Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิดและทฤษฎีการบริหาร, นางสาวพิไลวรรณ คำภีระ 60440101007 - Coggle Diagram
แนวคิดและทฤษฎีการบริหาร
แนวคิดเกี่ยวกับการบริหารงานพยาบาล
ความหมายและความสำคัญ
ความหมาย
กิจกรรมต่าง ๆ ที่บุคลากรตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมาร่วมกันในการนำเอาทรัพยากรการบริหารมาดำเนินการตามกระบวนการบริหาร โดยการใช้ศาสตร์และศิลปะ เพื่อให้บุคลากรทางการพยาบาลสามารถให้การพยาบาลที่มีคุณภาพ โดยบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำคัญ
การบริหารการพยาบาลช่วยให้บุคลากรพยาบาลร่วมกันทำงานในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การบริหารการพยาบาลจะช่วยชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มทั้งในด้านความเจริญและความสำเร็จของสังคมในอนาคต
องค์กรพยาบาลจะคงสภาพอยู่ มีความก้าวหน้า หรือถอยหลังขึ้นอยู่กับคุณภาพของการบริการ
การบริหารการพยาบาลซึ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ และมีความสลับซับซ้อนจะต้องมีการจัดระบบระเบียบขององค์กร
การบริหารการพยาบาลมีลักษณะต้องใช้การวินิจฉัยสั่งการเป็นเครื่องมือ
การบริหารการพยาบาลที่ดี ย่อมก่อให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานเพราะสามารถให้การพยาบาลได้อย่างมีคุณภาพ
ชีวิตประจำวันของบุคลากรพยาบาลไม่ว่าในครอบครัวหรือในองค์กรพยาบาลย่อมมีส่วนเกี่ยวพันกับการบริหารอยู่เสมอ
รูปแบบของการบริหาร
การบริหารมุ่งผลงาน (Task center)
การบริหารโดยมุ่งตัวบุคคล (Personal center)
การบริหารที่มุ่งคนและงาน (Modern development
การบริหารที่มุ่งถึงประสิทธิภาพตามสถานการณ์
บทบาทผู้บริหารพยาบาล
หัวหน้าพยาบาลเป็นคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย ตัดสินใจและวางแผนเกี่ยวกับการสนับสนุนและการพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาล
หัวหน้าพยาบาลมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย ตัดสินใจและวางแผนเกี่ยวกับการสนับสนุนและการพัฒนาคุณภาพของหน่วยงานร่วมกับคณะกรรมการบริหารการพยาบาล
ผู้บริหารการพยาบาลทุกระดับ สนับสนุนให้บุคลากรทางการพยาบาล ในระดับต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการบริหาร การพัฒนาบริการพยาบาลและกิจกรรมขององค์กรพยาบาลโดยยึดหลักธรรมาภิบาล
4.สนับสนุนให้พยาบาลวิชาชีพได้รับการเตรียมและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการศึกษาพยาบาล การพัฒนาหลักสูตรการศึกษาพยาบาล ระบบการเรียนการสอนทางคลินิก เพื่อเสริมสร้างทัศนคติ ความรู้ความสามารถและการแลกปลี่ยนเรียนรู้สู่การเป็นพยาบาลที่ดีในอนาคต
องค์ประกอบของการบริหารงานพยาบาล
ทรัพยากรการบริหาร หรือปัจจัยการบริหาร (Administrative resources)
คน หรือบุคลากร (Man)
เงิน หรือ งบประมาณ (Money)
วัสดุอุปกรณ์ (Meterials
กระบวนการบริหาร (Administrative Processes)
การวางแผน (Planning)
การจัดการองค์กร (Organizing)
การจัดบุคลากร (Staffing)
การอำนวยการ (Directing)
การประสานงาน (Co-ordination)
การรายงาน (Reporting)
การงบประมาณ (Budgeting)
วัตถุประสงค์ของการบริหารงาน (Objective)
ประหยัด (Economic) ทั้งเวลา แรงงาน กำลังงาน และกำลังใจ สิ่งของ
มีประสิทธิผล (Effectiveness) คือทำงานสำเร็จ มีมีผลงานออกมาชัดเจน
มีประสิทธิภาพ (Efficiency) คืองานดี มีคุณภาพ และมีคุณค่า
แนวคิดเกี่ยวกับผลผลิตทางการพยาบาล
Operation target output : วัดผลการปฏิบัติงานตามเป้าหมายโดยวัดจำนวนผลผลิตที่นับได้ เช่น จำนวนผู้ป่วย
วันนอน จำนวนหัตถการ ฯลฯ
Performance indicators : วัดผลการดำเนินงานโดย KPI
Nursing outcomes: วัดคุณค่าที่เกิดขึ้นกับผู้รับผลงานเมื่อใช้บริการพยาบาลแล้วเป็นอย่างไร
ทฤษฎีการบริหาร
ยุคคลาสสิค(Classical or Traditional Theory)
ทฤษฎีการบริหารเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Management)
เฟรดเดอริค วินสโลว์ เทเลอร์ (Frederick winslow taylor)
1) ใช้วิธีการทำงานเชิงวิทยาศาสตร์กำหนดวิธีการทำงานเพื่อทดแทนการทำแบบลองผิดลองถูก
2) มีการวางแผนแทนการที่จะปล่อยให้คนงานเลือกวิธีการเอง
3) คัดเลือกคนงานที่มีความสามารถ แล้วฝึกอบรมให้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆร่วมกัน
4) ใช้หลักแบ่งงานกันทำระหว่างผู้บริหารและคนงาน หัวใจสำคัญของหลักการดังกล่าวคือ “การกำหนดวิธีการทำงานที่ดีที่สุด" (One Best Way) จากวิธีการเชิงวิทยาศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า "time and motion study)
เฮนรี่ แก๊นต์ (Henry L. Gantt)
นำเอาเทคนิคการจัดตารางสำหรับการควบคุมการปฏิบัติงานมาใช้ เพื่อปรับปรุงและยกระดับประสิทธิภาพในการทำงาน
แฟรงค์ บังเกอร์ กิลเบรธ (Frank Bunker Gillbreth)
การทำงานด้วยการแบ่งงานออกตามความชำนาญเฉพาะด้านและแบ่งงานเป็นส่วนๆ (division to work) จะทำได้ดียิ่งขึ้น ถ้าได้มีการวิเคราะห์งานอย่างละเอียดถี่ถ้วนให้งานต่อเนื่องกันเป็นกระบวนตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งทำให้เกิดงานแบบประจำ (routine)
ทฤษฎีการจัดการเชิงบริหาร (administrative management)
เฮ็นรี่ ฟาโยล (Henry Fayol)
เป็นผู้บุกเบิกแนวคิดเกี่ยวกับการจัดการเชิงบริหาร (administrative management) เขาเชื่อว่าผู้บริหารจะประสบผลสำเร็จได้ หากเข้าใจหน้าที่พื้นฐานและหลักการบริหารดีพอ
ลูเทอร์ กูลิคและลินดอลล์ เออร์วิค (Luther Gulick and Lyndall Urwick)
การวางแผน (planning) คือ การวางแผนปฏิบัติงานล่วงหน้าว่าจะทำอะไร ทำอย่างไร เพื่อให้งาน
บรรลุเป้าหมาย
การจัดองค์การ (organizing) คือ การจัดโครงสร้างของงานต่าง ๆ ขององค์การ และกำหนดอำนาจหน้าที่จัดสายบังคับบัญชาว่า ใครบังคับบัญชาใคร ติดต่อสื่อสารในลักษณะใด
การอำนวยการ (directing) คือการอำนวยการ ซึ่งได้แก่ภาวะผู้นำ การวินิจฉัยสั่งการ การควบคุม
บังคับบัญชา และการติดตามผลการปฏิบัติงาน
การจัดบุคลากร (staffing) คือ การดำเนินการเกี่ยวกับบุคลากรขององค์กรหรือการบริหารงาน
บุคคล
การประสานงาน (coordinating) คือการประสานงานในด้านกิจการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความร่วมมือ
และไม่ซ้ำซ้อน
การบันทึกรายงาน (reporting) คือ การรายงานผลการปฏิบัติงานให้ผู้บริหารทราบความก้าวหน้า
หรือปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน
งบประมาณ (budgeting) คือ การจัดทำงบประมาณเพื่อการบริหาร
ทฤษฎีระบบราชการ (bureaucracy)
การบริหารการพยาบาลยังคงมีสายการบังคับบัญชาตามระดับขั้นจากสูงมาต่ำ การปฏิบัติงานล่าช้า (redtape) มีหลายขั้นตอน บางครั้งก่อให้เกิดการสร้างอาณาจักร (empire building) เน้นในกฎระเบียบแบบแผน ทำให้บุคลากรพยาบาลไม่ค่อยกล้าที่จะริเริ่มสร้างสรรค์ใด ๆ แต่จะมีพฤติกรรมการทำงาน เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน
ยุุคนีโอคลาสสิค (NEO–Classical Theory)
ทฤษฎีมนุษยสัมพันธ์(Human Relation Theory)
การบริการองค์กรนอกจากจะยึดมั่นในผลสำเร็จของงานแล้วยังต้องคิดถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่จะทำให้งานสำเร็จได้นั่นคือตัวบุคคล
ทฤษฎีกลุ่ม (Work Group Theory)
แนวคิดทฤษฎีนี้เชื่อว่ามนุษย์จะทำงานคนเดียวไม่ได้ การทำงานเป็นกลุ่มหรือเป็นทีมย่อมมีประสิทธิภาพมากกว่าการงานคนเดียว
ทฤษฎีการตัดสินใจ(Decision Making Theory)
เชื่อถือเรื่องการตัดสินใจเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการบริหารงาน การตัดสินใจอยู่ที่การใช้ความคิดเมื่อข้อมูลเพียงพอ การเลือกทางเลือกจะต้องใช้สมอง และคิดอย่างทีเหตุผล
การบริหารสมัยใหม่หรือสมัยปัจจุบัน (Modern Theory)
การวางแผนองค์การ (corporate planning)
การวางแผนกลยุทธ์ที่สามารถปรับตัวด้านแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพ
การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์การ (corporate culture
ทฤษฎี 7’S
ปัจจัยที่ 1 Hard Ss เป็นอุปกรณ์แห่งความสำเร็จ
1) โครงสร้าง (structure) หมายถึง การจัดระเบียบองค์ประกอบขององค์การที่เหมาะสม จะช่วยให้องค์การนั้นประสบผลสำเร็จ
2) กลยุทธ์ (strategy) หมายถึง แผนกำหนดวิธีการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร จะต้องมีแผนพัฒนา มีโครงการไว้อย่างเด่นชัด
3) ระบบ (system) หมายถึง วิธีการดำเนินงานขององค์กร ระเบียบวิธีปฏิบัติงาน
ปัจจัยที่ 2 Soft Ss คือ ส่วนเนื้อหาแห่งความสำเร็จ
1) แบบการบริหาร (style) ลักษณะพฤติกรรมของผู้บริหารในองค์การที่รู้งานและทำงานอย่างจริงจัง
2) บุคลากร (staff) หมายถึง คุณลักษณะของบุคลากร หน่วยงานจะประสบผลสำเร็จจะต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มีทัศนคติและพฤติกรรมการทำงานที่ตอบสนองเป้าหมายขององค์กร
3) ทักษะ (skills) หมายถึง ความสามารถเด่นของผู้บริหารในองค์การที่มีความเข้มงวดและผ่อน
ปรนอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง
4) ค่านิยมร่วม (shared values) หรือเป้าหมาย สูงสุด หมายถึง ผลรวมของค่านิยมส่วนบุคคล
บุคลากรมีความเชื่อมั่นในศักยภาพขององค์การและตนเองร่วมกัน
การบริหารคุณภาพทั้งองค์การ (T.Q.M.=total quality management)
หลักการบริหารคุณภาพโดยรวม
1) มุ่งสนใจลูกค้า/ผู้รับบริการ(customer focus)
2) ปรับปรุงสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้น (process improvement)
3) ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมทั่วทั้งองค์กร(total involvement)
การรื้อปรับระบบ (reengineering)
หมายถึง การสร้างกระบวนการทำงานขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพความเปลี่ยนแปลง ประสบการณ์ ตลอดจนวิทยาการต่าง ๆ ในปัจจุบันเพื่อให้เกิดประโยชน์และคุฯค่าสูงสุดแก่ลูกค้า
นางสาวพิไลวรรณ คำภีระ 60440101007