งสับสนจนคิดอะไรไม่ออก
คลื่นไส้และอาเจียน
ผิวหนังอาจเกิดจุดหรือแดง หากปล่อยทิ้งไว้ ผื่นจะลุกลามใหญ่ขึ้นเหมือนรอยช้ำ โดยรอยช้ำเหล่านี้จะแผ่ขยายใหญ่เป็นบริเวณกว้าง
ปัสสาวะน้อยลง
เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะไม่เพียงพอ นำไปสู่ภาวะช็อก
สาเหตุ
โรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อในปอด เช่น ปอดบวม
การติดเชื้อที่ไต
โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ
การติดเชื้อบริเวณท้อง
ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจนเกิดแผลขนาดใหญ่หรือถูกไฟลวก
ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) หรือผู้ป่วยลูคีเมีย
ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ฉีดสเตียรอยด์ หรือวิธีที่ทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ
ผู้ที่ต้องสวนปัสสาวะ หรือผู้ที่ถูกสอดท่อเข้าไปในหลอดเลือดดำ
ผู้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
เด็กอายุน้อยมากหรือคนชรา
การวินิจฉัย
การตรวจเลือด ตรวจหาการติดเชื้อ การเกิดลิ่มเลือด การทำงานที่ตับหรือไต ความสามารถในการลำเลียงออกซิเจน และระดับความสมดุลของเกลือแร่ในร่างกายผู้ป่วย
การตรวจปัสสาวะ เพื่อดูการติดเชื้อของแบคทีเรีย
การตรวจสารคัดหลั่งจากบาดแผล เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากบาดแผลมาตรวจ เพื่อช่วยในการจ่ายยาปฏิชีวนะ
การตรวจน้ำมูกหรือเสมหะ วินิจฉัยชนิดของแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการติดเชื้อ
การรักษาการติดเชื้อในกระแสเลือด
การรักษาด้วยยา
ยาปฏิชีวนะ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรงจะได้รับยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียครอบคลุมหลายประเภท
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ เพื่อรักษาระดับความดันโลหิตให้คงที่ ทั้งนี้ สารน้ำที่ให้แก่ผู้ป่วยซึ่งติดเชื้อในกระแสเลือดจะช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำและไตล้มเหลว
ยาเพิ่มความดันโลหิต โดยยานี้จะทำให้หลอดเลือดตีบลงและช่วยเพิ่มความดันโลหิต
การดูแลผู้ป่วยตามอาการ ผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจอาจจำเป็นต้องต่อท่อหรือใส่หน้ากากเครื่องช่วยหายใจ เพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น
การผ่าตัด ติดเชื้อมากจากฝีหรือแผล
ที่ทำให้ลุกลามได้นั้น อาจต้องเจาะเอาหนองออกมาฝ ส่วนผู้ป่วยที่เกิดอาการรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อเยื่อส่วนที่ติดเชื้อออกไป