Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 2 ผู้นำกับการบริหาร, นางสาวจีราพรรณ์ บุรีแก้ว 60440101002 -…
หน่วยที่ 2
ผู้นำกับการบริหาร
ภาวะผู้นำทางการพยาบาล (Nursing Leadership)
ความมีประสิทธิภาพของภาวะผู้นำ
ผลที่เกิดขึ้นของกลุ่ม (Outcome)
ทัศนคติของผู้ตาม (Attitude of Followers)
คุณภาพของกระบวนการกลุ่ม (Quality of Group Process)
องค์ประกอบของภาวะผู้นำทางการพยาบาล
มีคุณธรรม จริยธรรม
การตระหนักในตนเอง
พิทักษ์สิทธิ์
กล้าหาญชาญชัย
กระบวนการภาวะผู้นำทางการพยาบาล
บทบาทของผู้นำทางการพยาบาล
มีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคต่าง ๆ ในการปฏิบัติการพยาบาลจนเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้อื่น
การร่วมมือในการแก้ปัญหาต่าง ๆ โดยให้ทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบ
การเปลี่ยนแปลงบทบาทตามสถานการณ์ ผู้นำควรทำตัวให้เห็นว่าเป็นปุถุชนธรรมดาย่อมต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่น
ผู้นำควรส่งเสริมการทำงานของสมาชิก โดยการให้งานตามความถนัด และความสามารถของแต่ละบุคคล
ควบคุมการกระทบกระทั่งระหว่างสมาชิก
ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
รู้จักการใช้อำนาจบังคับและออกคำสั่งในกรณีจำเป็น เพื่อให้งานประสบผลสำเร็จ
การเตรียมผู้นำทางการพยาบาล
ผู้นำทางการพยาบาล ควรเป็นพยาบาล โดยเหตุผลที่ว่าผู้นำที่เป็นพยาบาลย่อมได้รับการศึกษาและมีประสบการณ์อย่างดีทางด้านการพยาบาล และเข้าใจความสำคัญของการให้การพยาบาลที่มีประสิทธิภาพได้ดีกว่าผู้อื่นที่มิใช่พยาบาล
ความหมาย
ภาวะผู้นำ หมายถึง การกระทำที่มีอิทธิพลจูงใจให้ผู้อื่นร่วมมือปฏิบัติงานเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย
การทำงานเป็นทีม
และทีมการพยาบาล
ลักษณะเฉพาะของทีมการพยาบาล
หัวหน้าทีมจะต้องเป็นพยาบาลระดับวิชาชีพ
รูปแบบการบริหารภายในทีม จะเป็นแบบประชาธิปไตยหรือการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม
ทีมจะต้องรับผิดชอบในการให้การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับมอบหมายอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ
มีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างสมาชิกทีมการพยาบาลการสื่อสารภายในทีมจะประกอบด้วย การพูดและการเขียน
การจัดตั้งทีมการพยาบาล
หัวหน้าทีม หัวหน้าทีมจำเป็นต้องเป็นพยาบาลระดับวิชาชีพและจะต้องเป็นผู้มีทักษะมีความรู้ความสามารถอย่างดีในการพยาบาล
จำนวนทีมและขนาดของทีม โดยปกติแล้วในแต่ละหอผู้ป่วยจะแบ่งออกเป็น 2 ทีม หรือมากกว่า การกำหนดจำนวนทีมและขนาดของทีมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการคือ
จำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในหอผู้ป่วยและจำนวนบุคลากรในแต่ละเวร
ลักษณะของหอผู้ป่วย
ประเภทของผู้ป่วยที่รับผิดชอบ
ศักยภาพของหัวหน้าทีม
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
หัวหน้าทีม รับผิดชอบเกี่ยวกับการปฏิบัติการพยาบาลทั้งหมดภายในทีม
สมาชิกทีม วางแผนการพยาบาลผู้ป่วยที่รับผิดชอบโดยมีหัวหน้าทีมเป็นผู้ให้คำปรึกษา เข้าร่วมการประชุมปรึกษาก่อนและหลังให้การพยาบาล เสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมาชิกทีมคนอื่น ๆ ปฏิบัติการพยาบาลที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าทีม รายงานอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย รายงานผลการปฏิบัติงานแก่หัวหน้าทีม
หัวหน้าหอผู้ป่วย จัดแบ่งทีม เลือกพยาบาลวิชาชีพที่มีความรู้ความสามารถและมีภาวะผู้นำเป็นหัวหน้าทีม รับผิดชอบในการบริหารงานทั่วไป ในหอผู้ป่วย กระทำตนเป็นทรัพยากรบุคคล สนับสนุนประคับประคองและเป็นผู้พัฒนาทีม จัดประชุมบุคลากรเพื่อศึกษาปัญหาและความต้องการภายในหอผู้ป่วย ทำการประเมินผลอย่างเป็นทางการ รับผิดชอบเกี่ยวกับการสื่อสาร ประสานงานทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจในเรื่องสำคัญ
อำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ และภาระรับผิดชอบ
ภาระรับผิดชอบต่อผลงานในวิชาชีพการพยาบาล
พยาบาลทุกคนต่างมีอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบตามกฎหมายในขอบเขตของตน พยาบาลระดับปฏิบัติการก็มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการให้บริการทางสุขภาพแก่ผู้ใช้บริการ พยาบาลในระดับผู้บริหารก็มีอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบตามกฎหมายในขอบเขตสายการบังคับบัญชา ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายขององค์กร
ทฤษฎีภาวะผู้นำ
ทฤษฎีพฤติกรรมผู้นำ (Behavioral Theories)
แนวคิด ให้มองในสิ่งที่ผู้นำปฏิบัติและชี้ให้เห็นว่าทั้งผู้นำและผู้ตามต่างมีอิทธิพลซึ่งกันและกัน
รูปแบบการมีส่วนร่วม (Participation)
มีการติดต่อสื่อสาร 2 ทางหรือรับฟังเรื่องราว ปัญหาต่าง ๆ จากผู้ตามคอยให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ
ทฤษฎีตามสถานการณ์ (Situational or Contingency Leadership Theories)
พฤติกรรมมุ่งงาน (Task Behavior) คือ ผู้นำที่กำหนดรายละเอียดและขอบเขตของงาน แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งจะบอกให้รู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาต้องทำอะไร อย่างไร ที่ไหน และเสร็จเมื่อไร
พฤติกรรมมุ่งความสัมพันธ์ (Relationship Behavior) คือผู้นำที่พยายามและรักษา ความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชา โดยให้โอกาสในการติดต่อได้สะดวก พยายามสร้างบรรยากาศที่ เป็นกันเอง และให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวกกับผู้ตามในทุก ๆ ด้าน
ทฤษฎีภาวะผู้นำเชิงปฏิรูป (Transformational Leadership Theories)
ทฤษฎีความเป็นผู้นำเชิงปฏิรูป (Transformational Leadership Theory) เดิม เบิร์น เชื่อว่า ผู้บริหารควรมีลักษณะความเป็นผู้นำเชิงเป้าหมาย (Transactional Leadership) โดยอธิบายว่า เป็นวิธีการที่ผู้บริหารจูงใจผู้ตามให้ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ด้วยการระบุข้อกำหนดงานอย่างชัดเจนและให้รางวัล เพื่อการแลกเปลี่ยนกับความพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายของผู้ตาม การแลกเปลี่ยนนี้จะช่วยให้สมาชิกพึงพอใจในการทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายของงาน
ทฤษฎีคุณลักษณะภาวะผู้นำ (Trait Theories)
The tasks of Leadership : กล่าวถึงงานที่ผู้นำจำเป็นต้องมี 9 อย่าง ได้แก่ มีการกำหนดเป้าหมายของกลุ่ม มีบรรทัดฐานและค่านิยมของกลุ่ม รู้จักสร้างและใช้แรงจูงใจ มีการบริหารจัดการ มีความสามารถในการปฏิบัติการ สามารถอธิบายได้ เป็นตัวแทนของกลุ่ม แสดงถึงสัญลักษณ์ของกลุ่ม และมีความคิดริเริ่มสร้างสรร
Leader – constituent interaction เชื่อว่าผู้นำต้องมีพลังวิเศษเหนือบุคคลอื่นหรือมีอิทธิพล เหนือบุคคลอื่นๆเพื่อที่สนองตอบความต้องการขั้นพื้นฐาน ความคาดหวังของบุคคล และผู้นำต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง
ทฤษฎีภาวะผู้นำเชิงบารมี (Charismatic Leadership)
ภาวะผู้นำที่อธิบายถึงผู้ที่มีบทบาท มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงในเชิงทัศนคติและความรู้สึกของสมาชิกในองค์กร โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีความไม่ลงตัว มองประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง กล้าเสี่ยง กล้าลอง กล้าท้าทาย
กระบวน การตัดสินใจ วินิจฉัยสั่งการและการแก้ปัญหา
กระบวนการแก้ปัญหา
ขั้นที่ 1 การระบุปัญหา
ขั้นที่ 2 วิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา
ขั้นที่ 3 วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาโดยการตั้งสมมุติฐาน
ขั้นที่ 4 การนำทางเลือกไปใช้แก้ปัญหา
ขั้นที่ 5 การติดตามผล
นางสาวจีราพรรณ์ บุรีแก้ว 60440101002