Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Acute respiratory distress syndrome (ARDS) ภาวะวิกฤติทางระบบการหายใจ…
Acute respiratory distress syndrome (ARDS) ภาวะวิกฤติทางระบบการหายใจ
ภาวะวิกฤติทางระบบการหายใจ
เกิดจากมีการอักเสบและทำลายเนื้อปอดทั้งสองข้างอย่างเฉียบพลันทำให้เกิดความผิดปกติของการซึมผ่านของหลอดเลือดปอด (pulmonary vascular permeability) มีอาการและอาการแสดงของภาวะปอดบวม ทำให้สูญเสียเนื้อปอดในส่วนที่เป็นลม
อาการ
หายใจลำบาก หายใจเร็ว หอบเหนื่อย
กล้ามเนื้ออ่อนแรง ร่างกายอ่อนแรง
ผิวหนังหรือเล็บเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือสีเขียว เนื่องจากภาวะขาดออกซิเจน
ไอแห้ง ๆ
มีไข้ ปวดศีรษะ
ความดันโลหิตต่ำ
สับสน รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง
สาเหตุ
ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ (Sepsis)
เป็นภาวะการติดเชื้อในกระแสเลือดที่รุนแรง และเป็นสาเหตุที่พบว่าทำให้เกิด ARDS บ่อยที่สุด
ปอดบวมอย่างรุนแรง
ในรายที่มีอาการปอดบวมรุนแรงมาก มักส่งผลกระทบต่อกลีบปอดทั้ง 5 กลีบ และเป็นสาเหตุทำให้เกิด ARDS ได้
การสูดดมสารพิษที่เป็นอันตราย
การสูดหายใจเอาควันหรือสารเคมีที่มีความเข้มข้นสูงเข้าไปอาจทำให้เกิดภาวะ ARDS ได้
อุบัติเหตุกระทบกระเทือน
อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บอย่างรุนแรงบริเวณศีรษะและหน้าอก โดยสามารถสร้างความเสียหายกับปอดโดยตรง หรืออาจส่งผลกระทบต่อสมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการหายใจ
1) ARDS ที่เกิดจากปอดโดยตรง (direct lung injury)
ที่พบบ่อยตามลำดับ คือ pneumonia, aspiration of gastric contents, lung contusion, toxic inhalation และ near drowning
2) ARDS ที่เกิดจากปัจจัยภายนอกปอด (indirect lung injury)
ที่พบบ่อยตามลำดับ คือ severe sepsis, blood transfusion, trauma, cardiopulmonary bypass และ pancreatitis3
การวินิจฉัย ARDS
การเอกซเรย์ทรวงอก เป็นการตรวจสอบว่าของเหลวในปอดส่วนต่าง ๆ มีปริมาณเพียงใด และหัวใจมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือไม่ รวมถึงอาจใช้การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือซีทีสแกน (CT Scan)
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ แพทย์จะนำตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยไปตรวจระดับออกซิเจน หรืออาจตรวจสอบการติดเชื้อและตรวจหาภาวะโลหิตจาง หากแพทย์สงสัยว่าผู้ป่วยเกิดการติดเชื้อที่ปอด อาจตรวจสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจเพิ่มเติม เพื่อดูสาเหตุของการติดเชื้อนั้น
การตรวจหัวใจ อาการของ ARDS จะคล้ายกับอาการของโรคหัวใจบางชนิด แพทย์จึงจำเป็นต้องตรวจการทำงานของหัวใจเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
พยาธิสภาพอธิบายได้จาก 4 กลไก
1) Barotrauma เกิดจากมีแรง ดันในถุงลมมาก เกินไปจนเกิดการฉีกขาดของถุงลม
2) Volutrauma เกิดจากถุงลมมีปริมาตรของก๊าซ (tidal volume [VT]) มากเกินไป จนถุงลมถูกถ่างขยายเกิดภาวะ alveolar overdistention
3) Atelectrauma เกิดจากการใช้ positive end expiratory pressure (PEEP) ที่ไม่ เหมาะสมทำให้มีการเปิดปิดของถุงลมในช่วงการหาย ใจเข้าออกสลับกันไปมา เกิดความเค้นเฉือน (shear stress) ต่อผนังถุงลมและเกิดการอักเสบตามมา และ
4) Biotrauma ความผิดปกติที่กล่าวมาทั้ง 3 ชนิดทำให้ มีการหลั่ง Inflammatory cytokines เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ เกิดภาวะ lung injury ได้
การรักษา
1.การรักษาด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจ
1.1. Lung protective ventilation strate gies (low tidal volume ventilation) ผู้ป่วยARDS หากตรวจปอดโดยการเอกซเรย์ คอมพิวเตอร์จะพบความผิดปกติไม่เท่ากัน เมื่อผู้ป่วยนอนหงายปอดที่อยู่ด้านหน้าและยอดปอดเป็นปอดที่ค่อนข้างปกติ ปอดที่อยู่ตรงกลางเป็น บริเวณท่ีมีการแฟบของถุงลมแต่ยังคงเปิดออก ได ้สว่นปอดทอี่ยดู่า้นหลงัและชายปอดมคีวามผดิ ปกติมากที่สุดพบการแฟบและพบปื้นขาว (con- solidation)
1.2. การใช้แรงดันบวกค้างในขณะสิ้นสุด การหายใจออก (positive end expiratorypressure [PEEP]) ในผู้ป่วย ARDS มี วัตถุประสงค์เพื่อถ่างถุงลมที่แฟบให้กลับมา ทำงานได้ตามปกติ เพิ่ม functional residualcapacity (FRC) คงไว้ซึ่งการแลกเปลี่ยนก๊าซ ทเี่พยีงพอและลดแรงในการหายใจ จากการศกึษา พบว่าการใช้ PEEP ไม่มีผลลดอัตราตายของผู้ ปว่ยโดยรวม แตใ่น moderate to severe ARDS การใช้ higher PEEP มีอัตราการรอดชีวิตสูงกว่า ขณะที่ mild ARDS หรือ non ARDS กลับ มีแนวโน้มทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้
การรักษาดว้ยการไม่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
2.1. การใช้ยาที่ออกฤทธิ์ขัดขวางการสื่อ ประสาทที่ระดับ neuromuscular junction (Neu- ro muscular blocking agent [NMBA]) ผู้ป่วยmild ARDS ที่ความผิดปกติในการแลกเปลี่ยน ก๊าซไม่มาก ควรให้ผู้ป่วยหายใจด้วยตนเองผ่าน เครื่องช่วยหายใจ (assisted) โดยพิจารณาให้ยา นอนหลับหรือยาแก้ปวดในขนาดต่ำ
2.2. การนอนคว่ำ (prone position) การจัดท่าผู้ป่วย ARDS ในทา่นอนหงายราบ (supine position) จะส่งผลให้ปอดด้านหลังแฟบลงจากการถูกกดทับด้วยน้ำหนักของปอดและน้ำหนักของหัวใจ
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะโพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศ (Pneumothorax)
ลิ่มเลือด
การติดเชื้อ
โรคพังผืดในปอด (Pulmonary Fibrosis)
เกิดปัญหาในการหายใจ