Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ผู้ป่วยชายอายุ 2 ปี Dx. Viral pneumonia, U/D G6PD Deficiency (U/D G6PD…
ผู้ป่วยชายอายุ 2 ปี Dx. Viral pneumonia, U/D G6PD Deficiency
CC : หายใจหอยเหนื่อย ไอมีเสมหะ ไข้สูง 1 วันก่อนมาโรงพยาบาล
PI : 1 วันก่อนมาโรงพยาบาล ไข้ ไอมีเสมหะบ่อยครั้ง มีน้ำมูกใส หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนเป็นเศษอาหารและนม 2 ครั้ง ถ่ายเหลว 2 ครั้ง งอแง มารดาจึงพาไป รพ. ค่ายประจักษ์ศิลปาคม อาการไม่ดีขึ้น จึง refer มา รพ.ศูนย์อุดรธานี
Viral pneumonia
ปอดบวม หรือปอดอักเสบ (pneumonia) เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของ เนื้อปอดบริเวณหลอดลมฝอยส่วนปลาย (terminal และ respiratory bronchiole) ถุงลม (alveoli) และเนื้อเยื่อรอบถุงลม (interstitium) ซึ่งมีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส
-
อาการ
- มีอาการหายใจลำบาก หายใจอกบุ๋ม จมูกบาน ในรายที่เป็นมากอาจตรวจพบริมฝีปากเขียว
- ฟังเสียงปอด มักได้ยินเสียง fine หรือ medium crepitation อาจได้ยิน
เสียง wheeze ร่วมด้วย ในกรณีที่เป็นปอดบวมจากไวรัสหรือ mycoplasma หรือได้ยินเสียง bronchial breath sound
- ไข้ ไอ หอบ หายใจเร็วกว่าปกติ
การวินิจฉัย
-
-
-
-
การเพาะเชื้อแบคทีเรียจากเลือด (hemoculture) ควรทำเฉพาะในรายที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด
การรักษา
-
-
-
ปอดบวมจากเชื้อไวรัส ไม่มียารักษาที่จำเพาะ การให้ Supportive care รวมทั้งการบำบัดทางระบบหายใจเป็นสิ่งสำคัญจะจะช่วยให้ผู้ป่วยหายจากโรค โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน
-
CASE
อาการสำคัญ คือ ไข้ ไอ หอบ หายใจเร็วกว่าปกติ RR 40-50 ครั้ง/นาที, ฟังปอดได้ยินเสียง crepitation หายใจมี Suprasternal retration กับ Subcostal retraction
หายใจหน้าอกบุ๋ม, WBC 10.61
CXR พบ perihilar infiltration
การรักษา
- Para Syrup 6 ml oral prn q 4-6 hr เพื่อลดไข้
- Cef-3 700 mg IV OD เนื่องจากมีการติดเชื้อปอด แพทย์ยังให้ ATB เพราะยังคิดว่าอาจเกิดจาการติดเชื้อแบคทีเรีย
- Azithomycin (200 mg/5 ml) 3 ml pc OD x 5 day เนื่องจากมีการติดเชื้อปอด แพทย์ยังให้ ATB เพราะยังคิดว่าอาจเกิดจาการติดเชื้อแบคทีเรีย
- AMG 3 ml oral pc tid pc เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการไอมีเสมหะ
- พ่น Ventolin 1 NB NB q 4 hr เพื่อขยายหลอดลม
- Beradual 1 NB q 4 hr เพื่อขยายหลอดลม และต้านการหดตัวของถุงลมปอด
- Tamiflu 30 mg pc bid x 5 วัน เพื่อรักษาการติดเชื้อไวรัส
-
- 5% DN/3 1,000 ml rate 50 ml/hr
U/D G6PD Deficiency
- (glucose6-phosphate dehydrogenase) ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในขบวนการสร้างพลังงานของน้ำตาลกลูโคส (pentose phosphate pathway) ที่จะเปลี่ยน NADP ไปเป็น NADPH ซึ่งจะไปทำปฏิกิริยากับเอนไซม์ Glutathione reductase และ Glutathione peroxidase ต่อไป ส่งผลให้เกิดการทำลายสารอนุมูลอิสระ
สาเหตุ
เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมของโครโมโซมเพศชนิดโครโมโซมเอกซ์ มีการถ่ายทอดยีน G6PD เป็นแบบ X-linked recessive จากมารดาโดยมีโอกาสที่ลูกชายจะเป็นโรคร้อยละ 50 ลูกสาวจะเป็นพาหะร้อยละ 50
อาการ
ในภาวะปกติจะไม่มีอาการ แต่จะมีอาการซีดเมื่อมีเหตุปัจจัยภายนอกที่เป็นสิ่งกระตุ้น ได้แก่ การติดเชื้อต่าง ๆ
-
การวินิจฉัย
-
ตรวจดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เช่น ตรวจเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว ฮีโมโกลบิน และฮีมาโทคริต เป็นต้น
-
ตรวจนับปริมาณเซลล์เม็ดเลือดแดงตัวอ่อน (Reticulocyte Count) เพื่อดูอัตราการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงจากไขกระดูก
-
-
ตรวจวัดระดับบิลิรูบิน แฮปโตโกลบิน หรือแลคเตตดีไฮโดรจีเนส เพื่อดูอัตราการสลายตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดงในหลอดเลือด
การรักษา
หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่อาจส่งผลให้เกิดการสลายตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดง เช่น หลีกเลี่ยงอาหาร ยา หรือสารเคมีบางชนิดที่อาจทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงสลายตัว
G6PD Deficiency เป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมจึงไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด แต่มีแนวทางการรักษาและควบคุมอาการไม่ให้แย่ลง
-