Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
(Lung abscess)
52 (ผู้ป่วยหญิงชาวคอเคเ…
(Lung abscess)
-
ความหมาย
ฝีในปอดคือการที่ปอดมีการอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรงแล้วมีการทำลายเนื้อปอดจนเกิดเป็นโพรงหนอง เกิดจากการกระจายของเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ปอดได้หลายทาง อาทิ ทางหลอดลม ได้แก่ การสำลักน้ำลาย เศษอาหาร และหนองจากช่องปาก หรือการอุดกั้นของหลอดลม จากสิ่งแปลกปลอมหรือมะเร็งจะทำให้เกิดมีการอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรงทางกระแสเลือด การอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรงที่มีเชื้อกระจายเข้ามาในกระแสเลือด เช่น Septicemia เชื้อที่หลุดมาติดอยู่ในเนื้อปอดจะทำให้มีการอักเสบเกิดขึ้นและลุกลามออกไปจนเป็นโพรงหนอง พยาธิสภาพใต้กระบังลมที่แตกเข้าไปในปอด ฝีในช่องรอบไต (Perinephric abscess) ฝีในตับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแตกของตับที่เป็นหนองโดยเชื้ออะมีบา เป็นผลทำให้กระบังลมฉีกขาด เชื้อผ่านเข้าสู่ปอดได้
ภาวะแทรกซ้อน
ในรายที่มีฝีในปอด หนองอาจลุกลามเข้าไปในเยื่อหุ้มปอดหรือถ้าฝีแตกเชื้อจะลุกลามเข้าไปตามกระแสเลือด ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด(Septicemia)หรือถ้าเชื้อหลุดลอยไปที่สมอง อาจเกิดฝีของสมอง (Brain abscess) ได้
พยาธิสภาพ
เมื่อเชื้อผ่านเข้าสู่ปอด จะโดยวิธีใดก็ตาม จะทำให้ตำแหน่งที่มีการติดเชื้อมีการอักเสบเม็ดเลือดขาวจำนวนมากจะเข้ามาสู่บริเวณดังกล่าว บางส่วนของเม็ดเลือดขาวถูกทำลายไปและปล่อย lytic enzyme ออกมา ผลจากการรวมตัวระหว่าง lytic enzyme และเชื้อโรคทำให้เนื้อเยื่อของปอดถูกทำลาย กลายเป็นหนอง เมื่อหายแล้วเนื้อปอดก็จะไม่ดีเหมือนเดิมแต่จะมีแผลเป็นเกิดขึ้นแทนและในระยะแรกๆของการอักเสบจะเกิด Thrombosis ขึ้นกับหลอดเลือด ที่จะผ่านเข้าสู่บริเวณที่มีการอักเสบทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณนั้นลดลง เนื้อเยื่อของปอดตายเพราะขาดเลือดเลี้ยง ประกอบกับสาเหตุที่กล่าวมาแล้ว เนื้อเยื่อที่ตายจะเหลวลงและแตกระบายออกทางหลอดลมที่ติดต่อกับโพรงหนองนี้ ทำให้เกิดโพรงแผลในปอดขึ้นและขณะที่ฝีแตกผู้ป่วยบางรายอาจจะไอเป็นเลือดออกครั้งละมากๆ ได้ ผนังของโพรงนี้ยังบางอยู่และแฟบได้ง่าย การรักษาในช่วงนี้จะทำให้โพรงหายไปได้แต่ถ้าปล่อยไว้ต่อไป ผนังจะหนาขึ้นเรื่อยๆ ล้อมโพรงนี้ไว้ ทำให้แฟบได้ยาก เมื่อรักษา
การวินิจฉัย
-
การตรวจพิเศษ
การถ่ายภาพรังสีเอกซเรย์ถ้าฝียังไม่แตกจะพบรอยทึบเรียบบริเวณฝี ถ้าฝีแตกออกจะมีระดับของอากาศและของเหลว(air fluid level)
-
-
-
อาการ
ผู้ป่วยฝีในปอดส่วนใหญ่จะมีประวัติอาการและอาการแสดงของฝีในปอดขึ้นในระยะ 1-2 สัปดาห์ หลังมีอาการอักเสบติดเชื้อขึ้นในปอดอาการของฝีในปอดประกอบด้วย ไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัว และไอมีเสมหะ เสมหะในระยะแรกอาจมีจำนวนน้อย แต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะ 3-4 วันต่อมา เมื่อฝีแตกเข้าหลอดลม ลักษณะของเสมหะเป็นหนอง บางครั้งจะมีกลิ่นเหม็นเนื่องจาก เชื้อ anaerobic bacteria และมีโลหิตปนได้ ซึ่งพบประมาณร้อยละ 50-70 ของผู้ป่วย อาการเจ็บหน้าอกแบบเยื่อหุ้มปอดอักเสบ (Pleuritic chest pain) นั้นพบได้เสมอ ในรายที่เป็นเรื้อรังมักมีอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย น้ำหนักลด และปลายนิ้วมือปุ้มเหมือนไม้ตีกลอง(Clubbing of finger)
การพยาบาล
1ลดการติดเชื้อในปอด โดยการให้ยาปฏิชีวนะ ตามผลการเพาะเชื้อ และดูความไวของเชื้อต่อยาในขนาดและเวลาที่พอเหมาะ ผู้ให้การพยาบาลจะต้องดูแลให้ยาให้ครบถ้วนพร้อมทั้งสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ โดยการสังเกต สัญญาณชีพพร้อมทั้งลงบันทึกให้เรียบร้อย
2บรรเทาอาการโดยพยายามขับเสมหะออกให้มากที่สุดโดยการไอและอาจทำ postural drainage เพื่อให้หนองออกมากๆอย่าเกินวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน
-
-
- ระมัดระวังมิให้มีการสำลักอาหาร สิ่งแปลกปลอมจะเข้าสู่ทางเดินอาหาร
การรักษา
การรักษาฝีในปอด ให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับการระบายหนองออกจากปอด เคาะปอด ให้ยาขับเสมหะ ยาขยายหลอดลม การผ่าตัด ใส่สายระบาย