Fluid, electrolyte and
Acid-Base Balance

Function of body fluid

  1. ลำเลียงสาร
  2. ควบคุมอุณหภูมิ
  3. ช่วยในการดูดซึมและแพร่กระจายของสาร
  4. เป็นตัวร่วมในปฏิกิริยาเคมี
  5. ควบคุมความเข้มข้นของสาร
  6. ป้องกันการกระทบกระเทือนอวัยวะ

สัดส่วนน้ำในร่างกาย

  1. น้ำในเซลล์ ร้อยละ40ของน้ำหนักตัว
  2. น้ำนอกเซลล์ ร้อยละ20ของน้ำหนักตัว
    -Intracellular fluid
    -Interstitial cell fluid

ชนิด

  1. Isotonic solution
  2. hypotonic solution
  3. hypertonic solution

กลไกควบคุมสมดุลน้ำ

Baroreceptor รับรู้ความดันเลือด

Osmoreceptor ควบคุมปริมาณ
และosmolarityของน้ำนอกเซลล์

Hormones

ADH ดูดกลับน้ำ

RASS เพิ่มความดันโลหิต กระตุ้นการหลั่ง aldosterone

Aldosterone ดูดกลับโซเดียม

ANP ลดระดับ renin และ aldosterone

Fluid Imbalance

Hypovolemia

  1. ได้รับน้อยลง
  2. สูญเสียน้ำมาก
  3. น้ำในหลอดเลือดเข้าช่องว่างระหว่างเซลล์
  • กระหายน้ำ
  • หายใจเร็ว
  • ระดับความรู้สึกตัวลดลง
  • คลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก
  • ปัสสาวะน้อย

Hypervolemia

  1. ได้รับโซเดียมและน้ำมากเกินไป
  2. สูญเสียโซเดียมและน้ำทางไตลดลง
  3. สาเหตุอื่นเช่น อากาศร้อน
    การคั่งของสารน้ำในช่วงมีประจำเดือน
  1. น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นภายใน 24-48 ชั่วโมง
  2. อาการบวม
  • pitting edema
  • Non-pitting edema
  1. ความดันในกะโหลกศีรษะสูง
  2. Pulmonary edema
  3. เส้นเลือดดำที่คอโป่ง
  4. ปัสสาวะมากและใส
  5. สารน้ำในหลอดเลือดเพิ่มขึ้น

Edema

มีสารน้ำคั่งอยู่ใน interstitial tissue

  1. Transudate ใส โปรตีนน้อย
  2. Exudate ขุ่น โปรตีนมาก

Water excess and intoxication

ร่างกายได้รับน้ำมากเกินไปในเวลารวดเร็ว
ทำให้เซลล์บวม มีอาการปวดศีรษะ ชักกระตุก ปอดบวม

ความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลท์

Hypornatremia

  1. โซเดียมในเลือดต่ำ น้ำนอกเซลล์ลดลง
  2. โซเดียมในเลือดต่ำ น้ำนอกเซลล์เพิ่มขึ้น
  3. โซเดียมในเลือดต่ำ น้ำนอกเซลล์คงเดิม
  • ระดับน้อย-อ่อนเพลีย
  • ระดับกลาง-เวียนศีรษะ
    ปัสสาวะน้อย กระหายน้ำ
  • รุนแรง-เพ้อ ซึม ชัก

Hypernatremia

  1. โซเดียมในร่างกายมาก

ได้รับโซเดียมมากกว่าปกติ

ลดการขับโซเดียม

Hypokalemia

  1. ภาวะขาดน้ำ
  1. ได้รับโพแทสเซียมน้อยเกินไป
  2. โพแทสเซียมเข้าเซลล์มากเกินไป
  3. โพแทสเซียมเข้าเซลล์กล้ามเนื้อมากเกินไป
  4. สูญเสียโพแทสเซียมมากขึ้น
  • อาการของภาวะขาดน้ำ
  • ภาวะน้ำเกิน
  • อาการทางสมอง ชัก หมดสติ
  • กล้ามเนื้อหัวใจเต้นผิดปกติ
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • polyuria
  • nocturia

Hyperkalemia

  1. Pseudohyperkalemia
    โพแทสเซียมสูงหลวง
  1. True hyperkalemia
  • ได้รับโพแทสเซียมมากเกินไป
  • ขับออกทางปัสสาวะลดลง
  • โพแทสเซียมออกจากเซลล์มากขึ้น
  • โพแทสเซียมออกจากเซลล์กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น
  • แน่นน่าอก
  • กล้ามเนื้อกระตุก
    จนถึงเป็นอัมพาต

Hypocalcimia

  1. Hypoparathyroidism
  2. metabolism alkalosis
  3. pseudohypoparathyroidism
  4. ขาดวิตามินดี
  5. hyperphosphatemiaและ
    hypomagnesemia
  • เกร็งกระตุก
  • ชัก

Hypercalcemia

อาการ

อาการ

อาการ

อาการ

อาการ

อาการ

  1. แคลเซียมสลายออกจากกระดูกมากขึ้น
  2. แคลเซียมถูกดูดซึมจากลำไส้เล็กเพิ่มขึ้น
  3. แคลเซียมถูกดูดกลับที่ไต้เพิ่มขึ้น

อาการ

  • กระหายน้ำ
  • ปัสสาวะมาก
  • กล้ามเนื้อออนแรง
  • มีแผลในกระเพาะอาหาร

อาการ

Hypomagnesemia

  1. ดูดซึมทางลำไส้เล็กลดลง
  2. สูญเสียออกทางไตเพิ่มขึ้น

babinski’s sign และ trouseau’s sign ให้ผลบวก
ตากระตุกและชัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ

อาการ

Hypermagnesemia

ไตล้มเหลวเฉียบพลันและเรื้อรัง
ขับแมกนีเซียมลดลง

  • ความดันโลหิตต่ำ
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • หัวใจเต้นช้า
  • อาจทำให้กล้ามเนื้อภายในเป็นอัมพาต

อาการ

ภาวะเสียสมดุลกระ-ด่าง

Metabolic acidosis

  1. มีกรดเกิน
  2. สูญเสีย HCO3 ออกจากร่างกาย
  • หายใจเร็วแรง
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชัก

Metabolic alkalosis

  1. ได้รับด่างมากเกินไป
  2. เสียกรดออกจากร่างกาย
  3. ไตเพิ่มการสร้างHCO3
  4. ไตเพิ่มการดูดกลับHCO3
    และเพิ่มการขับH
  • หายใจช้า ตื้น
  • กล้ามเนื้อกระตุก
  • ชักเกร็งแบบ tetany

Respiratory acidosis

  1. Hypovrntilation
  2. mismatch of V/Q
  • หายใจลำบาก
  • หายใจเบาตื้น
  • เขียว
  • dysrhymia

Respiratory alkalosis

  1. ระบบประสาทส่วนกลางทำงานมากขึ้น
  2. ตัวรับเคมีส่วนปลายถูกกระตุ้น
  3. การกระตุ้นตัวรับอื่นๆในปอด
  • หายใจเร็วลึก
  • เกร็ง มือจีบ

อาการ

อาการ

อาการ

อาการ