Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ (ฉบับที่…
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า“ ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๓๑ แห่งข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน“
ข้อ ๓๑ การสอบสวนกรณีที่ถูกกล่าวหาหรือถูกกล่าวโทษว่าประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพให้คณะอนุกรรมการสอบสวนดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับ แต่วันที่ประธานอนุกรรมการสอบสวนได้แจ้งและอธิบายข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษให้ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษทราบและให้ดำเนินการสอบสวนโดยไม่ชักช้าดังต่อไปนี้
(๑) ดำเนินการประชุมตามข้อ ๒๗ แล้วให้แจ้งและอธิบายข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษตามข้อ ๓๓ ให้ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษทราบ
(๒) รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กล่าวหาหรือกล่าวโทษภายหลังจากได้ดำเนินการตาม (๑)
แล้วเสร็จ
(๓) แจ้งข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษตามข้อ ๓๔ ให้ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษทราบภายหลังจากที่ได้ดำเนินการ (๒) แล้วเสร็จ
(๔) รวบรวมพยานหลักฐานที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษอ้างให้แล้วเสร็จภายหลังจากที่ได้ดำเนินการตาม (๓) แล้วเสร็จ
(๕) ประชุมพิจารณาลงมติและทำรายงานการสอบสวนเสนอต่อคณะกรรมการภายหลังจากที่ได้ดำเนินการตาม (๕) แล้วเสร็จ
ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๖๐/๑ แห่งข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ ข้อ ๖๐/๑ กรณีปรากฏว่าผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาถูกกล่าวหาหรือกล่าวโทษว่าประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพอย่างร้ายแรงซึ่งส่วนราชการหน่วยงานบังคับบัญชามีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงและพักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือหน่วยงานบังคับบัญชาที่มิใช่ส่วนราชการให้ออกจากหน้าที่การปฏิบัติงานและมีการแจ้งข้อกล่าวหาในการดำเนินคดีอาญาตาม (๒) และ (๒) แล้วให้เลขาธิการนำเรื่องกล่าวหาหรือกล่าวโทษว่าประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพเสนอคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนทันทีเมื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนแล้วให้คณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยพักใช้ใบอนุญาตไว้ก่อนโดยไม่ต้องรอผลการสอบสวนก็ได้ในความผิดดังต่อไปนี้
(๑) มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือเกี่ยวข้องกับค้าประเวณีตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. ๒๕๓๙ หรือเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑
(๒) มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการกระทำล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียนหรือนักศึกษาไม่ว่าจะอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของตนหรือไม่หรือกระทำล่วงละเมิดทางเพศกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาหรือบุคคลอื่น
(๓) ถูกฟ้องคดีอาญาในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์หรือทุจริตต่อหน้าที่”
ข้อ ๕ ให้ยกเลิกความในข้อ ๖๐/๒ แห่งข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ ข้อ ๖๐/๒ การวินิจฉัยพักใช้ใบอนุญาตตามข้อ ๖๐/๑ ให้วินิจฉัยพักใช้ใบอนุญาตทุกประเภทตลอดระยะเวลาการสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพและการพิจารณาวินิจฉัยของคณะกรรมการนับ แต่วันที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษได้รับทราบคำวินิจฉัยเว้นแต่ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษได้อุทธรณ์คำวินิจฉัยดังกล่าวและคณะกรรมการคุรุสภาเห็นว่าคำอุทธรณ์ฟังขึ้น
และสมควรยกเลิกคำวินิจฉัยพักใช้ใบอนุญาตหรือการสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพและการพิจารณาวินิจฉัยของคณะกรรมการได้ล่วงพ้นหนึ่งปีนับ แต่วันพักใช้ใบอนุญาตยังไม่แล้วเสร็จ
ข้อ ๖ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นหมวด ๑๔ ความผิดที่ปรากฏชัดแจ้งข้อ ๖๐/๕ ข้อ ๖๐/๖ แห่งข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๓
หมวด ๑๔
ความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง
ข้อ ๖๐/๕ กรณีผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาถูกกล่าวหาหรือกล่าวโทษว่าประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพไม่ร้ายแรงเป็นกรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้งให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดตามควรแก่กรณีตามข้อ ๕๕ (๒) (๓) โดยไม่สอบสวนหรืองดการสอบสวนก็ได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) กระทำความผิดอาญาจนต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้นั้นกระทำผิดและคณะกรรมการเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามคำพิพากษานั้นได้ความประจักษ์ชัดแล้ว
(๒) กระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรงและได้รับสารภาพเป็นหนังสือหรือให้ถ้อยคำรับสารภาพและได้มีการบันทึกถ้อยคำรับสารภาพเป็นหนังสือ
ข้อ ๖๐/๖ กรณีผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาถูกกล่าวหาหรือกล่าวโทษว่าประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพอย่างร้ายแรงเป็นกรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้งให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดตามควรแก่กรณีตามข้อ ๕๕ (๔) โดยไม่สอบสวนหรืองตการสอบสวนก็ได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) กระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุกหรือโทษที่หนักกว่าจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกหรือให้ลงโทษที่หนักกว่าจำคุกเว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๒) ละทิ้งหน้าที่ติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินสิบห้าวันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงและได้ดำเนินการสืบสวนแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรหรือมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบและเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง
(๓) ประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพอย่างร้ายแรงหรือกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงและได้รับสารภาพเป็นหนังสือหรือให้ถ้อยคำรับสารภาพและได้มีการบันทึกถ้อยคำรับสารภาพเป็นหนังสือ”