Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ปิยนันท์ พรหมรักษ์ 6208010018 (บทที่ 4 ระบบอินเตอร์เน็ตและการใช้งาน…
ปิยนันท์ พรหมรักษ์ 6208010018
บทที่ 1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกัคอมพิวเตอร์
ประมาณ 2600 ปี ก่อนคริสตกาล ชาวจีนได้เป็นคนประดิษฐ์ลูกคิด
พ.ศ. 2158 จอห์น เนเพีย (John Napier)ประดิษฐ์
Napier’s Bones มีลักษณะคล้ายกับตารางสูตรคูณในปัจจุบัน
พ.ศ.2173 วิลเลียม ออตเทรต (William Oughtred)
ประดิษฐ์ไม้บรรทัดคำนวณ ต่อมากลายเป็นพื้นฐานของการสร้างคอมพิวเตอร์แบบอนาล็อก
พ.ศ. 2185 เบลส์ ปาสคา(Blaise Pascal) ออกแบบเครื่องช่วยในการคำนวณโดยใช้หลักการหมุนของฟันเฟืองล
พ.ศ.2288 โจเซฟ แมรี่ แจคคาร์ด
(Joseph Marie Jacquard)
ประดิษฐ์ เครื่องทอผ้าใช้คำสั่งจากบัตรเจาะรูควบคุมการทดผ้า ให้มีสีและลวดลายต่างๆ
พ.ศ.2365 ชาร์ล แบบเบจ(Charles Babbage) ประดิษฐ์เครื่องหาผลต่าง เพื่อใช้คำนวณ พิมพ์ค่าทางตีโกณมิติและฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์การทำงานของเครื่องนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนเก็บข้อมูล ส่วนคำนวณ และส่วนควบคุม
เลดี้ เอดา ออคุสตา เลฟเลค( Lady
Ada Augusta Lovelace ) ได้เขียนวิธีการใช้เครื่องคำนวนของชาร์ล แบบเบลเพื่่อแก้ปัญหาทางงคณิณเล่มหนึ่ง
จอร์จ บูล( George Boole) อธิบายหลักเหตุผลทางตรรกวิทยาโดยใช้สภาวะเพียงสองอยา่งคือ True (On) และ False (Off) นำมาดัดแปลงให้เข้ากับวงจรไฟฟ้า ซึ่งมีสภาวะ2 แบบ คือเปิด , ปิด
1 more item...
จุดกำเนิดคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ยุคที่ 1 (พ.ศ. 2489-2501) "ยุคหลอดสุญญากาศ"
ลักษณะเฉพาะของเครื่องคอมพิวเตอร์ยุคที่ 1
ยุคที่ 2 (พ.ศ.2502-2506) "ยุคทรานซิสเตอร์"
ยุคที่ 3 (พ.ศ.2507-2512) "ยุควงจรรวม"
ยุคที่ 4 (พ.ศ.2513-2532) "ยุควีแอลเอสไอ"
ยุคที่ 5 (พ.ศ.2533-ปัจจุบัน) "ยุคเครือข่าย"
ความหมายของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ (Computer) หมายถึงอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถเก็บและจำข้อมูลรวมถึงชุดคำสั่งในการทำงานได้ทำให้สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ ด้วยอัตราความเร็วที่สูงมาก ใช้เพื่อประโยชน์ในการคำนวณหรือทำงานต่าง ๆ ได้เกือบทุกชนิดทุกประเภทและแสดงผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบต่าง ๆได้อย่างรวดเร็วถูกต้อง
คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์
การทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
การทำงานด้วยความเร็วสูง
ความถูกต้องแม่นยำเชื่อถือได้
การเก็บข้อมูลได้ในปริมาณมาก
การสื่อสารเชื่อมโยงข้อมูล
ประเภทของคอมพิวเตอร์
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มีสมรรถภาพที่ต่ำกว่าซูปเปอร์คอมพิวเตอร์มาก แต่ยังมีความเร็วสูง และมีประสิทธิภาพสูงกว่ามินิคิมพิวเตอร์ หรือ ไมโครคอมพิวเตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์สามารถให้บริการผู้ใช้จำนวนหลายร้อยคนพร้อม ๆ
มินิคอมพิวเตอร์ คือ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ๆ ซึ่งสามารถบริการผู้ใช้งานได้หลายคนพร้อม ๆ กัน แต่จะไม่มีสมรรถภาพเพียงพอที่จะบริการผู้ใช้ในจำนวนที่เที่ยบเท่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้
ไมโครคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก หรือเรียกว่า พีซี (Personal Computet : PC) สามารถใช้เป็นเครื่องต่อเชื่อมในเครือข่าย หรือใช้เป็นเครื่องปลายทาง
คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ
โน้ตบุ๊ก
แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์
1 more item...
ซูปเปอร์คอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วมาก และมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ชนิดอื่นๆ เครื่องซูปเปอร์คอมพิวเตอร์มีราคาแพงมาก มีขนาดใหญ่
องค์ประกอบคอมพิวเตอร์
ฮาร์ดแวร์ หมายถึง อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น
ซอฟต์แวร์ หมายถึง โปรแกรม (Program) หรือชุดคำสั่งที่ควบคุมให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ข้อมูล/สารสนเทศ คือ ข้อมูลต่างๆ ที่นำมาให้คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผล คำนวน หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้มาเป็นผลลัพธ์ที่ต้องการ
บุคลากร คือ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต่างๆ และผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในหน่วยงานนั้นๆ บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์นั้น มีความสำคัญมาก เพราะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ นั้นจะต้องมีการจัดเตรียมเปลี่ยนระบบ จัดเตรียมโปรแกรมดำเนินงานต่างๆ หลายอย่าง ซึ่งไม่สามารถทำด้วยตนเองได้
กระบวนการทำงานเป็นขั้นตอนการทำงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์หรือสารสนเทศจากคอมพิวเตอร์ในการทำงานกับคอมพิวเตอร์จำเป็นที่จะต้องให้ผู้ใช้เข้าใจขั้นตอนการทำงาน
บทที่2
ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์
ฮาร์ดแวร์ หมายถึง ส่วนที่ประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ที่เราสามารถมองเห็นและสัมผัสได้
จำแนกตามหน้าที่ของฮาร์ดแวร์สามารถแบ่งเป็นส่วนสำคัญ 5 ส่วน
หน่วยความจำ (Memory Unit) ทำหน้าที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่งที่ส่งมาจากหน่วยรับข้อมูล เพื่อเตรียมส่งไปประมวลผลยังหน่วยประมวลผลกลาง และเก็บผลลัพธ์ที่ได้มาจากการประมวลผลแล้วเพื่อเตรียมส่งไปยังหน่วยแสดงผล
หน่วยความจำหลัก
รอม (Read Only Memory - ROM) เป็นหน่วยความจำที่มีโปรแกรมหรือข้อมูลอยู่แล้ว สามารถเรียกออกมาใช้งานได้แต่จะไม่สามารถเขียนเพิ่มเติมได้
แรม (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำที่สามารถเก็บข้อมูลได้เมื่อมีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงเท่านั้น
หน่วยความจำรอง
การ์ดเมมโมรี (Memory Card) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่มีขนาดเล็ก
ซีดี (Compact Disk - CD) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลแบบดิจิทัล เป็นสื่อที่มีขนาดความจุสูง
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) ทำหน้าที่รับโปรแกรมคำสั่ง และข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
คีย์บอร์ด
เมาส์
สแกนเนอร์
แผ่นสัมผัส
กล้องดิจิทัล
หน่วยแสดงผล (Output Unit) ทำหน้าที่แสดงผลข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผล หรือผ่านการคำนวณแล้ว
จอภาพ
เครื่องพิมพ์
ลำโพง
อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ (Peripheral Equipment) เป็นอุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงเข้ากับคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากยิ่งขึ้
โมเด็ม
แผงวงจรเชื่อมต่อเครือข่าย
หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit - CPU) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการคำนวณทั้งทางตรรกะและคณิตศาสตร์ รวมทั้งการประมวลข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับ
หน่วยคำนวณและตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit : ALU) หน่วยคำนวณตรรกะ ทำหน้าที่เหมือนกับเครื่องคำนวณอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยทำงานเกี่ยวกับการคำนวณทางคณิตศาสตร์
หน่วยควบคุม (Control Unit) หน่วยควบคุม ทำหน้าที่ควบคุมลำดับขั้นตอนการประมวลผล รวมไปถึงการประสานงานกับอุปกรณ์นำเข้าข้อมูล อุปกรณ์แสดงผล และหน่วยความจำสำรองด้วย ซีพียูที่มีจำหน่ายในท้องตลาด
บทที่ 3
ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง ส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงเป็นเหมือนตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์
ประเภทของซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ระบบ คือซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับระบบ หน้าที่การทำงานของซอฟต์แวร์ระบบคือดำเนินงานพื้นฐานต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบัติการ
และตัวแปลภาษา
ดีไวซ์ไดเวอร์
ยูทิลิตี้
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ปัจจุบันมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานทางด้านต่าง ๆ ออกจำหน่ายมาก การประยุกต์งานคอมพิวเตอร์จึงกว้างขวางและแพร่หลาย
ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน เป็น Software ที่ใช้สำหรับงานเฉพาะด้าน
ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับงานทั่วไป โดยในซอฟต์แวร์ 1 ตัวมีความสามารถในการทำงานได้หลายอย่าง
การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ดิจิตอลคอมพิวเตอร์ การส่งสัญญาณในรูปของแรงกระตุ้นเป็นตัวเลข
คอมพิวเตอร์ทำงานด้วยภาษาเครื่อง
ระบบจำนวนที่มีเลขนับอยู่ 2 ตัวเลข (0และ1)หรือเลขฐานสอง
หน่วยความจุข้อมูลของคอมพิวเตอร์
บิต (bit) ย่อมาจาก binary digit คือตัวเลขในระบบฐาน 2 คือ 0 กับ 1 ในการประมวลผลและการเก็บข้อมูล บิต เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสารสนเทศ
ไบต์ (byte) เป็นหน่วยของสารสนเทศ ซึ่งประกอบด้วย จำนวนบิต 8 บิต
1 ไบต์(B) เท่ากับ 8 บิต(b )
1 กิโลไบต์(KB) เท่ากับ 1024 ไบต์(B)
1 เมกะไบต์(MB) เท่ากับ 1024 กิโลไบต์(KB)
1 กิกะไบต์(GB) เท่ากับ 1024 เมกะไบต์(MB)
1 เทระไบต์(TB) เท่ากับ 1024 กิกะไบต์(GB)
1 เพตะไบต์(PB) เท่ากับ 1024 เทระไบต์(TB)
1 เอกซะไบต์(EB) เท่ากับ 1024 เพตะไบต์(PB)
1 เซตตะไบต์(ZB) เท่ากับ 1024 เอกซะไบต์(EB)
1 ยอตตะไบต์(YB) เท่ากับ 1024 เซตตะไบต์(ZB)
วิวัฒนาการของภาษาคอมพิวเตอร์
ยุคที่1 ภาษาเครื่อง (First-Generation-Languages)
ภาษาเครื่อง เป็นภาษาในยุคเริ่มต้นของการโปรแกรมคำสั่งเครื่องคอมพิวเตอร์
ยุคที่ 2 ภาษาแอสแซมบลี (Assembly Languages)
ปัญหาการโปรแกรมคำสั่งด้วยภาษาเครื่องในยุคแรก ผู้ใช้ต้องจดจำรูปแบบภาษาเครื่องที่อยู่ในรูปของตัวเลขในระบบไบนารี่
ยุคที่ 3 ภาษาระดับสูง (Height Level Languages)
ภาษาระดับสูงเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการพัฒนาต่อจากภาษาในยุคที่ 2 โดยปรับปรุงรูปแบบการเขียนของภาษา
ยุคที่ 4 ภาษาระดับสูงมาก (Very High Level Languages)
เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบันอีกภาษาหนึ่ง เช่นเดียวกับภาษาระดับสูง
ยุคที่ 5 ภาษาธรรมชาติ (Fifth Generation Language)
เป็นภาษาที่ผสมผสานระหว่างระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) กับระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System)
บทที่ 9
จริยธรรม
และการรักษาความปลอดภัย
พรบ.คอมพิวเตอร์
มาตรา ๕
ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖
ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ ถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๗
ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๘
ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๙
ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น โดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๐
ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวน จนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๑
ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น โดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
จริยธรรมสังคมยุคสารสนเทศ :
จริยธรรมด้านคอมพิวเตอร์ หมายถึงหลักศีลธรรมที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ หรือควบคุมการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
จริยธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
1.เครื่องหมายการค้า
2.ลิขสิทธิ์
3.สิทธิบัตร
. การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)
คือการป้องกันการเข้าไปดำเนินการกับข้อมูลของผู้ใช้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็นการรักษาความลับของข้อมูล ตัวอย่างสิทธิในการใช้งานระบบเช่น การบันทึก การแก้ไข/ปรับปรุง และการลบ เป็นต้น
ประเด็นทางสังคมที่เกียวข้องกับคอมพิวเตอร์
การรักษาความปลอดภัย
การติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส หรือ แอนติไวรัส (อังกฤษ: antivirus software) เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่อคอยตรวจจับ ป้องกัน และกำจัดโปรแกรมคุกคามทางคอมพิวเตอร์หรือมัลแวร์ ซึ่งหมายถึง ไวรัสเวิร์ม โทรจัน สปายแวร์ แอดแวร์ และซอฟต์แวร์คุกคามประเภทอื่น ๆ
ไฟร์วอลล์ (Firewall) คือระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะทำหน้าที่เปิดและปิด การเข้าถึงจากภายนอก (เช่น จากอินเตอร์เน็ต) เข้าถึงเครือข่ายภายใน (เช่น เครือข่ายภายในองค์กร หรือคอมพิวเตอร์ส่วนตัว) ได้ อาจพูดได้ว่า Firewall ก็เหมือนยามหน้าประตูของคอมพิวเตอร์
การเข้ารหัสข้อมูลมีจุดประสงค์เพื่อรักษาความลับของข้อมูล ข้อมูลนั้นจะถูกเปิดอ่านโดยบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น หลักการของการเข้ารหัสข้อมูลคือแปลงข้อมูล (encrypt) ไปอยู่ในรูปของข้อมูลที่ไม่สามารถอ่านได้โดยตรง ข้อมูลจะถูกถอดกลับด้วยกระบวนการถอดรหัส (decryption)
บทที่8
ข้อมูลและการจัดการข้อมูล
ข้อมูล คือค่าของตัวแปรในเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณ ที่อยู่ในความควบคุมของกลุ่มของสิ่งต่าง ๆ ข้อมูลในเรื่องการคอมพิวเตอร์ (หรือการประมวลผลข้อมูล)
แหล่งข้อมูล
ข้อมูลภายใน
แหล่งข้อมูลภายใน เป็นแหล่งข้อมูลที่อยู่ภายในองค์กรทั่วไป ข้อมูลที่ได้มานั้นอาจมาจากพนักงานหรือมีอยู่แล้วในองค์กร เช่น ยอดขายประจำปี ข้อมูลผู้ถือหุ้น
ข้อมูลภายนอก
แหล่งข้อมูลภายนอก เป็นแหล่งข้อมูลที่่อยู่ภายนอกองค์กร โดยทั่วไปแล้ววสามารถนำข้อมูลต่างๆ เหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ในองค์กรหรือนำมาใช้ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้ระบบงานที่สมบูรณ์ขึ้นได้ ข้อมูลลูกค้า
คุณสมบัติของข้อมูล
ความถูกต้อง เพราะข้อมูลที่ได้ต้องนำไปใช้ในการตัดสินใจ หากข้อมูลไม่มีความถูกต้องแล้วก็จะก่อให้เกิดผลเสียหายตามมา
ความกระชับและชัดเจน การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากจะต้องใช้พื้นที่มาก จึงจำเป็นต้องออกแบบ
ความสมบูรณ์ ข้อมูลที่มีความสมบูรณ์ คือ ข้อมูลที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้
ความรวดเร็วและเป็นปัจจุบัน การได้มาของข้อมูลจำเป็นต้องให้ทันต่อความต้องการของผู้ใช้ ทันสมัย
การแบ่งลำดับชั้นข้อมูล
บิต (Bit = Binary Digit)
เป็นลำดับชั้นของหน่วยข้อมูลที่เล็กที่สุด
ไบต์ (Byte) เมื่อนำบิตมารวมกันหลายๆบิต จะได้หน่วยข้อมูลกลุ่มใหม่ที่เรียกว่า ไบต์ (Byte)
ฟีลด์ หรือเขตของข้อมูล (Field)
ประกอบด้วยกลุ่มของตัวอักษรหรือไบต์ตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไปมาประกอบกันเป็นหน่วยข้อมูลที่ใหญ่ขึ้น
เรคคอร์ด (Record)
เป็นกลุ่มของเขตข้อมูลหรือฟีลด์ที่มีความสัมพันธ์กัน
ไฟล์ หรือแฟ้มตารางข้อมูล (File)
ไฟล์ หรือแฟ้มข้อมูล เป็นการนำเอาข้อมูลทั้งหมดหลายๆเรคคอร์ดที่ต้องการจัดเก็บมาเรียงอยู่ในรูแปบของแฟ้มตารางข้อมูลเดียวกัน
ฐานข้อมูล (Database)
เกิดจากการรวบรวมเอาแฟ้มตารางข้อมูลหลายๆแฟ้มที่มีความสัมพันธ์กันมาเก็บรวมกันไว้ที่เดียว
บทที่ 4
ระบบอินเตอร์เน็ตและการใช้งาน
อินเทอร์เน็ต ( Internet ) คือ เครือข่ายของคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลก เข้าด้วยกัน โดยอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคมเป็นตัวเชื่อมเครือข่าย ภายใต้มาตรฐานการเชื่อมโยง
ระบบอินเตอร์เน็ต
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างกันเป็นแบบเดียวกันหรือใช้กฎและข้อ ตกลงเดียวกัน ซึ่งก็คือ โพรโทคอล
รับส่งข้อมูลในรูปแบบต่างๆหลายรูปแบบ
การเชื่อมต่อกันระหว่างเครือข่าย
IP Address
หมายเลขไอพี (IP Address)หมายถึง หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นหมายเลขชุดหนึ่งมีขนาด 32 บิต หมายเลขชุดนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน เช่น 205.42.117.104 โดยหมายเลขไอพีของเครื่องคอมพิวเตอร์จะต้องไม่ซ้ำกัน
ระบบโดเมนเนม
โดเมนเนม ความหมายโดยทั่วๆ ไป หมายถึง ชื่อเว็บไซต์ ชื่อบล็อก ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้จดจำและนำไปใช้งานได้ง่าย
โดนเมนเนม 2 ระดับ จะประกอบด้วย www . ชื่อโดเมน . ประเภทของโดเมน เช่น www.b2ccreation.comประเภทของโดเมน คือ คำย่อขององค์กร โดยประเภทขององค์กรที่พบบ่อย มีดังต่อไปนี้
.com คือ บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์
.org คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกำไร
.net คือ องค์กรที่เป็นเกตเวย์ หรือ จุดเชื่อมต่อเครือข่าย
.edu คือ สถาบันการศึกษา
.gov คือ องค์กรของรัฐบาล
.mil คือ องค์กรทางทหาร
โดนเมนเนม 3 ระดับ จะประกอบด้วย www . ชื่อโดเมน . ประเภทของโดเมน . ประเทศ เช่นwww.kmitnb.ac.th, www.nectec.or.th, www.google.co.th
ประเภทขององค์กรที่พบบ่อยคือ
.co คือ บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์
.ac คือ สถาบันการศึกษา
.go คือ องค์กรของรัฐบาล
.net คือ องค์กรที่ให้บริการเครือข่าย
.or คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกำไร
ตัวย่อของประเทศที่ตั้งขององค์กร
.th คือ ประเทศไทย
.cn คือ ประเทศจีน
.uk คือ ประเทศอังกฤษ
.jp คือ ประเทศญี่ปุ่น
.au คือ ประเทศออสเตรเลีย
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตรายบุคคล (Individual Connection)
2) แบบองค์กร (Corporate) เป็นการเชื่อมโยงกับระบบอินเทอร์เน็ตเป็นกลุ่ม
การทำงานของอินเทอร์เน็ต
การส่ง-รับสื่อข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยใช้เทคโนโลยีเครือข่าย WAN เป็นสื่อกลางที่เชื่อมต่อเครือข่ายขององค์กร และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider - ISP) เข้าด้วยกัน และยืนอยู่บนพื้นฐานโปรโตคอล TCP/IP(Transmission Control Protocol/Internet Protocol) ในการสื่อ-ส่งข้อมูล ในรูปแบบต่าง ๆ โดยมีมาตรฐานและกระบวนการแปรรูปของสื่อ ในรูปลักษณะสัญญาณรหัส ไปตามชื่อเรียกต่าง ๆ และมีหน่วยค่าการนับและวัดที่ต่างกัน ในชื่อเรียกที่แตกต่างกัน
ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต
ทำให้มีความสะดวกในการติดต่อสื่อสารในเครือข่ายขนาดใหญ่
ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน
ช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษา
โทษของอินเตอร์เน็ต
เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากสังคมหนึ่งไปสู่อีกสังคมหนึ่ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดค่านิยมที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นในสังคม
เกิดช่องว่างระหว่างคนในสังคม เนื่องจากคนในสังคมใช้เวลาในการเล่นอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล
อินทราเน็ต
อินทราเน็ต (intranet) คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบภายในองค์กร ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ในการใช้งานอินทราเน็ตจะต้องใช้โพรโทคอล IP เหมือนกับอินเทอร์เน็ต สามารถมีเว็บไซต์และใช้เว็บเบราว์เซอร์ได้เช่นกัน รวมถึงอีเมล
การโหลดไฟล์ใหญ่ ๆ จากเว็บไซต์ในอินทราเน็ต จะรวดเร็วกว่าการโหลดจากอินเทอร์เน็ต
ชื่อมต่ออินทราเน็ตของเรากับอินเทอร์เน็ต เราก็สามารถใช้ได้ทั้ง อินเทอร์เน็ต และ อินทราเน็ต
บทที่ 5
ไวรัสคอมพิวเตอร์
ไวรัส คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมหนึ่งที่มีผู้เขียนขึ้นมา โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน คือสร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ มีลักษณะคล้ายเชื้อโรคขนาดเล็ก ซึ่งถ้าไวรัสมันได้เข้าไปอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว มันจะทำงานด้วยตัวของมันเอง และจะก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย
อาการของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัส
1.ใช้เวลานานผิดปกติในการเรียกโปรแกรมขึ้นมาทำงาน
2.ขนาดของโปรแกรมใหญ่ขึ้น
3.วันเวลาของโปรแกรมเปลี่ยนไป
4.ข้อความที่ปกติไม่ค่อยได้เห็นกลับถูกแสดงขึ้นมาบ่อ ย ๆ
5.เกิดอักษรหรือข้อความประหลาดบนหน้าจอ
6.เครื่องส่งเสียงออกทางลำโพงโดยไม่ได้เกิดจากโปรแกร มที่ใช้อยู่
ช่องทางในการแพร่กระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์
นำแผ่นดิสก์ที่มีไวรัสอยู่มาใช้งาน จะทำให้ไวรัสเข้าไปอาศัยอยู่ในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์
ไวรัสสามารถแพร่กระจายไปตามระบบสื่อสารของคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบ LAN , MODEM
ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์
1.บูตไวรัส
บูตไวรัส (boot virus) คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่เข้าสู่เป้าหมายในระหว่างเริ่มทำการบูตเครื่อง
2.ไฟล์ไวรัส
ไฟล์ไวรัส (file virus) ใช้เรียกไวรัสที่ติดไฟล์โปรแกรม
3.มาโครไวรัส
มาโครไวรัส (macro virus) คือไวรัสที่ติดไฟล์เอกสารชนิดต่างๆ ซึ่งมีความสามารถในการใส่คำสั่ง มาโครสำหรับทำงานอัตโนมัติในไฟล์เอกสารด้วย
4.หนอน
หนอน (Worm) เป็นรูปแบบหนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเค รื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรร ดาไวรัสทั้ง หมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต
5.โทรจัน
ม้าโทรจัน (Trojan) คือโปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแ บบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง กระทำการบางอย่าง ในเครื่องของเรา จากผู้ที่ไม่หวังดี
วิธีการป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์
ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและอัปเดตข้อมูลไวรัสอยู่เสมอ
ติดตั้งโปรแกรมอุดช่องโหว่(patch) โดยการอัปเดตซอฟต์แวร์และโปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ ให้ใหม่อยู่เสมอ
ปรับแต่งให้ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานปลอดภัยสูงที่สุด
ระวังภัยจากการเปิดไฟล์จากสื่อบันทึกข้อมูล(Media) ต่าง ๆ
ใช้ความระมัดระวังในการเปิดอ่าน E-mail
ตระหนักถึงความเสี่ยงของไฟล์ที่ดาวน์โหลด หรือได้รับจากทางอินเตอร์เน็ต
กำหนดนโยบายด้านการบริหารจัดการไวรัสคอมพิวเตอร์ขององค์กร
วิธีการแก้ไขเมื่อเครื่องติดไวรัส
ตรวจสอบว่าระบบติดไวรัสอะไร
ดาวน์โหลดโปรแกรมแก้ไขไวรัสมาใช้กำจัดไวรัส
อุดช่องโหว่ของระบบปฎิบัติการ
อัพเดทฐานข้อมูลไวรัสของโปรแกรม Anti-virus
บทที่6
ระบบสารสนเทศทางธุรกิจ
สารสนเทศ (Information) ข้อมูลเหล่าที่ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว เราจะเรียกว่า สารสนเทศ (Information) หมายถึงข่าวสารที่ได้จากข้อมูลที่ผ่านกระบวนการเก็บรวบรวมและเรียบเรียง การนำ ข้อมูลดิบ (raw data) มาคำนวณทางสถิติหรือประมวลผลอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งข่าวสารที่ได้ออกมานั้นจะอยู่ในรูปที่สามารถนำไปใช้งานได้ทันที
ลักษณะของสารสนเทศที่ดี
ทันต่อเวลา (timeliness)
มีความถูกต้องแม่นยำ (accuracy)
มีความสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ (relevancy)
มีความสมบูรณ์ครอบถ้วน (complete)
สามารถพิสูจน์ได้ (verifiable)
กระบวนการของระบบสารสนเทศ
1.ขั้นเก็บข้อมูล
ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
ขั้นนำไปใช้
ขั้นทำรายงานเผยแพร่
3.ขั้นรายงาน
ระบบสารสนเทศทางธุรกิจ
ระบบสารสนเทศด้านการบัญชี (accounting information system)
ระบบสารสนเทศด้านการเงิน (financial information system)
ระบบสารสนเทศด้านการตลาด (marketing information system)
ระบบสารสนเทศด้านการผลิตและการดำเนินงาน (production and operations information system)
ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรบุคคล (human resource information system)
ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลกระทบในทางบวก
1.) ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์
2.) ช่วยทำให้การผลิตอุตสาหกรรมได้ดีขึ้น
3.) ช่วยส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยใหม่
4.) ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
5.) ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์
ผลกระทบในทางลบ
1.) ทำให้เกิดอาชญากรรม
2.) ทำให้เกิดความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย
3.) ทำให้เกิดความวิตกกังวล
4.) ทำให้เกิดการเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ
5.) ทำให้การพัฒนาอาวุธมีอำนาจทำสายสูงมากขึ้น
บทที่7 การสื่อสารข้อมูลแลระบบเครือข่าย
การสื่อสารข้อมูล
ระบบเครือข่าย network system
คือ การนำคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การสื่อสารต่างๆมารวมกัน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสาร หรือใช้อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันโดยผ่านระบบเครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายโทรศัพท์ เครือข่ายดาวเทียม โทรทัศน์ หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยช่องทางที่ใช้ในการสื่อสาร เราจะเรียกว่า ช่องสัญญาณ
การสื่อสารข้อมูล (Data Communications) หมายถึง กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างผู้ส่งและผู้รับ โดยผ่านช่องทางสื่อสาร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล เพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับเกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
องค์ประกอบของการสื่อสาร
ผู้ส่งสาร (sender) หรือ แหล่งสาร (source) หมายถึง บุคคล กลุ่มบุคคล หรือ หน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการส่งสาร หรือเป็นแหล่งกำเนิดสาร ที่เป็นผู้เริ่มต้นส่งสารด้วยการแปลสารนั้นให้อยู่ในรูปของสัญลักษณ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นแทนความคิด ได้แก่ ภาษาและอากัปกิริยาต่าง ๆ เพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึก ข่าวสาร
สาร (message) หมายถึง เรื่องราวที่มีความหมาย หรือสิ่งต่าง ๆ ที่อาจอยู่ในรูปของข้อมูล ความรู้ ความคิด ความต้องการ อารมณ์ ฯลฯ
สื่อ หรือช่องทาง (media or channel) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกประการหนึ่งในการสื่อสาร หมายถึง สิ่งที่เป็นพาหนะของสาร ทำหน้าที่นำสารจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร ผู้ส่งสารต้องอาศัยสื่อหรือช่องทางทำหน้าที่นำสารไปสู่ผู้รับสาร
ผู้รับสาร (receiver) หมายถึง บุคคล กลุ่มบุคคล หรือมวลชนที่รับเรื่องราวข่าวสาร
จากผู้ส่งสาร และแสดงปฏิกิริยาตอบกลับ (Feedback) ต่อผู้ส่งสาร หรือส่งสารต่อไปถึงผู้รับสารคนอื่น ๆ ตามจุดมุ่งหมายของผู้ส่งสาร เช่น ผู้เข้าร่วมประชุม ผู้ฟังรายการวิทยุ กลุ่มผู้ฟังการอภิปราย ผู้อ่านบทความจากหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
การสื่อสาร
สัญญานณนาล็อก
เป็นสัญญาณแบบต่อเนื่อง มีลักษณะเป็นคลื่นไซน์(sine wave) โดยที่แต่ละคลื่นจะมีความถี่และความเข้มของสัญญาณที่ต่างกัน เมื่อนำสัญญาณข้อมูลเหล่านี้ผ่านอุปกรณ์รับสัญญาณและแปลงสัญญาณก็จะได้ข้อมูลที่ต้องการ ตัวอย่างของการส่งข้อมูลที่มีสัญญาณแบบแอนะล็อก คือ การส่งผ่านระบบโทรศัพท์
สัญญญาณดิจิทัล เป็นสัญญาณทางกายภาพที่เป็นตัวแทดับของค่าที่แยกจากกัน เช่น กระแสบิตที่ไม่มีหลักเกณฑ์หรือสัญญาณแอนะล็อกที่ถูกทำเป็นบิตสตรีม ถูกสุ่มเลือกและแปลงจากแอนะล็อกให้เป็นดิจิทัล
ประเภทของโมเด็ม
โมเด็มชนิดภายใน
โมเด็มชนิดภายนอก
การประมวลผลกับการสื่อสารข้อมูล
องค์ประกอบพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
เน็ตเวิร์คการ์ด
สื่อกลาง
โปรโทคอล
ระบบปฎิบัติการเครือข่าย
เครือข่ายพอมพิวเตอร์
ประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เซิร์ฟเวอร์
เวิร์กสเตชั่น
ไคลเอนต์
เทอร์มินัล
Internet server
Web server
Database server
Mail server
File server
Domain name server
Print server
MAN
WAN
PAN
การประมวลผลข้อมูลในเครือข่ายคอมพิวเตอร์
การประมวลผลที่ระบบศูนย์กลาง
การประมวลผลข้อมูลแบบไตลแอนต์
การประมวลผลข้อมํลแบบกระจาย
เน็ตเวิร์คการ์ด
าร์ดเน็ตเวิร์ก หมายถึง แผงวงจรสำหรับใช้ในการเชื่อมต่อสายสัญญาณของเครือข่าย จะติดตั้งไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นเครื่องแม่ข่าย และเครื่องที่เป็นลูกข่าย หน้าที่ของการ์ด คือ แปลงสัญญาณจากคอมพิวเตอร์ส่งผ่านไปตามสายสัญญาณ
ตัวกลางหรือช่องทางการสื่อสาร
บลูทูธ
ไว-ไฟ
ไว แม็กซ์
โปรโตคอล
IP addressing
LAN
โครงสร้างของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
BUS Topology เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องบนสายสัญญาณหลักเส้นเดียว ที่เรียกว่า BUS ทีปลายทั้งสองด้านปิดด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Teminator ไม่มีคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์เครื่องใดหยุดทำงาน ก็ไม่มีผลกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ในเครือข่าย
Ring Topology เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นรูปวงแหวนหรือแบบวนรอบ โดยสถานีแรกเชื่อมต่อกับสถาน สุดท้าย การรับส่งข้อมูลในเครือข่ายจะต้องผ่านทุกสถานี โดยมีตัวนำสารวิ่งไปบนสายสัญญาณของแต่ละสถานี ต้องคอยตรวจสอบข้อมูลที่ส่งมา ถ้าไม่ใช่ของตนเองต้องส่งผ่านไปยังสถานีอื่นต่อไป
Star topology เป็นการเชื่อมต่อสถานีหรือจุดต่าง ๆ ออกจากคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางหรือคอมพิวเตอร์แม่ข่ายที่เรียกว่า File Server แต่ละสถานีจะมีสายสัญญาณเชื่อมต่อกับศูนย์กลาง ไม่มีการใช้สายสัญญาณร่วมกัน เมื่อสถานีใดเกิดความเสียหายจะไม่มีผลกระทบกับสถานีอื่น ๆ ปัจจุบันนิยมใช้อุปกรณ์ HUB เป็นตัวเชื่อมต่อจากคอมพิวเตอร์แม่ข่ายหรือคอมพิวเตอร์ศูนย์กลาง
Mesh topology มีการทำงานโดยเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีช่องสัญญาณจำนวนมาก เพื่อที่จะเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆทุกเครื่องโครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์นี้เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะส่งข้อมูลได้อิสระไม่ต้องรอการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ทำให้การส่งข้อมูลมีความรวดเร็ว
Hybrid Topology เป็นรูปแบบใหม่ ที่เกิดจากการผสมผสานกันของโทโปโลยีแบบ STAR , BUS , RING เข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการลดข้อเสียของรูปแบบที่กล่าวมา และเพิ่มข้อดี ขึ้นมา มักจะนำมาใช้กับระบบ WAN (Wide Area Network) มาก ซึ่งการเชื่อมต่อกันของแต่ละรูปแบบนั้น ต้องใช้ตัวเชื่อมสัญญาญเข้ามาเป็นตัวเชื่อม ตัวนั้นก็คือ Router เป็นตัวเชื่อมการติดต่อกัน
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
เกตเวย์
รีพีตเตอร์
บริดจ์
ฮับ
สวิตต์
เราเตอร์
เทคโนโลยีคมนาคมและการสื่อสาร
โดยมีวตถุประสงค์4ประการ ดังนี้
1.เพื่อสื่อสารธุรกิจที่ดีขึ้น
2.เพื่อการดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
3.เพื่อการกระจายข้อมูลที่ดีขึ้น
4.เพื่อการจัดการธุรกิจที่ดีขึ้น