Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะชักจากไข้สูง (Febrile convulsion)…
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะชักจากไข้สูง (Febrile convulsion)
สาเหตุ
ภาวะชักจากไข้สูงเกิดจากการติดเชื้อในระบบต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ระบบประสาท เช่น
การติดเชื้อในระบบหายใจหูชั้นกลางอักเสบ
การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
ต่อมทอนซิลอักเสบ
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
อาจเกิดภายหลังจากการให้วัคซีนคางทูม หัดหัดเยอรมัน (MMR) เป็นต้น
ส่วนใหญ่สาเหตุของภาวะชักจากไข้สูง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจส่วนบน หูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น
ถ้าเด็กมีการติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมองหรือสมองอักเสบจากการติดเชื้อต่าง ๆ แล้วมีอาการของไข้สูงและชักตามมาจะไม่เรียกว่ามีภาวะชักจากไข้สูง เด็กจะมีอาการชักเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส (102 องศาฟาเรนไฮต์) อาการชักเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงแรกที่เริ่มมีอาการไข้
ส่วนใหญ่เกิดกับเด็กอายุระหว่าง 3 เดือนถึง 5 ปี พบมากที่สุดในช่วงอายุ 17-24 เดือน พบได้บ่อยในเด็กที่มีประวัติครอบครัวมีอาการชักจากไข้สูง และเพศชายเกิดอาการชักจากไข้สูงได้มากกว่าเพศหญิงในอัตราส่วนชาย : หญิง = 1.2-3.4 : 1
ความหมาย
อาการชักที่สัมพันธ์กับการมีไข้ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อของระบบมาทหรือความไม่สมดุลย์ของเกลือแร่ในเด็กที่อายุมากกว่า 1 เดือนโดยที่เด็กไม่เคยมีอาการชักโดยไม่มีไข้มาก่อน
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 1
เสี่ยงต่อภาวะเซลล์สมองถูกทำลายจากการชักนาน
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 2
เสี่ยงต่อการเกิดอาการชักจากไข้สูง
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 3
เสี่ยงต่อการได้รับอุบัติเหตุและหรืออันตรายจากการชัก
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 4
มีความไม่สุขสบายเนื่องจากไข้สูง
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 5
บิดามารดามีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการชักจากไข้สูงของเด็ก
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 6
บิดามารดาขาดความรู้ในการดูแลเด็กเมื่อมีไข้สูง
ชนิดของภาวะชักจากไข้สูงภาวะชักจากไข้สูง แบ่งเป็น 2 ชนิด
simple febrile seizure (primary febrile seizure)
1.1 มีไข้ร่วมกับมีอาการชักในเด็กอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 5 ปี
1.2 การชักเป็นแบบชักทั้งตัว (generalized seizure)
1.3 ระยะเวลาของการชักจะเกิดช่วงสั้น ๆ ไม่เกิน 15 นาที
1.4 ไม่มีอาการชักซ้ำในการเจ็บป่วยครั้งเดียวกัน
1.5 ก่อนและหลังการชักไม่พบความผิดปกติทางระบบประสาท
1.6 ไม่มีประวัติชักโดยไม่มีไข้
Complex febrile seizure
2.1 การชักเป็นแบบเฉพาะที่หรือทั้งตัว (focal or generalized seizure)
2.2 ระยะเวลาของการชักจะเกิดนานมากกว่า 15 นาที
2.3 เกิดการชักซ้ำในการเจ็บป่วยครั้งเดียวกัน
ผู้ป่วยเด็กที่เกิดภาวะชักชนิด complex febrile seizure จะมีอัตราเสียงสูงต่อการเกิดโรคลมชักแพทย์จะให้ยาป้องกันการชัก เช่น Phenobarbital หรือ Valproic acid โดยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับผู้ป่วยเด็กแต่ละคน
อาการและอาการแสดง
เมื่อมีไข้สูงมาก เด็กจะตัวร้อน หน้าแดง มึนงงสับสน กระสับกระส่าย ร้องกวน มีอาการชัก ลักษณะการชักอาจจะตัวแข็งหรือตัวอ่อน ชักเกร็งหรือกระตุก ไม่รู้สึกตัวกล้ามเนื้อที่แขน ขา หน้าและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายบิดเกร็งและสั่น ตาจะกลอกไปด้านหลัง
ส่วนใหญ่จะไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระได้หรือไม่สนใจสิ่งแวดล้อม ระดับความรู้สติเปลี่ยนไป อาจมีอาการหายใจลำบาก หยุดหายใจประมาณ 30 วินาที ซึ่งอาจทำให้มีอาการเขียวเล็กน้อย ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการชักน้อยกว่า 1 นาที แต่อาจใช้เวลาชักถึง 5 นาที
ปกติจะเกิดอาการชักในวันแรกของการมีไข้สูงและจะหายได้โดยไม่ต้องรักษา ถ้าเด็กมีอาการชักไม่หยุดภายใน 5 นาทีและกำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล แพทย์จะให้ยาระงับการชัก เพื่อหยุดอาการ ภายหลังจากการชักเด็กจะนอนหลับ เนื่องจากสมองเหนื่อยล้าและต้องการฟื้นตัว จากนั้นเด็กจะฟื้นกลับสู่ภาวะปกติ บิดามารดามักมีความวิตกกังวล เนื่องจากการชักมีลักษณะคล้ายโรคลมชัก (epilepsy)
ปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะชักจากไข้สูง
เด็กที่เคยมีภาวะชักจากไข้สูงมาแล้ว 1 ครั้งมีโอกาสเกิดการชักซ้ำได้อีกเมื่อมีไข้สูงประมาณร้อยละ 30-35 จากความเจ็บป่วยเดิมหรือความเจ็บป่วยอื่น ๆ โดยมีปัจจัยเสี่ยงดังนี้
อายุถ้าเด็กมีอาการชักจากไข้สูงครั้งแรกเมื่ออายุน้อยจะมีอัตราการชักซ้ำสูงกว่าเด็กที่มีภาวะชักจากไข้สูงครั้งแรกเมื่ออายุมากแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่มีอาการชักครั้งแรกในช่วงอายุก่อน 1 ปี
สภาพของระบบประสาทและพัฒนาการเด็กที่มีความบกพร่องทางระบบประสาทหรือมีพัฒนาการช้ามีโอกาสจะเกิดการชักซ้ำเมื่อมีไข้สูงได้มากกว่าเด็กที่มีระบบประสาทหรือพัฒนาการปกติ
ประวัติการชักในครอบครัวเด็กที่มีประวัติสมาชิกในครอบครัวมีภาวะชักโดยไม่มีไข้จะมีโอกาสชักซ้ำมากกว่าเด็กที่เกิดในครอบครัวที่ไม่เคยมีประวัติชักโดยไม่มีไข้ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมชักเด็กที่มีภาวะชักจากไข้สูงถ้ามีการชักซ้ำจะมีโอกาสเป็นโรคลมชักในภายหลังได้โดยมีปัจจัยเสี่ยงดังนี้
ประวัติการชักโดยไม่มีไข้ในครอบครัวหรือมีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคลมชัก
ระบบประสาทและพัฒนาการมีความผิดปกติก่อนหรือหลังจากมีภาวะชักจากไข้สูง
ภาวะชักชนิด Complex febrile seizure มีลักษณะการชักถ้ามีลักษณะการชักเฉพาะที่หรือชักนานเกิน 15 นาทีหรือชักหลายครั้งใน 1 วัน
การวินิจฉัย
1.การซักประวัติ พบว่ามีประวัติไข้สูง ตัวร้อน มีอาการติดเชื้อที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกาย เช่น อาการเจ็บคอ กลืนไม่ได้ในเด็กที่มีการติดเชื้อที่ต่อมทอลซิล ถ่ายอุจจาระเหลวหลายครั้ง มีไข้ ไอ หมายใจไม่สะดวก เป็นต้น
2.การตรวจร่างกาย จะพบว่าเด็กมีอุณหภูมิร่างกายสูงมากกว่าปกติ หน้าแดง ตัวแดง พบอาการหรืออาการแสดงของการติดเชื้อในระบบใดระบบหนึ่งของร่างกาย เช่น ต่อมทอนซิลบวมแดง มีเสมหะสีเหลือง คลำพบต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ เป็นต้น
3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจนับเม็ดเลือด (complete blood count: CBC) การเพาะเชื้อ หรือการตรวจปัสสาวะ เพื่อค้นหาการติดเชื้อในระบบต่างๆ และทำการวินิจฉัยแยกโรคจากโรคติดเชื้อทางระบบประสาท
4.การตรวจพิเศษ ส่วนใหญ่จะทำการเจาะหลัง (Lumbar puncture) เพื่อตรวจดูน้ำไขสันหลังใช้ในการวินิจฉัยแยกโรคระหว่างการติดเชื้อในระบบอื่นๆของร่างกายกับการติดเชื้อทางระบบประสาท ถ้าเด็กมี complex febrile seizure หรือในกรณีที่เด็กมีพัฒนาการช้าหรือมีอาการที่แสดงว่ามีปัญหาของสมองแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เช่น ทำ CT scan, ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) เป็นต้น
การรักษา
การรักษาภาวะชักจากไข้สูงแบ่งเป็น 2 ระยะ
ระยะที่กำลังมีอาการชักหลักการรักษากรณีที่มีการชักนานเกิน 5 นาที คือ ทำให้หยุดชักให้เร็ว "สุด" เพื่อไม่ให้เกิดภาวะสมองขาดออกซิเจน (cerebral hypoxia) โดยแพทย์จะให้ยา diazepam (0.2-0.4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/ครั้ง) ทางหลอดเลือดดำหรือให้ทางทวารหนัก เด็กที่เกิดอาการชักชนิด simple febrile seizure โดยทั่วไปไม่มีความจำเป็นต้องให้การรักษาโดยการให้ยาระงับชักสิ่งสำคัญ คือ การให้คำแนะนำแก่บิดามารดาในการเช็ดตัวลดไข้ หรือการรับประทานยาลดไข้ เช่น acetaminophen เพื่อไม่ให้เกิดไข้สูงจนเกิดอาการชักซ้ำและดูแลประคับประคองด้านจิตใจเพื่อให้บิดามารดาคลายความวิตกกังวลในอาการชักของเด็ก
ระยะหลังจากหยุดอาการชักเมื่อพ้นระยะฉุกเฉินไปแล้วแพทย์จะตรวจร่างกายและซักประวัติอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุและจัดประเภทของอาการชักรวมทั้งค้นหาปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการชักจากไข้สูงเพื่อเป็นแนวทางในการรักษาและป้องกันภาวะชักจากไข้สูงต่อไป
การพยากรณ์โรค
การพยากรณ์โรคดีภายหลังอาการชักจากไข้สูงสมองจะปราศจากรอยโรคพบว่าร้อยละ 95 ของเด็กที่มีภาวะชักจากไข้สูงจะไม่เป็นโรคลมชักหรือสมองได้รับอันตรายภายหลัง มีจำนวนน้อยมากที่จะกลายเป็นโรคลมชักแต่เด็กอาจเกิดการบาดเจ็บขณะเกิดการชักเนื่องจากการตกจากที่สูงล้มลงขณะยืนเป็นต้น
การพยาบาล
การซักประวัติเด็กมีประวัติไข้สูงตัวร้อนอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น น้ำมูกไหล จามอุจจาระเหลวเป็นน้ำไม่มีกากเจ็บคอดูดนมไม่ดีมีอาการเกร็งชักตั้งแต่อยู่ที่บ้านหรือขณะเดินทางมาโรงพยาบาล เป็นต้น
การตรวจร่างกายพบว่าหน้าแดงตัวแดงเมื่อสัมผัสบริเวณใบหน้าศีรษะลำตัวจะมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติวัดอุณหภูมิร่างกายได้มากกว่า 37. 8 องศาเซลเซียสบางคนอาจมีอาการชักขณะตรวจร่างกายส่วนอาการ อาการแสดงอื่นๆที่จะตรวจพบขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อและอวัยวะที่มีการติดเชื้อ เช่น ในเด็กที่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจพบว่ามีคอแดงไอจามน้ำมูกไหลน้ำมูกใสหรือมีสีเหลือง / เขียว หายใจเร็ว เป็นต้น ในเด็กที่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารอาจถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำจำนวนมากกว่า 3 ครั้งต่อวันปากแห้งถ่ายปัสสาวะสีเหลืองเข้มเป็นต้น
การตรวจทางห้องปฏิบัติการเช่นการตรวจเลือดพบว่ามีความผิดปกติของจำนวนเม็ดเลือดขาวซึ่งแสดงถึงการติดเชื้อในร่างกาย การถ่ายภาพรังสีทรวงอกในเด็กที่มีภาวะปอดบวมจะพบผลภาพถ่ายรังสีมีความผิดปกติการตรวจปัสสาวะในเด็กที่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะพบจำนวนเม็ดเลือดขาวที่เพิ่มขึ้นหรือเมื่อนำปัสสาวะไปเพาะเชื้อก็จะพบเชื้อโรคในปัสสาวะเป็นต้น
การตรวจพิเศษเด็กที่อายุต่ำกว่าหรือเท่ากับ 12 เดือนที่มีอาการชักแพทย์จะทำการเจาะน้ำไขสันหลังทุกรายเพื่อนำมาตรวจวินิจฉัยแยกโรคติดเชื้อจากระบบประสาทกับภาวะชักจากไข้สูงจากการติดเชื้อในระบบอื่นๆของร่างกายซึ่งเด็กที่มีภาวะชักจากไข้สูงเมื่อเจาะน้ำไขสันหลังจะพบว่าน้ำไขสันหลังมีลักษณะปกติ
พยาธิ
การมีไข้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเมตาบอลิซึมของเซลล์ประสาทของสมอง ทำให้เซลล์ประสาทไวต่อการที่จะเกิดอาการชักได้มากขึ้น โดยขึ้นอยู่กับอายุและความเจริญของสมองด้วยสมองที่เจริญมากขึ้นมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากการเกิดไข้ได้น้อยลง โอกาสที่จะเกิดอาการชักก็น้อยลง นอกจากนี้ความสูงของไข้ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดอาการชักซึ่งยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนว่าเท่าไรถึงจะชัก แต่ยอมรับกันว่าที่ 38 องศาเซลเซียส เป็นจุดต่ำสุดที่เด็กเริ่มมีอาการชักได้ ถึงแม้ว่าบ่อยครั้งที่เด็กมีอาการชักขณะมีอุณหภูมิสูงๆ โดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ75 ของเด็กจะมีอุณหภมิสูงเกิน 39 องศาเซลเซียส