Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เด็กชายอัครเดช ไกยเเจ่ม อายุ 17 วัน
Dx.Preterm with low bird weight with…
เด็กชายอัครเดช ไกยเเจ่ม อายุ 17 วัน
Dx.Preterm with low bird weight with neonatal jaundice with neonatal alloimmune thombocytopenia with arterial septal defect
ทารกคลอก่อนกำหนดร่วมกับมีน้ำหนักตัวน้อยร่วมกับมีภาวะตัวเหลืองร่วมกับภาวะเกร็ดเลือดต่ำจากการทำลายอัลโลอิมมูนร่วมกับโรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วแต่กำเนิด
CC: รับรีเฟอร์มาจากโรงพยาบาลกุมภวาปีเนื่องหายใจหอบเหนื่อยฟังเสียงหัวใจมีเสียง murmur เเละมีเกล็ดเลือดต่ำ
PI:เด็กแรกเกิดมีปัญหาหายใจหอบเหนื่อย on nasal canula แล้วหายใจดีขึ้น แต่ผล CBC sepsis มี thrombocytopenia (มารดาเปนUTI และให้ Cef-3ก่อนคลอด) รพ.กุมภวาปีได้ start ATB แต่ไม่มี Pletlet con. จึงรีเฟอร์มาเพื่อรับเลือด
Case:ทารกมีน้ำหนักแรกเกิด 2190 กรัม ปัจจุบันน้ำหนัก 2225 กรัม ขึนมา 25 กรัม ทารกได้รับนม BM/PF 45 ml x 8 feedพลังงานที่ทารกต้องการใน 1 วัน คือ 540 Kcal/day
-
-
แบ่งได้ 2 ประเภท
1.Physiologic พบในทารกปกติตัวจะเหลืองภายใน 2-3 วัน อาจเกิดจากการเเตกของเม็ดเลือแดงที่สันตับทำงานสร้าง glucuronyl transferase จึงทำให้เกิดการกำจัด bilirubin ได้ไม่ปกติ
2.Phathologic เป็นภาวะตัวเหลืองที่ผิดปกติภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด ค่า MB จะมีค่าสูงมากขึ้น 0.5 mg/dl/hr สาเหตุ G6PD cephalhematoma ท่อน้ำดีอุดตัน เม็ดเลือดเเดงเเตกผิดปกติ
ธารัสซีเมีย ภาวะที่กลัวที่สุดคือ kernicterus ที่มีผลต่อสมอง
รักษาด้วยการส่องไฟ
Case: ทารกมีภาวะตัวเหลืองชั่วโมงที่ 48 ค่า MB 8 จึงได้รับการรักษาm on Double Photo ไปวันที่ 4 ธันวาคม62 วันที่ 5 ธันวาคม 62 On single Photo วันที่ 6 ธันวาคม 62 ค่า MB 15.2จึง off Photoไปรวมส่องไฟทั้งหมด 2 วัน
เป็นความผิดปกติที่ทารกมีเกล็ดเลือดในร่างกายต่ำซึ่งเป็น ผลมาจากมารดาสร้างแอนติบอดี ต่อเกล็ดเลือดของทารก เนื่องจากทารกมีหมู่เกล็ดเลือดที่ถ่ายทอดจากบิดาซึ่งแตกต่างจากมารดา โดยอาการนี้จะหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์
Case: แรกรับ ที่ NS ทารกมี Plt Count 27000 มีจุดจ้ำเลือดบริเวณหน้าท้องและหลังและได้รับการแก้ไขคือให้ Plt Count 20ml เพื่อเพิ่มปริมาณเกล็ดเลือดในร่างกายหลังให้ Plt อยู่ที่ 80000
ASD: Arterial septal defect เกิดจากการที่มีรูรั่วบริเวณผนังกั้นหัวใจห้องบน ส่งผลให้เลือเเดงไหลจากหัวใจห้องบนซ้ายไปห้องบนขวาในจังหวะที่หัวใจบีบตัว ส่งผลให้หัวใจมีโอกาสโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเด็กเล็กอาจจะไม่ปรากฎอาการ
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-