Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การใช้กระบวนการพยาบาลในการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกัน ฟิ้นฟู…

- - - - ระยะแรกไม่มีอาการผิดปกติ
      - ตามัว
    - - ยิงด้วยเลเซอร์
        
        ทำในกรณีที่จุดรับภาพส่วนกลางบวมและมีเส้นเลือดผิดปกติงอกใหม่
      - ฉีดยาเข้าในวุ้นตา
        
        เพื่อรักษาโรคจุดกลางรับภาพจอประสาทตาบวมจากเบาหวาน
      - การผ่าตัดน้ำวุ้นตา
        
        กรณีที่โรครุนแรงจนมีเลือดออกในวุ้นตา
    - - แนะนำให้ตรวจจอประสาทตาปีละ 2ครั้ง
      - ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
      - แนะนำให้ควบคุมระดับน้ำตาลให้คงที่
  - - - ปวดตา เคืองตา กลัวแสง น้ำตาไหล ตาแดงแบบใกล้ตาดำ
    - - กำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดแผล
      - ส่งเสริมให้เกิดการแข็งแรงของร่างกาย
      - หาเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ
      - บรรเทาอาการปวดด้วยการให้ยาแก้ปวด
    - - อุบัติเหตุ
      - ตาปิดไม่สนิทขณะหลับ
      - มีความผิดปกติของกระจกตา
      - ความผิดปกติบริเวณหนังตา
      - กระจกตามีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคต่ำ
      - โรคทางกายภาพที่ทำให้ภูมิคุ้นกันร่างกายบกพร่อง
      - การใส่เลนส์สัมผัส
    - - หยอดตาตามแผนการรักษา
      - แนะนำผู้ป่วยห้ามขยี้ตา อย่าให้น้ำเข้าตา
      - เช็ดตาวันละ 1-2ครั้ง
      - นอนตะแคงข้างที่เป็นเพื่อป้องกันเชื้อไปอีกข้าง
      - แยกทุกอย่างของคคนไข้ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
      - ให้ผู้ป่วยได้รับพักผ่อนและได้รับวารอาหารที่เพียงพอ
      - ตรวจเยี่ยมผู้ป่วยสม่ำเสอม
  - - - การผ่าตัดเอาแก้วตาออกชนิด IICE
      - การถูกกระทบกระเทือนที่ตา หรือของแหลมทิ่มถึงชั้นของจอประสาทตา
      - มีการเสื่อมของจอประสาทหรือน้ำวุ้นตา
    - - มองเห็นแสงวูบคล้ายฟ้าแลบ
      - ตามัว การมองเห็นเลวลง
      - เห็นแสงจุดดำหรือเส้นลอยไปลอยมา
    - - การฉีดแก๊สเข้าไปในตา
      - การผ่าตัดหนุนจอประสาทตา
      - Cryocoagulation
      - การผ่าตัดน้ำวุ้นลูกตา
    - - หลังผ่าตัด
        
        ประเมินอาการปวด
        
        ดูแลให้นอนคว่ำหน้า หรือนั่งคว่ำหน้าวันละ 16ชม.
        
        วัดความดันหลังผ่าตัด 4-6ชม.
        
        ให้รับประทานอาหารอ่อน
        
        ประเมินอาการท้องผูก
      - ก่อนผ่าตัด
        
        แนะนำผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการขยี้ตา ส่ายศีรษะและใบหน้าแรงๆ
        
        แนะนำผู้ป่วยห้ามก้มหน้า
        
        ดูแลให้ผู้ป่วยนอนนิ่งๆบนเตียง
        
        ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรค แผนการรักษา การผ่าตัด
      - เมื่อกลับบ้าน
        
        หลักผ่าตัด 2 เดือนแรก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หักโหม
        
        ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดหน้าเบาๆเฉพาะข้างที่ไม่ได้ผ่าตัด
  - - - Rebleeding
      - Increase intreocular pressure
      - Blood stain cornea
    - - ให้นอนนิ่งๆศีรษะสูง
      - ปิดตาทั้งสองข้าง
      - อาจได้รับยา สเตียรอยส์ เพื่อป้องกันภาวะ rebleeding
      - ดูแลให้รับยาแก้ปวด
      - เมื่อครบ 5-7วัน สามารถกลับบ้านได้
    - - ปิดตาทั้งสองข้างที่มีเลือดออก
      - เช็ดตาให้ผู้ป่วยทุกวันในตอนเช้าพร้อมทั้งประเมินว่ามีเลือดออกไหม
      - แนะนำให้นอนนิ่งๆ 3-5วัน
      - ถ้าผู้ป่วยปวดตาต้องติดตามประเมินอาการปวดตาหลังรับประทานยาแก้ปวด 30นาที
  - - - หลีกเลี่ยงการไอจามแรงๆ
      - การเครื่อนย้ายต้องระมัดระวังการกระทบกระเทือน
      - จัดท่าไม่ให้นอนทับข้างที่ผ่าตัด
      - รับประทานอาหารอ่อน
      - ห้ามแบ่งอุจจาระ
    - - ECCE
      - PE C IOL
      - IICE
    - - มองเห็นภาพซ้อน
      - สายตาสั้นลง
      - ตามัว
    - - ค่อยๆแปรงฟัง
      - หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง
      - ระวังอย่าให้น้ำเข้าตา
      - หลีกเลี่ยงยกของหนักกว่า 5kg
      - ไม่ควรใช้สายตานานเกิน 1ชม.
      - เน้นกลางคืนปิดฝาครอบตา กลางวันใส่แว่นสีชา
    - - ความผิดปกติโดยกำเนิด
      - โดนของมีคม โดนกระทบกระเทือนที่ตา
      - ความเสื่อมตามวัย
        
        ต้อกระจกที่สุกแล้ว ตาขุ่นทั้งหมด เหมาะแก่การผ่าตัดที่สุด
        
        ต้อกระจกที่ยังไม่สุก ตาขุ่นไม่มาก
        
        ต้อกระจกที่สุกเกินไป
  - - - ล้างตาให้เร็วที่สุด
      - หากเกิดภาวะ corneal abrasion อาจได้รับการป้ายยา terramycin ointment และปิดตาแน่นไว้ 24ชม.
      - การผ่าตัด การขูดเซลล์กระจกตาที่ตายแล้วออก การปลูกถ่ายเยื่อหุ้มรกเพื่อปิดแผล
      - การรักษาด้วยยาขึ้นอยู่กับความรุนแรง
    - - ล้างตาให้ผู้ป่วยโดยเร็วที่สุด โดยใช้เวลาอย่างน้อย 30นาที
      - ดูแลบรรเทาอาการปวด
  - - - มีการคั่งของน้ำเอเควียส
      - การใช้ยาที่มีสารฮอร์โมนพวกคอร์ติโคสเตียรอยด์ติดต่อเป็นเวลานาน
      - ขั้วตาผิดปกติ
      - เนื้องอกในลูกตา
      - ความเสื่อมของเนื้อเยื่อภายในลูกตา
      - อุบัติเหตุในตา
      - ความดันในลูกตาสูงกว่าปกติ (10-20)
    - - ต้อหินทุติยภูมิ
        
        เกิดจากมีความผิดปปกติภายในลูกตา
      - ต้อหินแต่กำเนิด
        
        ต้อที่เกิดจากมี development anormalies
      - ต้อหินปฐมภูมิ
        
        ชนิดมุมปิด
        
        ปิดตีบไปเลย ทำให้มีน้ำคั่ง ความดันในลูกตาสูงขึ้น
        
        ชนิดมุมเปิด
        
        แคบลง ระบายน้ำออกได้น้อยลง ความดันในลูกตาสูงขึ้นที่ละน้อย
    - - อาการ
        
        ปวดตาสู้แสงไม่ได้
        
        ตามัว
        
        ปวดศีรษะมาก
        
        บางคนมองเห็นแสงสีรุ้งรอบๆดวงไฟ
      - การรักษา
        
        ลดความดันลูกตา
        
        ให้ยาหยอดตาและยารับประทานทางปาก หรือฉีด
        
        ต้องรีบรักษ
        
        การเห็นดีขึ้นจึงนัดผ่า
    - - อาการ
        
        ความดันลูกตาสูงขึ้นเล็กน้อย
        
        ตาพล่ามัว
        
        อาจไม่่รู้สึกอะไรเลย
        
        ลานสายตาจะค่อยๆแคบลง
      - การรักษา
        
        ควบคุมความดันให้อยู่ระดับปกติ
        
        นัดมาตรวจเป็นระยะๆ
    - - เตรียมตัวก่อนยิ่งเลเซอร์
      - หากมีอาการตาแดง น้ำตาไหล ปวดตามาก ตามัวลง หรือตาสู้แสงไม่ได้ ให้มาตรวจก่อนวันนัด
      - สอนวิธีหยอดตา
      - แนะนำให้ใส่แว่น หลีกเลี่ยงการขยี้ตา
      - อธิบายให้เข้าใใจเกี่ยวกับโรคและการรักษา
- - - - ตรวจหู otoscopy
      - กรณีตรวจหูแล้วไม่พบอะไร ตรวจศีรษะเพิ่ม
      - ภายนอก ดู คลำ
      - MRT CTscan
      - นัดตรวจซ้ำเป็นระยะ ในกรณีที่ตรวจไม่พบอะไร แต่ยังมีอาการปวดอยู่
    - - Tuning fork test
      - Audiometry
      - การตรวจโดยใช้คำพูด
    - - หูอื้อ
      - มีเสียงดังในหู
      - มีน้ำหนองไหลออกจากหู
      - อาการวิงเวียนศีรษะ
      - อาการปวดหู
  - - - หินปูนเกาะบริเวณฐานกระดูกโกลน
        
        อาการ
        
        หูอื้อ บางรายมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนขณะเปลี่ยนท่า
        
        พยาธิสภาพ
        
        มีการเพิ่มของ Osteoblastic, Osteoclasvtic activity บริเวณ stapes footplate ทำให้เกิด otosclerosis
        
        สาเหตุ
        
        ไม่ทรายแน่ชัด
        
        การรักษา
        
        เป็นไม่มาก ใช้เครื่องช่วยฟัง
        
        เป็นมาก จะเอากระดูกที่มีพยาธิสภาพออก ใส่กระดูกเทียม
      - การบาดเจ็บจากแรงดันของหู
        
        อาการ
        
        ปวดหู แน่นหู หรือสูญเสียการได้ยินแบบ CHL
        
        พยาธิสภาพ
        
        ความดันในหูชั้นกลางมีความแตกต่างจากบรรยากาศภายนอก
        
        จากผลการปป.ความดันอากาศหรือความดันในหูชั้นกลางและโพรงกกหู
        
        เน้นป้องกัน
      - โรคหูน้ำหนวก
        
        ภาวะน้ำขังค้างของเหลวอยู่ในหูชั้นกลาง
        
        แบ่งเป็น
        
        Acute Otitis media
        
        สาเหตุ
        
        เป็นหวัด คัดจมูก คออักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ
        
        ท่อยูสเตเชียนอุดตัน
        
        เพดานโหว่
        
        ใช้แรงในการดูดนมมาก
        
        เนื่้องอกบริเวณหลังโพรงจมูกไปอุดตันท่อยูสเตเซียน
        
        เปลี่ยนความดันในหูไม่ทัน ขณะขึ้นเครื่องบิน
        
        อาการ
        
        สูญเสียการได้ยิน
        
        รู้สึกมีน้ำขังอยู่ในหูตลอดเวลา
        
        ตรวจหูด้วย otoscopy พบเยื่อแก้วหูมีลักษณะนูนโป่ง ปวดหูร่วมด้วย
        
        การรักษา
        
        การรักษาทางยา ให้ยาแก้แพ้ลดอาการคัดแน่นในจมูกและยาปฏิชีวนะเพิ่มด้วย
        
        การทำ Myringostomy ในรายที่รักษาทางยาไม่หาย
        
        หลังทำ ห้ามแคะหู ห้ามน้ำเข้าหู ถ้ามีหนองไหลใช้สำลีสะอาดเช็ด
        
        ทำ valsava maneuver และ politzerisation
        
        Chronic Otitis media
        
        อาการ
        
        เยื่อแก้วหูทะลุ
        
        มีของเหลวไหลเป็นหนอง
        
        หูอื้อ สูญเสียการได้ยิน
        
        การรักษา
        
        ทางยา ให้ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยาลดการคัดแน่นจมูก
        
        ควรทำการผ่าตัดต่อไป
        
        สาเหตุ
        
        การรักษาไม่หายขาดของหูชั้นกลางอักเสบ และการกลับมาเป็นใหม่
    - - การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการเวียนศีรษะ
        
        การวินิจฉัย
        
        วิตกกังวล
        
        นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ
        
        เสี่ยงอุบัติเหตุ
        
        ขาดความรู้ในการปฏิบัติตน
      - ประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน
        
        สาเหตุ
        
        การติดเชื้อไวรัส
        
        การอุดตันของเลือดไปเลี้ยงที่หูชั้นใน
        
        กาารรั่วของน้ำในหูชั้นใน
        
        อาการ
        
        หูอื้อ
        
        การได้ยินลดลง
        
        เวียนศีรษะ
        
        การรักษา
        
        ไม่ทราบสาเหตุมักหายเอง
        
        ยาขยายหลอดเลือด
        
        หลีกเลี่ยงเสียงดัง
        
        ยาวิตามิน บำรุง
        
        หลีกเลี่ยงยาที่มีพิษต่อหู
        
        ยาลดอาการเวียนศีรษะ
        
        ลดอาการเค็ม
        
        นอนพักผ่อน
        
        หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
      - โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
        
        อาการ
        
        ประสาทหูเสื่อม
        
        เสียงดังในหู เวียนศีรษะ บ้านหมุน
        
        การรักษา
        
        ให้ยาบรรเทาอาการ
        
        จำกัดความเค็ม
        
        กินยาขยายหลอดเลือด
        
        หลีกเลี่ยงชา กาแฟ
        
        การปฏิบัติตน
        
        พยายามอย่ากินหรือดื่มหนัก
        
        หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเรือ
        
        เมื่อมีอาการเวียนศีรษะให้หยุดเดิน
        
        สาเหตุ ไม่ทราบแน่ชัด
      - หูตึงจากสูงอายุ
        
        อาการ
        
        การได้ยินลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
        
        การรักษา
        
        ใช้เครื่องช่วยฟัง
        
        จำกัดแคลอรี่
        
        สาเหตุ
        
        อายุเพิ่มมากขึ้น เลือดไปเลี้ยงที่หูชั้นในน้อยลง
      - โรคหินปูนในหูชั้นในหลุด
        
        อาการ
        
        เวียนศีรษะบ้านหมุน
        
        การรักษา
        
        การทำกายภาพบำบัด
        
        การผ่าตัด
        
        ด้วยยา
        
        ยาบรรเทาอาการวิงเวียน
        
        สาเหตุ
        
        เสื่อมตามวัย
        
        อุบัติเหตุ
    - - ขี้หูอุดตัน
        
        พยาธิสภาพ
        
        ขี้หูสร้างมากผิดปกติ พบในผู้สูงอายุ ต่อมสร้างขี้หูฝ่อ
        
        อาการ
        
        หูอื้อ ปวดหุ
        
        การรักษา
        
        ล้าง ใช้เครื่องมือดูด
      - สิ่งแปลกปลอมในหูชั้นนอก
        
        สาเหตุ
        
        มักพบในเด็กเล็ก ยัดของเล่น
        
        อาจทำให้เยื่อแก้วหูทะลุได้
        
        อาจทำให้การติดเชื้อ
        
        อาการ
        
        หูอื้อ
        
        รำคาญ
        
        สูญเสียการได้ยิน
        
        บางรายอาจมีอาการวิงเวียนจนถึงอัมพาตของใบหน้า
        
        การรักษา
        
        เป็นสิ่งมีชีวิตใช้ alc.70%หยอด หรือยาหยดประเภทน้ำมัน หยอดแล้วคีบออก
        
        ไม่มีชีวิต ใช้น้ำสะอาดหรือ NSSหยอด
        
        ถ้าเป็นของแข็งใช้เครื่องมือแพทย์คีบออก
      - เยื่อแก้วหูฉีกขาดเป็นรูทะลุ
        
        อาการ
        
        เจ็บปวดเฉียบพลัน
        
        สูญเสียการได้ยิน
        
        มีเสียงดังในหู
        
        มีเลือดออก
        
        มีอาการวิงเวียน
        
        การรักษา
        
        ทิ้งไว้เฉยๆ
        
        กินยากันติดเชื้อ
        
        1-2เดือนไม่หาย ทำ myringoplasty
        
        สาเหตุ
        
        เกิดจากของมีคม การเคะหู
        
        ได้ยินเสียงดังมากๆ
- - - - มีภาวะบวมของต่อมทั้ง2ข้าง
      - มีอาการอื่นๆร่วม
        
        อักเสบที่หูชั้นกลาง
        
        สูญเสียการได้ยิน
        
        ไข้รูมาติค
      - มีอากาารกลืนลำบากมาก
      - มีการเกิดฝีรอบทอนซิล
      - มีการกลับมาเป็นซ้ำ
      - รักษาด้วยยาไม่ได้ผล
    - - ไข้ ไอ เจ็บคอ กลืนลำบาก
      - รายที่พบต่อมอีนอยด์อักเสบร่วมด้วย
        
        หูชั้นกลางอักเสบ
        
        พูดเสียงขึ้นจมูก
        
        อาการหายใจทางปาก
    - - อธิบายหลังผ่าตัดอาจมีอาการเจ็บคอ คอแข็ง อาเจียน
      - แนะนำงดการใช้เสียงอย่างน้อย 7วัน
      - ควรหลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดร้อนหลังผ่าตัด
      - หลีกเลี่ยงแหล่งชุมชน7วันแรก
      - แนะนำให้รับประทานของเย็น
    - - Beta-hemolytic streptococci or staphylococi
      - การอักเสบเรื้อรัง อาจจะเกิดจากการเป็นโรคอื่นมาก่อน
- - - - จากการฉีดขาดของหลอดเลือดที่เยื่อบุจมูก
    - - เลือดออกจากผนังกั้นส่วนหน้า
        
        การรักษา
        
        การใช้สารเคมีหรือไฟฟ้า จี้
        
        การใช้ anterior nasal packing
      - เลืิอดออกจากผนังกั้นส่วนหลัง
        
        การรักษา
        
        posterior nasal packing
        
        arterial ligation
        
        arterial embolization
        
        laser photocoagulation
        
        skin graft to nasal septum and lateral nasal wall
    - - แนะนำให้อ้าปากเวลาไอจาม
      - ห้ามสั่งน้ำมูก หรือแกะสะเก็ดแผล
      - ถ้าจมูกบวมให้ประคบเย็น
      - ประเมินเลือดออก โดยสังเกตจากผ้ากอซ
      - อธิบายให้ทราบว่าอาจมีอาการหูอื้อได้
      - หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณจมูก
      - ภายหลังเอาตัวกดเลือดออก ควรนอนพักนิ่งๆ
  - - - คดจมูก แน่นจมูก หายใจไม่สะดวก พูดเสียงขึ้นจมูก
    - - มีอาการแน่นจมูกน่ารำคาญ บางรายอาจมีไซนัสอักเสบ
    - - หวัดเรื้อรัง
    - - กำจัดริดสีดวงจมูกออกโดยทำ
        
        Medical Polypectomy
        
        Surgical Polypectomy
      - การรักษาโรคที่เกิดร่วม และป้องกันการเกิดซ้ำ
        
        แนะนำการทำความสะอาดจมูก
        
        ให้ยาเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ
  - - - คัดจมูก
      - มีของเหลวเป็นหนองไหลออกจากช่องจมูก
      - ปวดกดเจ็บบริเวณโพรงอากาศข้างจมูก
    - - รักษาด้วยยา ไม่นิยมให้ยาหยอดจมูก
    - - สุขภาพทั่วไปไม่ดี
        
        ภูมิต้านทานต่ำ
        
        เป็นโรคเลือด เบาหวาน
        
        ทำงานมากเกินไป
        
        นอนหลับไม่เพียงพอ
      - สภาพของจมูก
        
        เนื้องอกในจมูก
        
        แผ่นกั้นจมูกคด
        
        การอักเสบในจมูก
      - สาเหตุโดยตรง
        
        การสั่งน้ำมูกแรงๆ
        
        การดำน้ำ
        
        ฟันผุ การถอนฟัน