Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
COPD (พยาธิสภาพ (ถุงลมสูญเสียความยืดหยุ่น คือ ยืดได้หดไม่ได้,…
COPD
พยาธิสภาพ
-
มีการคั่งของอากาศนาน ๆ เข้าถุงลมจะยิ่งโป่งออกจนมีการฉีกขาดและหลอดเลือดบริเวณนั้นถูกทำลาย พื้นที่ผิวในการแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง
มีการอักเสบและสร้างเสมหะออกมามาก และเมื่อกลไกการขับเสมหะตามปกติถูกทำลายไปจะทำให้เสมหะที่สร้างขึ้นนั้นจับตัวกันเป็นก้อนอุดหลอดลมไว้อากาศผ่านเข้าออกจากถุงลมไม่ได้จึงดันให้ถุงลมโป่งออก
ขนกวัดถูกทำลายจึงทำให้สารที่เป็นอันตรายต่าง ๆ รวมทั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัสสามารถแทรกเข้าสู่เซลล์ของหลอดลม
หลอดลมได้รับการระคายเคืองบ่อย ๆ จะทำให้เยื่อบุหลอดลมโดยเฉพาะต่อมเมือก (Mucous gland) หลังสารคัดหลั่งออกมา ต่อมาเซลล์จะมีขนาดใหญ่และเพิ่มจำนวนมากขึ้นทำให้ผนังหลอดลมหนาตัวขึ้นและความยืดหยุ่นเสียไป ท่อหลอดลมจะตีบแคบลง
-
อาการ
มีเสมหะเรื้อรังแบบหอลดลมอักเสบเรื้องรังร่วมด้วย อาจมีไข้ ไอเสมหะมีสีเหลืองเขียวร่วมด้วยเนื่องจากมีการติดเชื้อแทรก หรือหายใจหอบคล้ายโรคหืด
-
ต่อมาไอถี่ขึ้นตลอดทั้งวันและมีเสมหะเป็นจำนวนมาก อาจมีสีขาว เหลือง เขียว อาจมีไข้ ไอมีเลือดปน ตามด้วยอาการหอบ
-
กายวิภาคของปอด
- Respiratory zone เริ่มจากrespiratory bronchiole ซึ่งมีเยื่อบุผิวบางๆ แตกแขนงเป็น alveolar ducts ซึ่งเป็นท่อบางๆต่อกับ alveolar sacs โดย alveolar sacs จะประกอบไปด้วยถุงลมเล็กๆ เรียกว่า alveoli ที่ผนังของ alveoli จะ มีหลอดเลือดฝอยกระจายอยู่เพื่อทําหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซ สําหรับ respiratory zone ส่วนที่ไม่มีการแลกเปลี่ยนอากาศ เรียกว่า alveolar dead space
ระบบทางเดินหายใจ โดยท่อทางเดินหายใจแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
- Conducting zone เริ่มจาก trachea มาสิ้นสุดที่ terminal bronchiole ทําหน้าที่เป็นทางผ่านของอากาศ ช่วยให้อากาศที่หายใจเข้าไปอุ่นและชื้น และยังทําหน้าที่เป็นตัวกรองสิ่งแปลกปลอมที่ปนมากับอากาศในขณะที่หายใจเข้า เนื่องจากส่วนนี้ไม่มีการแลกเปลี่ยนอากาศ จึงเรียกว่า anatomical dead space
หน้าที่หลักของปอดก็คือ การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ระบบเลือดในร่างกาย และแลกเปลี่ยนเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากระบบเลือดออกสู่สิ่งแวดล้อม ทำงานโดยการประกอบกันขึ้นของเซลล์เป็นจำนวนล้านเซลล์ ซึ่งเซลล์ที่ว่านี้มีลักษณะเล็กและบางเรียงตัวประกอบกันเป็นถุงเหมือนลูกโป่ง ซึ่งในถุงลูกโป่งนี้เองที่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซต่าง ๆ เกิดขึ้น
การวินิจฉัย
ฟังปอดได้ยินเสียงหายใจค่อย พบเสียงกรอบแกรบ (Crepitation) เสียงรอนไค (Rhonchi) และเสียงหวีด (Wheezing)
อาจพบนิ้วปุ้ม เล็บเขียว ปากเขียว หรือหัวใจล้มเหลว (มีอาการเท้าบวม นอนราบไม่ได้ หลอดเลือดที่คอโป่ง ตับโต)
-
-