Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กล่องเสียงและหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute laryngotracheobronchitis, viral…
กล่องเสียงและหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute laryngotracheobronchitis, viral croup)
ความหมาย
Acute laryngotracheobronchitis หรือ viral croup เป็นโรคที่เกิดจาก การติดเชื้อของทางเดินหายใจในเด็กที่มีการอักเสบและบวมของกล่องเสียง หลอดคอ และหลอดลมโดยเฉพาะที่ตำแหน่งใต้กล่องเสียง (subglottic region) ทำใหเ้กิดภาวะอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบนแบบเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะไอเสียงก้อง (barking cough), มีเสียงแหบ (hoarseness), หายใจได้ยินเสียง stridor ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรงและหายได้เอง
สาเหตุ
เชื้อที่พบเป็นสาเหตุส่วนใหญ่คือไวรัสที่พบบ่อยที่สุด คือ parainfluenza viruses (type 1-3) พบได้ร้อยละ 50-75 ของผู้ป่วยโรคนี้
ไวรัสอื่นๆ ที่พบเป็น สาเหตุ ได้แก่ influenza A และ B, respiratory syncytial virus (RSV), human metapneumovirus, human bocavirus, human coronavirus (HCoV-NL63), rhinovirus, adenovirus, enterovirus, measles และ herpes simplex type 1
เชื้อแบคทีเรียอาจเป็นสาเหตุของ croup ได้แต่พบน้อย ได้แก่ Mycoplasma pneumoniae ซึ่งมักพบในเด็กโตและอาการไม่รุนแรงหรือเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน (superimposed infection) เช่น Streptococcus pyogenes, Streptococcus pneumoniae, Staphylococcus aureus, Haemophilus influenzae และ Moraxella catarrhalis
ระบาดวิทยาของโรค
พบบ่อยในเด็กอายุระหว่าง 6 เดือน -3 ปี อาจพบได้ในเด็กที่อายุน้อยกว่า 3 เดือนและเด็กโตที่อายุระหว่าง12-15 ปี เด็กชายพบได้มากกว่า เด็กหญิงในอัตราส่วน 1.4:11 ระยะฟักตัวของโรคประมาณ 2-6 วัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ (ร้อยละ 85) มีอาการเล็กน้อย น้อยกว่าร้อยละ 5 ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยที่รับการรักษาในโรงพยาบาลเพียงร้อยละ 1-3 ที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ โรคนี้มีอัตราเสียชีวิตต่ำ มีผู้ป่วยที่เสียชีวิตประมาณรอ้ยละ 0.5 ของผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และประมาณร้อยละ 5 ของผู้ป่วย ที่มีอาการกลับเป็นซ้ำ
ลักษณะทางคลินิก
ผู้ป่วยมีอาการของโรคหวัด เช่น น้ำมูก ไอเล็กน้อย และไข้ต่ำๆ (บางรายอาจมีไข้สูงถึง 40ํ ํC) นำมาก่อนประมาณ 12-48 ชั่วโมง
หลังจากนั้นจะมีอาการ ไอเสียงก้อง เสียงแหบ และหายใจได้ยินเสียง stridor ซึ่งมักเกิดในช่วงหายใจ เข้า อาการมักเป็นมากขึ้นในเวลากลางคืน ขณะกระสับกระส่ายหรือร้องไห้มาก
ในรายทมี่อีาการรนุแรงมากจะมอีาการหายใจลำบากและตรวจ พบอาการแสดงตอ่ไปนี้ ได้แก่ หายใจเร็ว, หัวใจเต้นเร็ว, จมูกบาน (nasal flaring), อกบุ๋ม (chest-wall retractions), ได้ยินเสียง stridor ทั้งในชว่งหายใจเข้าและออก (continuous หรือ biphasic stridor), กระสับกระส่าย และมีอาการเขียวได้
การวินิจฉัยโรค
ได้จากประวัติ อาการและอาการแสดงเป็นสำคัญ
มักไม่ต้องอาศัยการถ่ายภาพรังสีบริเวณคอ ยกเว้นในรายที่สงสัยภาวะสูดสำลักวัตถุแปลกปลอม หรือมี ข้อสงสัยในการวินิจฉัยโรค หรือผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาเบื้องต้น
ภาพถา่ยรังสีบริเวณคอในท่าตรง (AP view) จะพบลักษณะตีแคบบริเวณ subglottic (steeple sign หรือ pencil sign) สว่นภาพถ่ายรังสีคออด้านข้าง (lateral view) จะพบลักษณะโป่งพองบริเวณ hypopharynx (ballooning hypopharynx) และไม่เห็น air column ของหลอดลมคอส่วนต้นเนื่องจากมีการบวมของเนื้อเยื่อ บริเวณกล่องเสียงและใต้กล่องเสียง
การรักษา
การรักษาทั่วไป
ดแูลให้ผู้ป่วยร้สูึกสบายที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนการตรวจร่างกายต้องไม่ทำให้ผู้ป่วยหวาดกลัวหรือกระสับกระส่าย วิธีที่แนะนำคือ ให้ผู้ป่วยนั่งบนตัก ผู้ปกครองหรือให้อุ้มเพื่อป้องกันอาการของ croup ที่อาจเป็นรุนแรงขึ้น ในขณะที่ผู้ป่วยร้องไห้
พิจารณาให้ออกซิเจนในผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องออกซิเจนในเลือด (SpO2 < 92%) และผู้ป่วย ทุกรายที่มีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นรุนแรง วิธีการ ที่แนะนำ คือ การให้ออกซิเจนแบบพ่นใกล้จมูก (blow-by oxygen) เนื่องจาก ไม่ต้องมีอุปกรณ์ติดตัวผู้ปกครองสามารถดูแลใกล้ชิดได้
ในระหว่างให้ออกซิเจนแม้จะแก้ไขภาวะ hypoxemia แล้ว ควรเฝ้าระวังว่าผู้ป่วยอาจมีภาวะหายใจล้มเหลวจากการอุดกั้นทางเดินหายใจที่เป็นมากขึ้นได้
ยาลดไข้อาจช่วยให้ผู้ป่วยไข้ลดลงและรู้สึกสบายขึ้น
การใช้ยาเพื่อลดการบวมของทางเดินหายใจ
Corticosteroids เป็นยาหลักในการรักษา croup ทุกระดับความรุนแรงออกฤทธิ์ลดการสรา้ง inflammatory mediators ทำให้การรั่วของสารน้ำและการขยายตัวของหลอดเลือดลดลง จึงมีผลลด subglottic edema
Nebulized epinephrine เป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็ว ช่วยลดการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบนโดยทำให้หลอดเลือดหดตัว ลด hydrostatic pressure เพิ่มการดูดกลับของสารน้ำ จึงมีผลลดการบวมของทางเดินหายใจ