Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่เป็น โรคทางเดินหายใจ ncd_icon_lung…
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่เป็น
โรคทางเดินหายใจ
โรคหอบหืด (Bronchial Asthma)
ความหมาย
เป็นหนึ่งในกลุ่มโรค Obstructive Lung Disease ที่มีการขัดขวางทางเดินหายใจ
เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ โดยการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อเรียบของหลอดลมหลั่งมูกมาก
สาเหตุ
มีการกระตุ้น mast cell ให้มีการหลั่ง histamine ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของหลอดลมหดตัวหลั่งมูกมากเยื่อบุบวม
อาจเกิดจากปัจจัยภายนอกร่างกาย (extrinsic) เช่นปฏิกิริยาแพ้ต่อสารต่างๆ (allergens)
ปัจจัยภายใน (intrinsic) พบร่วมกับการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนหรือปอดอักเสบ
ปัจจัย
พันธุกรรม
สภาวะแวดล้อม
การได้รับสารภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ไร ฝุ่นเกสรดอกไม้ เขม่าควัน ขนสัตว์
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ การสูบบุหรี่
ความเครียดทางอารมณ์
พยาธิสภาพ
ทางเดินหายใจไวต่อสิ่งกระตุ้นมา>>ได้รับสารก่อภูมิแพ้จากภายนอก >>การหดเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบของหลอดลม>>การอักเสบ
ระยะแรก (earty phase) เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาเป็นวินาที
ระยะหลัง (late phase) เกิดขึ้นหลังจากระยะแรกหลายชั่วโมงหรือนานอีกหลายวัน
การและอาการแสดง
หายใจลำบาก ไอมีเสมหะ หายใจออกเสียงดังวีด (wheezing)
ไอเกิดและมีเสมหะขังอยู่เสมหะอุดกั้นทางเดินหายใจ
ต้องใช้แรงในการหายใจเพิ่มขึ้นเป็น 10-20 เท่าของปกติ
ขณะหายใจลำบากจะต้องใช้กล้ามเนื้ออื่น ๆ ช่วย
หายใจเร็วชีพจรเร็วเหงื่อออกมาก
ผลต่อการตั้งครรภ์
มารดา
การแท้ง
การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
เสี่ยงเสียชีวิตจาก Status Asthmaticus
pre-eclampsia เำิมขึ้นเล็กน้อย
ทารก
ทารกคลอดก่อนกำหนด
ทารกตายปริกำเนิด
ทารกน้ำหนักตัวน้อย
ทารกมีภาวะพร้องออกซิเจนแรกคลอด
การวินิจฉัย
1 การซักประวัติ
อาการหอบหืดความรุนแรง
ระยะเวลาที่เป็น
ยาที่ใช้เป็นประจำ และประวัติโรคภูมิแพ้
2 การตรวจร่างกาย
จมูกบาน
การใช้กล้ามเนื้อ accessory ช่วยในการหายใจ
หายใจออกได้ยินเสียง Wheezing
เล็บหรือปากเขียว
มีไข้
3 การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
CBC
ตรวจย้อมเสมหะ gram, stain
ตรวจ arterial blood gas
การพพยาบาล
1 ค้นหาสาเหตุหรือปัจจัยส่งเสริมให้เกิดอาการของโรค
2 ในขณะที่มีอาการของโรครุนแรงควรตรวจดู arterial blood gas ถ้าไม่ดีขึ้นอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
3 การใช้ยา
1 Sympathonmimetic ได้แก่ ephedrine. xterbutaline, JsoproterenoL และ terbutaline (bricany)
2 Theophilline กล้ามเนื้อเรียบของหลอดลมคลายตัวยังมีฤทธิ์ยับยั้งการปล่อย histamine
3 Corticosteroids มักใช้ในรายที่มีอาการหอบหืดรุนแรงหรือในรายที่ใช้ยาขยายหลอดลมอื่น ๆ ไม่ได้ผล
การยุติการตั้งครรภ์มี การทำแท้งการผ่าตัดทำคลอดทางหน้าท้อง
ในระยะคลอดการใช้ Oxytocin ไม่มีอันตราย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ morphine อาจใช้ pethidine epidural anesthesia แทนการดมยาสลบ ช่วยคลอดโดยใช้คีมหรือเครื่องดดสุญญากาศ
ดูแลให้ได้รับน้ำมากๆทั้งทางปากและทางหลอดเลือดดำ ยาละลายเสมหะ ยาพ่นขยายหลอดลม
จัดท่านอนเพื่อให้หายใจสะดวกเช่นท่านอนหัวสูง ดูแลให้ได้รับออกซิเจน
วัณโรค (Pulmonary Tuberculosis)
ความหมาย
เป็นโรคจากการติดเชื้อ Acid-Fast Bacillus mycobacterium Tuberculosis ติดต่อโดยระบบทางเดินหายใจ
อาการ
มีไข้ต่ำ ๆ
อ่อนเพลีย น้ำหนักลดลง ซูบผอม
เหงื่ออกตอนกลางคืน ไอเรื้อรัง
มีเสมหะบางครั้งไม่มี หรือมีเสมหะปนเลือด
การวินิจฉัย
ซักประวัติ
มีประวัติใกล้ชิดกับคนที่เป็นวัณโรคมาก่อน
เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
การตรวจร่างกาย
มีอาการและอาการแสดงของวัณโรคปอด
ทดสอบ PPD หรือทดสอด tuberculin ถ้าเกิดรอยนูนขนาดใหญ่กว่า 1 cm ถือว่าได้ผล + จะต้องตรวจ X-Ray ต่อไป
ตรวจหาเชื้อ tuberculosis bacilli ในเสมหะ โดยการย้อม acid-fast
ตรวจเสมหะพบเชื้อ โดยเก็บตอนเช้าติดต่อกัน 3 วัน
X-Ray โดยปิดกั้นบริเวณท้อง (Shield Abdomen) ในรายที่มีอาการของวัณโรคปอด
ผลต่อการตั้งครรภ์
มารดา
แท้งเอง
คลอดก่อนกำหนด
ทารก
เชื้อผ่านสู๋รก>>ทารกเป็นวัณโรคแต่กำเนิด
โตช้าในครรภ์
ตายปริกำเนิด
Apgar score ต่ำ
เกณฑ์พิจารณาให้ยา
1 ตรวจเสมหะพบ acid-fast bacillus โดยการย้อมหรือเพาะเชื้อ
2 ผลการตรวจภาพถ่ายรังสีปอดน่าสงสัยและเปลี่ยนแปลงในทางที่เลวลงแม้การตรจเสมหะไม่พบ bacillus
3 มีอาการที่สงสัยเช่นไข้ไอผลการตรวจภาพถ่ายรังสีน่าสงสัย
มีพยาธิสภาพที่อวัยวะอื่นนอกจากปอด เช่น ต่อมน้ำเหลืองโต แม้ภาพ X-Ray จะปกติ
วิธีการให้ยาวัณโรคปอด
1 รายที่โรครุนแรง
พบโพรงในปอด พบเชื้อ Acid-fast bacilli ในเสมหะ
Isoniazid(INH) 300 mg/day +Ethabutol 15 mg/kg/day+Rifampici 600 mh /day อย่างน้อย 9 เดือน หรือจนครบ 6 เดือนไม่พบเชื้อ
2 ไม่รุนแรงมาก
ไม่พบโพรงในปอด มี Infiltration ในปอดเพียงแห่งเดยว
Isoniazid(INH) 300 mg/day +Ethabutol 25 mg/kg/day (ในช่วง 1 เดือนแรก) และลดลงเป็น 15 mg/kg/day นาน 18 เดือน
3 ทดสอบ Tuberculin ได้ผล + ชนิด recent convertor ไม่พบเชื้อวัณโรค X-Ray ปกติ
Isoniazid(INH) 300 mg/day นาน 6-12 เดือน
ระหว่างการรักษาทั้ง 3 วิธีจะต้องให้ Piridoxone 50 mg/day ทุกวัน เพื่อป้องกันภาวะ Neurotoxicity ของ INH
ไม่ควรใช้ Streptomycin เนื่องจากอาจทำให้เกิด Ototoxicity ต่อทารกในครรภ์ มีผลต่อ nerve คู่ที่ 8 มีผลต่อการได้ยิน
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
เน้นวิธีการรับประทานยาตามแผนการรักษาของแพทย์อย่างเคร่งครัด
งดเว้นสิ่งเสพติด เช่น เหล้า บุหรี่
แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เน้น ปลา นม ไข่ เพิ่มอาหารที่มีวิตามินและธาตุเหล้กสูง ผลไม้ เพื่อว่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
สวมผ้าปิดจมูก ป้องกันการแพร่เชื้อสู่สมาชิกในครอบครัว
จัดสิ่งแวดล้อมในบ้านให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อับทึบ เปิดหน้าต่างให้มีแสงสว่างเข้าถึง นำเครื่องนอนออกตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค
เน้นการมาตรวจตามแพทน์นัด เพื่อประเมินการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ และประเมินภาวะสุขภาพทารกในครรภ์ด้วย
ระยะคลอด
ดูแลให้ผู้คลอดพักผ่อนให้มากที่สุด ใช้แรงน้อยที่สุด หลีกเลี่ยงการทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
ถ้าผู้คลอดได้รับยาระงับประสาทและยาระงับความเจ็บปวด ให้ดูแลปฏิกิริยาสะท้อนในการไอของผู้คลอดด้วย เพราะปฏิกิริยานี้จะลดลง ผู้คลอดจะไม่สามารถไอเพื่อระบายเสมหะออกได้
ดูแลให้ได้รับสารน้ำและยาตามแผนการรักษาของแพทย์
หลังคลอดรกแล้ว ดูและและคลีงมดลูกให้หดรัดตัวดี ป้องกันการตกเลือด
ฟัง FHS และประเมินความก้าวหน้าของกาคลอดเป็นระยะเพื่อประเมินสภาวะของทารกในครรภ์
ระยะหลังคลอด
หลังคลอดควรแยกทารกจากมารดา จนกระทั่งการเพาะเชื้อจากเสมหะของมารดาได้ผลลบ
ทารกแรกเกิดทุกคนควรได้รับการตรวจ Tuberculin skin test เมื่อแรกเกิด พร้อมกับให้ INH และ rifampicin ทันทีหลังคลอด เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากมารดา และทำ Tuberculin skin test ซ้ำอีกครั้งเมื่ออายุ 3 เดือน
ในกรณีที่ไม่สามารถแยกทารกจากมารดาได้ แนะนำมารดาไม่ไอ จาม หรือหายใจรดหน้าทารก ควมสวมผ้าปิดจมูกเสมอป้องกันการแพร่เชื้อสู่ทารก
วัคซีน BCG ที่ทารกแรกเกิดได้รับมีประโยชน์ในการป้องกันวัณโรคชนิดแพร่กระจายและวัณโรคเยื่อหุ้มสมอง แต่ไม่ช่วยป้องกันวัณโรคในผู้ใหญ่
นางสาวมัลลิกา คำทา 590301090 Sec.D 5