Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Case COPD ผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปี (กิจกรรมการพยาบาล (1.ดูแลให้ 02…
Case COPD ผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปี
ข้อวินิจฉัย
1.ไม่ตระหนักในการดูแลสุขภาพตนเองเนื่องจากขาดความรู้เรื่องปอดอุดกั้น
2.ความทนในการปฏิบัติกิจกรรมลดลงเนื่องจากหายใจเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลีย
3.มีภาวะพร่องออกซิเจนเนื่องจากพื้นที่แลกเปลี่ยนก๊าซลดลง
การรักษา
1.เครื่องช่วยหายใจ BiPAP
.ใส่ท่อช่วยหายใจ
3.ให้อาหารทางสายยาง NG Tube
Breo Ellipta 100-25 mcg, hydralazine 50 mg, levothyroxine 175 mcg
กิจกรรมการพยาบาล
1.ดูแลให้ 02 ตามแผนการรักษา
2.จัดให้นอนในท่าศีรษะสูงอย่างน้อย 30-45 องศา ทำให้ปอดสามารถขยายตัวได้ดีขึ้น
3.Record vital sign และ Sa02ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการผิดปกติ
4.เฝ้าระวังและประเมินอาการแสดงของภาวะ C02 narcosis เช่น ซึมลงหายใจช้าลงเรื่อยๆ (RR 14 ครั้ง/นาที) หรือหยุดหายใจ Sa02 <88%หรือ>92%ควรรีบรายงานแพทย์
5.ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะ hypoxia เช่น กระสับกระส่ายสับสนระดับความรู้สึกตัวลดลงหายใจเร็ว-ตื้น หอบ เหนื่อย ใช้กล้ามเนื้อช่วยในการหายใจ ปลายมือปลาย เท้าเย็น ริมฝีปากเขียวคล้ำประเมินอย่างน้อยทุก1 ชั่วโมง
6.ดูแลให้ยาขยายหลอดลมตามแผนการรักษาและเฝ้าระวังผลข้างเคียงของยา
7.ดูแลให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษาและเฝ้าระวังผลข้างเคียงของยา หากมีไข้ให้ยาลดไข้ตามแผนการรักษาและเช็ดตัวลดไข้
8.ติดตามผล WBC / Chest x-ray/ sputum culture ถ้าผิดปกติควรรายงานแพทย์
การวินิจฉัย
1.CPM การตรวจหาสารเคมีในร่างกาย
2.EKG
3.Chest X-ray การตรวจเอกซเรย์ทรวงอก เป็นการเอกซเรย์ดูความผิดปกติของปอดและอวัยวะบริเวณช่วงอก
เมื่อหลอดลมได้รับการระคายเคืองบ่อย ๆ จะทำให้เยื่อบุหลอดลมโดยเฉพาะต่อมเมือก (Mucous gland) หลังสารคัดหลั่งออกมา ต่อมาเซลล์จะมีขนาดใหญ่และเพิ่มจำนวนมากขึ้นทำให้ผนังหลอดลมหนาตัวขึ้นและความยืดหยุ่นเสียไป ท่อหลอดลมจะตีบแคบลง ผู้ป่วยที่สูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่จะทำให้ขนกวัดในเซลล์เยื่อบุหลอดลมเคลื่อนไหวได้น้อยลง ต่อมและเซลล์เมือกไม่สามารถขับมูกจำนวนมากที่เหนียวออกไปได้ ส่วนโรคถุงลมปอดโป่งพองเกิดจากมีการระคายเคืองของเยื่อบุหลอดลมเป็นเวลานาน เมือกที่ฉาบอยู่บนผิวของหลอดลมถูกทำลาย ทำให้ผนังหลอดลมหนาตัวขึ้นและกลายเป็นแผลเป็น ขนกวัดถูกทำลายจึงทำให้สารที่เป็นอันตรายต่าง ๆ รวมทั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัสสามารถแทรกเข้าสู่เซลล์ของหลอดลม มีการอักเสบและสร้างเสมหะออกมามาก และเมื่อกลไกการขับเสมหะตามปกติถูกทำลายไปจะทำให้เสมหะที่สร้างขึ้นนั้นจับตัวกันเป็นก้อนอุดหลอดลมไว้อากาศผ่านเข้าออกจากถุงลมไม่ได้จึงดันให้ถุงลมโป่งออก ถุงลมสูญเสียความยืดหยุ่น คือ ยืดได้หดไม่ได้ เมื่อมีการคั่งของอากาศนาน ๆ เข้าถุงลมจะยิ่งโป่งออกจนมีการฉีกขาดและหลอดเลือดบริเวณนั้นถูกทำลาย พื้นที่ผิวในการแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง มีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนออกซิเจนในเลือดจะต่ำลง หัวใจซีกขวาต้องทำงานหนักซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดหัวใจซีกขวาล้มเหลว เรียกภาวะนี้ว่าคอร์พูลโมเนล (Cor pulmonale)
สาเหตุ
สูบบุหรี่มาประมาณ 30 ปี เลิกสูบเมื่อ 2 ปีก่อน
อาการ
หายใจลำบาก
อ่อนเพลีย
บวมกดบุ๋ม 2+ ที่ขา 2 ข้าง
ผิวแห้งมาก
หายใจถี่ขึ้น
พยาธิสภาพ
นางสาวเยาวภา วงษ์ดวง UDA6080094