Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 การบริหารการพยาบาล (การบริหารหอผู้ป่วย (3.3 การมอบหมายงาน (3)…
บทที่ 6 การบริหารการพยาบาล
ขอบเขตและความรับผิดชอบของผู้บริหารทางการพยาบาล
1.1 การบริหารงานในบทบริการปฐมภูมิ
ระดับปฐมภูมิ (Primary care level): รักษาดูแลภาวะไม่ซับซ้อน บริการแบบผสมผสาน (ส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู)
ตัวอย่าง: รพสต. ศูนย์สุขภาพชุมชน ศูนย์แพทย์ชุมชน
1.2 การบริหารงานในบทบริการทุติยภูมิ
ระดับทุติยภูมิ (Second care level): ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพิ่มขึ้น รักษาพยาบาลโรคซับซ้อนขึ้น
ตัวอย่าง: รพช. รพ.ระดับอำเภอ รพ. จังหวัด โรงพยาบาลในกระทรวงกลาโหม
1.3 การบริหารงานในบทบริการตติยภูมิ
ระดับตติยภูมิ (Tertiary care level) + ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง (Excellent center): ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์สูงขึ้น สลับซับซ้อนมาก บุคลากรทางการแพทย์สาขาเฉพาะ
ตัวอย่าง: รพ.ศูนย์สถาบันเฉพาะต่างๆ สังกัดมหาวิทยาลัย มีแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะ
บทบาทหน้าที่ของผู้บริหารการพยาบาล
2.2 ตำแหน่ง
ระดับสูง (Top-level administration): ผู้อำนวยการพยาบาล/หน้าฝ่ายการ/หัวหน้ากลุ่มการพยาบาล
ระดับกลาง (Middle level administration): ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายการพยาบาล + หัวหน้าแผนก
ระดับต้น (First level administration): ผู้ตรวจการพยาบาล + หน้าหน้าหอผู้ป่วย
2.3 บทบาทหน้าที่ของผู้บริหารการพยาบาล
หัวหน้าฝ่ายการ/กลุ่มการพยาบาล เช่น รับนโยบายจากผู้อำนวยการ กำหนดมาตรฐาน เกณฑ์ ขอบเขตงาน คุณภาพ ควบคุมกำกับประเมินวิเคราะห์ระบบ และเป็นผู้นำจัดทำแผนกลยุทธ์ของกลุ่มการพยาบาล
พยาบาลเวรตรวจการ เช่น ทำหน้าที่แทนหัวหน้าพยาบาลนอกเวลาราชการ ตรวจเยี่ยมให้คำปรึกษา บริหารจัดการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน บันทึกและรายงานเหตุการณ์ต่างๆ ให้หัวหน้าเวร
หัวหน้าหอผู้ป่วย เช่น รับนโยบายจากกลุ่มการพยาบาล กำหนดปรัชญา นโยบาย ต่างๆ ในหน่วยงาน ประสานหน่วยงาน วางแผนจัดอัตรากำลังคน จัดตารางงาน ปฐมนิเทศเจ้าหน้าที่ใหม่
2.1 ความหมายของผู้บริหารการพยาบาล
ผู้บริหารการพยาบาล (Nurse Administration): มีหน้าที่กำหนดนโยบายงานในองค์การพยาบาล (ใช้ในองค์การพยาบาลรัฐ)
2.4 บทบาทหน้าที่ทีมพยาบาล
หัวหน้าทีม (Nurse Leader)
ปฏิบัติงานตามที่มอบหมาย
ปรึกษา + ร่วมแก้ปัญหากับ Nurse In Charge
ประสานงานกับ Nurse In Charge
รายงานการทำงานกับ Nurse In Charge
ปฏิบัติตามแผน
ดูแลเครื่องมือ + จัดเก็บบำรุง
ร่วมประชุมทีม + ปรึกษาการพยาบาล
บันทึก + รายงานการปฏิบัติการพยาบาล
สมาชิกทีม (Member)
สร้างความพึงพอใจแก้ผู้ป่วย/ผู้ใช้บริการ
วงแผน + ดำเนินการส่งเสริมสุขภาพ
สนับการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วย
สังเกต บันทึก สรุปรายงานการเปลี่ยนแปลง
ให้การพยาบาลได้ทุกโรค ทุกระดับปัญหา/ความรุนแรงต่างๆ
ประเมินผู้ป่วย ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ความต้องการ
หัวหน้าเวร (Nurse In Charge)
วางแผนปฏิบัติการพยาบาล + แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
นำประชุมทีม + กำหนดแผน
ร่วมวางแผนมอบหมายงานให้หัวหน้าทีม
ตัดสินใจ + รับผิดชอบการตัดสินใจ
ประสานงานกับทีมสุขภาพ/สหวิชาชีพ
กำหนดระบบ การดำเนินงานนิเทศ + ประเมิน
บริหารคน + ทรัพยากร
บันทึก + รายงานการปฏิบัติการพยาบาล
การบริหารหอผู้ป่วย
3.2 การจัดอัตรากำลัง
ความหมายการจัดบุคลากร (Nursing Staffing)
วางแผน + จัดอัตรากำลังคน เพื่อเตรียมคนให้เหมาะกับงาน + เวลา
กระบวนการ
1) การวางแผนอัตรากำลัง (Staffing planning)
2) การจัดตารางการปฏิบัติงาน (Scheduling)
3) การกระจายอัตรากำลัง (Staffing allocation)
ขั้นตอนในการจัดอัตรากำลัง
จำนวนวันนอน (Patient Days) = จำนวนรวมผู้ป่วยตั้งแต่ 12.00 - 24.00 น.
จำนวนเฉลี่ยนผู้ป่วยต่อวัน (Average daily census) = จำนวนวันนอน/จำนวนวันที่ผู้ป่วยมานอนรพ. (กี่วัน)
*
การแบ่งประเภทผู้ป่วย (วิธี Warstler) + จำนวนชม.การพยาบาล/วัน
ประเภท 2 (n2) มีอาการเล็กน้อยหรือดูแลเล็กน้อย (Minimal care) = 3.5 ชม./วัน
ประเภท 3 (n3) อาการปานกลางหรือเฝ้าระวังดูแลเป็นระยะๆ กึ่งวิกฤต (Intermediate care) = 5.5 ชม./วัน
ประเภท 1 (n1) ช่วยเหลือตนเองได้ดีหรือพักฟื้น (Self care) = 1.5 ชม./วัน
ประเภท 4 (n4) ต้องดูแลต่อเนื่องตลอดเวลาหรือหนัก (Modified intensive care) = 7.5 ชม./วัน
ประเภท 5 (n5) วิกฤตเสี่ยงต่อการเสียชีวิต (Intensive care) = 12 ชม./วัน
*
การคำนวณหาอัตรากำลัง
สูตรหาจำนวนชั่วโมงรวม (Tรวม)
ให้ nx = จำนวนผู้ป่วยแต่ละประเภท
x = ประเภทผู้ป่วย
จะได้ n5(12)+n4(7.5)+n3(5.5)+n2(3.5)+n1(1.5) = จำนวนชั่วโมงรวม
สูตรหาจำนวนพยาบาลที่ต้องการในแต่ละเวร
ให้ Tรวม = จำนวนชั่วโมงรวม
เวรเช้า: [(Tรวม/64%)]/6 = จำนวนพยาบาลเวรเช้า (M)
เวรบ่าย: [(Tรวม/24%)]/6 = จำนวนพยาบาลรวมเวรบ่าย (E)
เวรดึก: [(Tรวม/12%)]/6 = จำนวนพยาบาลรวมเวรดึก (N)
จำนวนพยาบาลรวม = M + E + N
สูตรคำนวณหาจำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่รวมป่วยลาขาด
[(M + E + N) + (M + E + N)(10%)] = จำนวนบุคลากรทั้งหมดจริง
3.3 การมอบหมายงาน
3) รายผู้ป่วย (Case Method): Complete Care ในผู้ป่วยแต่ละราย (อาจมากกว่าเท่ากับ 1 ราย)
4) พยาบาลเจ้าของไข้ (Primary Method): ดูแลตั้งแต่ Admit ถึง Discharge ไม่เปลี่ยนแปลงผู้ป่วย
2) เป็นทีม (Team Method): ให้ทำเป็นกลุ่มเล็ก กระจายความรับผิดชอบ หัวหน้าทีมตัดสินใจดีขึ้น
5) ผสมผสาน (Multiple Method): เช่น ทั้งวิธีตามหน้าที่และทีมรวมกัน
1) เฉพาะหน้าที่ (Functional Method): แบ่งรับผิดชอบคนละ 1 - 2 กิจกรรม ผู้ป่วยได้รับการดูแลทุกคน
6) ผู้จัดการกรณี/ผู้จัดการการดูแลผู้ป่วย (Case management): พยาบาลวิชาชีพที่เชี่ยวชาญ/ขั้้นสูงประสานการดูแลผู้ป่วยในรายนั้นตั้งแต่ก่อน Admit ถึงหลัง Discharge
3.4 การนิเทศงาน
ความหมายการนิเทศการพยาบาล
การช่วยเหลือ กระตุ้น ส่งเสรอม ชักจูงให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้ดีขึ้น
ลักษณะการนิเทศ
เน้นพฤติกรรมผู้นิเทศ
2) ประชาธิปไตย: คำนึงถึงจิตใจของผู้นิเทศ
1) อัตตาธิปไตย: การตัดสินใจ/การสั่งการขึ้นอยู่กับผู้นิเทศคนเดียว
เน้นจุดประสงค์กรนิเทศ
1) มุ่งผลผลิต: สกัดกั้นความคิดริเริ่มของผู้ปฏิบัติ ไม่พอใจ ความสนใจ และกำลังใจต่ำมาก
2) มุ่งตัวบุคคล: มีมนุษยสัมพันธ์ การทำงานมีประสิทธิภาพ
วิธีการนิเทศ
1) ใกล้ชิด (Close supervision): เหมาะสำหรับการนิเทศบุคลากรที่เพิ่งจบใหม่
2) อิสระ (General supervision): ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน ผลงานคุณภาพสูง ผู้ปฏิบัติงานมีความสุข
3.1 การจัดหอผู้ป่วย
หลักการ
2) ความปลอดภัย (Safety)
3) การป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อ (Infection control) เช่น จัดเตียงห่างกัน 90 cm
1) ความเป็นส่วนตัว (Privacy)
4) ควบคุมเสียง (Noise control) แต่ทำได้ยาก
ระบบการจัด
1) ระบบเปิด: จัดเตียงผู้ป่วยใช้ร่วมกัน
2) ระบบปิด: แยกผู้ป่วยเป็นห้องๆ
ตำแหน่งห้องพยาบาล
1) อยู่ตรงกลางหอผู้ป่วย เช่น ตึกศัลกรรมช.2 รพ.เจ้าพระยายามราช
2) อยู่ด้านหนึ่งของหอผู้ป่วย เช่น หอผู้ป่วย CCU รพ.เจ้าพระยายามราช
3.5 ระบบการดูแลผู้ป่วย
3) เป็นทีม (Team Method): ให้ทำเป็นกลุ่มเล็ก กระจายความรับผิดชอบ หัวหน้าทีมตัดสินใจดีขึ้น *แก้ปัญหาพยาบาลมีจำนวนจำกัด
4) พยาบาลเจ้าของไข้ (Primary Method): ดูแลตั้งแต่ Admit ถึง Discharge ไม่เปลี่ยนแปลงผู้ป่วย *ใช้พยาบาลวิชาชีพมาก
2) เฉพาะหน้าที่ (Functional Method): แบ่งรับผิดชอบคนละ 1 - 2 กิจกรรม ผู้ป่วยได้รับการดูแลทุกคน *ขาดสัมพันธ์ภาพกับผู้ป่วย แต่แก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากร
5) ผู้จัดการกรณี/ผู้จัดการการดูแลผู้ป่วย (Case management): พยาบาลวิชาชีพที่เชี่ยวชาญ/ขั้้นสูงประสานการดูแลผู้ป่วยในรายนั้นตั้งแต่ก่อน Admit ถึงหลัง Discharge มีแผนปฏิบัติร่วม (Care maps)
1) รายบุคคล (Case Method/Total patient care): Complete Care ในผู้ป่วยแต่ละราย (อาจมากกว่าเท่ากับ 1 ราย) 8 ชั่วโมงในแต่ละเวร *ต้องใช้พยาบาลมาก