Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กรณีศึกษานางสาวเต้าน้อย, กรณีศึกษา “นางสาวเต้าน้อย” นางสาวเต้าน้อย อายุ…

- - - - ตรวจ memmogram พบก้อนขนาด 3 เซนติเมตร เคลื่อนที่ไม่ได้
      - ตรวจ memmogram พบก้อนขนาด 3 เซนติเมตร เคลื่อนที่ไม่ได้
      - มีก้อนที่เต้านมข้างขวาประมาณ 2 เดือน
      - ตรวจ Core biopsy ผลการตรวจชิ้นเนื้อ พบ adenocarcinoma
    - - มะเร็งเต้านมเริ่มเกิดขึ้นที่ส่วนของ terminal duct lobular uni
      - เริ่มแรกมักจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็น ductal hyperplasia
      - แล้วจึงเปลี่ยนเป็นก้อนเนื้องอก dysplasa ก่อน ต่อจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นก้อนมะเร็งระยะที่ยังไม่ลุกลาม
      - ท้ายสุดจึงเปลี่ยนแปลงเป็น invasive ductallobular carcinoma
    - - N ต่อมน้ำเหลือง (Regional Lymph nodes)
        
        N3= พบเซลมะเร็งของต่อมน้ำเหลืองที่อยู่เหนือหรือใต้กระดูกไหปลาร้า หรือพบได้ทั้งต่อม
        น้ำเหลืองที่รักแร้ร่วมกับใต้กระดูกซี่โครง
      - M การแพร่กระจายไปอวัยวะอื่น (Distant Metastasis)
        
        M0= ไม่พบการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น
      - T คือ ขนาดของก้อน (Primary Tumor)
        
        T2 = ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของก้อนมากกว่า 2 ซ.ม. แต่ไม่มากกว่า 5 ซ.ม.
    - - พบเป็น Tripple negative
        
        รุนแรงกว่ามะเร็งเต้านมทั่วไป
        
        พบในคนเป็นมะเร็งเต้านมที่อายุยังน้อย
        (มักอายุต่ำกว่า 50 ปี)
        
        เป็นเซลล์เนื้องอกที่ขาดตัวรับเอสโตรเจน โปรเจนเตอโรน และไม่พบโปรตีน HER2
        
        มีการแพร่กระจายสูง
        
        ไม่ตอบสนอง/ใช้ยาฮอร์โมนไม่ได้ผล
        
        ใช้ยา Herceptin ไม่ได้ผล
    - - การผ่าตัดเต้านมอย่างถอนรากแบบดัดแปลง การผ่าตัดเต้านมออกทัังหมด และเลาะต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออก
        
        การปฏิบัติตัววันก่อนผ่าตัด
        
        ทําความสะอาดร่างกายอาบน้ำ สระผมถ้าทาเล็บไว้ให้ลบสีเล็บออก
        
        งดอาหารและนํ้าดื่มหลังเที่ยงคืนก่อนวันผ่าตัด
        
        ฝึกการหายใจเข้าทางจมูกลึก ๆ และหายใจออกทางปากช้า ๆ เพื่อให้ปอดขยายตัวได้ดี
        
        ฝึกการไอที่ถูกวิธี
        
        การปฏิบัติตัววันผ่าตัด
        
        เตรียมผิวหนังบริเวณที่จะผ่าตัด โดยโกนขนบริเวณรักแร้ข้างที่ทําผ่าตัด
        
        ก่อนไปห้องผ่าตัดถ้ามีฟันปลอม แว่นตา คอนแทคเลนส์
        
        3.ขวดระบายน้ำเหลืองจากแผลผ่าตัดให้วางอยู่ระดับตํ่ากว่าแผลผ่าตัด
        
        หลังผ่าตัดให้นอนยกแขนข้างที่ผ่าตัดสูงกว่าระดับหัวใจ โดยนอนกางแขนเล็กน้อย ยกแขนเหนือศีรษะหรือใช้
        หมอนรองใต้แขน
        
        เมื่อรู้สึกตัวดี ให้เริ่มบริหารแขนข้างเดียวกบที่ผ่าตัดเต้านมออก
        
        โดยการกำมือและคลายมือ สลับกัน 10ครั้ง
        โดยทําวันละ 3 เวลา
        
        การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด
        
        1.เรียนรู้วิธีบริหารข้อไหล่และการดูแลแขน
        
        2.เริ่มทําการบริหารข้อไหลโดยเริ่มทํา 1-2ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
        
        3.ญาติผู้ดูแลละผู้ป่วยเรียนรู้วิธีการดูแลแผลผ่าตัดและขวดระบายน้ำเหลืองโดยพยาบาลเป็นผู้อธิบาย
      - เป็นวิธีการผ่าตัดที่นิยมใช้ในปัจจุบัน
- - - - เช่น แน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ใจสั่น หน้ามืด ตาพร่ามัวปวดแสบบริเวณที่แทงเข็ม
  - - - อาการเบื่ออาหารคลื่นไส้อาเจียน อาจเกิดขึ้นหลังได้รับยา 2-3 ชั่วโมง
        
        รับประทานอาหารทีละนอ้ย ๆ แต่บ่อยมื้อ ทานอาหารอ่อนย่อยง่ายๆ
      - ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำมากเกิดขึ้นในช่วงวัน ที่7-10 หลังให้ยาเคมีบำบัดทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเช้ือ
        
        หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นไข้หวัดวัณโรคและงูสวัด
      - อาจทำให้มีอาการเจ็บปากเจ็บคอ และปวดแสบร้อนช่องปากและเหงือกมีสีแดง
        
        อมน้ำแข็งหรือรับประทานของเย็นๆ
      - ยาเคมีบำบัดบางชนิดอาจทำให้ผมร่วงได้ แต่ไม่ต้องวิตกกังวลเพราะเมื่อจบการรักษาแล้วผมจะงอก
        ขึ้นมาใหม่เอง
- - - - จุดมุ่งหมายการพยาบาล
        
        อาการปวดแผลทุเลาลง
      - เกณฑ์การประเมินผล
        
        ผู้ป่วยปวดแผลผ่าตัดคะแนน
        ความเจ็บปวดน้อยกว่า 3 หรือไมมีความเจ็บปวด
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        4.สอน และช่วยผู้ป่วยประคองแผลด้วยมือและ
        หมอนขณะที่ผู้ป่วยพลิกตะแคงตัวเพื่อลดอาการปวดแผล
        
        แนะนำเทคนิคการหายใจบรรเทาปวด
        
        2.วัด vital signs ทุกๆ 4 ชม.
        
        ประเมินความเจ็บปวด
        
        ดูแลจัดท่า Position ไม่นอนทับแผลข้างที่ผ่าตัด
        
        ดูแลสายระบายไม่ใหดึงรั้งแผลของผู้ป่วย
        
        7.ดูแลให้ได้รับยาแก้ปวดตามแผนการรักษาของแพทย์
      - การประเมินผล
        
        -ผู้ป่วยไม่มีอาการปวด
        แผล
  - - - จุดมุ่งหมายการพยาบาล
        -ผู้ป่วยไม่มีความวิตกกังวล
      - เกณฑ์การประเมินผล
        -ผู้ป่วยมีสีหน้าสดชื่นขึ้น
        -ผู้ป่วยรับฟังและให้ความร่วมมือในการรักษาพยาบาล
      - กิจกรรมการพยาบาลและเหตุผล
        
        เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกต่าง ๆ และซักถามข้อ
        สงสัยต่างๆ
        
        5.แนะนำให้ผู้ป่วยพูดคุยกับผู้ป่วยรายอื่น ที่ได้รับการผ่าตัดไปแล้ว และประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูสภาพ
        
        อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงความจำเป็นในการผ่าตัด และ อธิบายขั้น ตอนต่าง ๆ ในการผ่าตัด
        
        6.ให้ญาติมีส่วนร่วมในการดูแลและให้กำลังใจผู้ป่วย
        
        2.อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงภาพลักษณ์ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไป
        หลังการผ่าตัด
        
        7.ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตนก่อนการผ่าตัดแก่ผู้ป่วย
        และญาติ
        
        1.ประเมินระดับความวิตกกังวล
      - การประเมินผล
        
        -ผู้ป่วยไม่มีความวิตก
        กังวล
  - - - จุดม่งหมายการพยาบาล ุ
        -ข้อไหล่ไม่ติด แขนขวาไม่บวม
      - เกณฑ์การประเมินผล
        -ผู้ป่วยสามารถบริหารแขนและ
        ไหล่ได้อย่างถูกต้อง
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินและบันทึกข้อมูลเกี่ยวกบอาการแสดงของแขนบวม
        
        โดยประเมินจากความบกพร่องของประสาทรับความรู้สึกและ
        การทํางานของกล้ามเนื้อแขน
        
        ประเมินอาการและอาการแสดงของความผิดปกติในการ ทํางานของกล้ามเนื้อและการรับความรู้สึกของแขนและหัวไหล ข้างขวาที่ทําผ่าตัดเต้านม
        
        อธิบายให้ผู้ป่วยเห็นความสําคัญของการบริหาร ข้อไหล่
        พร้อมกับให้ซักถามปัญหาต่างๆ
        
        4.ให้ออกกำลังกายแขนและมือให้เร็วที่สุดที่จะทําได้
        
        ท่าที่ 2 ท่าแปรงผม
        
        ท่าที่ 3 ดึงเชือก
        
        ท่าที่ 1 หมุนแขนตามลูกตุ้มนาฬิกา
        
        ท่าที่ 4 ท่าหมุนแขน
        
        ท่าที่ 5 ท่ามือไขว้หลัง
        
        ท่าที่ 6 ท่าไต่ผนังด้านหน้า
        
        ท่าที่7 ท่ามือจับไม้เท้าทั้งสองข้างยกแขนขึ้น
        
        ท่าที่8 ท่าไต่ผนังด้านข้าง
        
        5.ไม่วัดความดันโลหิต ให้สารน้ำ ฉีดยา เจาะเลือดแขนขวา
        เนื่องจากการตัดต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ออกไป ทําให้การไหลกลับของเลือดได้ไม่ดี
        
        นอนยกแขนขวาสูงกว่า ระดับหัวใจ โดยใช้หมอน 1 ใบรองแขนตัังแต่แขนถึงหัวไหล่
      - การประเมินผล
        
        -ผู้ป่วยสามารถ
        บริหารแขนและไหล่ได้อย่าง
        ถูกต้อง
  - - - การป้องกันแขนบวมจากแรงดันภายนอกที่ลดลงโดยแนะนำ
        ผู้ป่วยหากต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน ควรสวมผ้า
        ยืดรัดแขนที่มีแรงดัน20-30 ม.ม. ปรอท
      - การควบคุมน้ำหนักและความดันโลหิตสูงโดยควบคุมระดับ
        ดัชนีมวลกายให้อยู่ในช่วง 18.5 -25 กก/ม2
      - การส่งเสริมการไหลเวียนน้ำเหลือง โดยการบริหารมือ บริหารแขนและข้อไหล่ ตามลำดับภายหลังผ่าตัด 1-7 วัน ใช้ท่าบริหารไม่ต้าน แรงแบบactive-passive exercise
      - การหลีกเลี่ยงการใช้แขนข้างที่ผ่าตัด ยกหรือลากของที่มี
        น้ำหนักมาก
      - การสังเกตความผิดปกติของแขน หากพบรีบ ขอคำปรึกษา
        จากพยาบาล หรือแพทย์ที่เกี่ยวข้องทันที
      - การป้องกันการกีดขวางการไหลเวียนน้า เหลืองโดยหลีกเลี่ยง การทำหัตถการที่ต้องรัดแขนนาน
      - การป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนังโดยดูแลความสะอาดและ
        หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บต่อผิวหนังบริเวณ รักแร้เต้านม และแขน
        ข้างที่ผ่าตัดหรือฉายแสง
    - - -ผู้ป่วยไม่มีอาการบวม
        หลังการผ่าตัด
  - - - บันทึกสัญญาณชีพ โดยทำการวัดทุกๆ 15 นาที 4 คร้ัง
        ทุกๆ 30 นาที 2 คร้ัง และวัดทุกๆ 1 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะคงที่
        ตามแผนการรักษา
      - 2.ดูแลผู้ป่วยให้ได้รับสารน้ำ ตามแผนการรักษา
      - 3.สังเกตลักษณะบาดแผลและปริมาณสิ่งคัดหลั่งต่าง ๆ
      - 4.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการพักผ่อนทั้งร่างกาย และจิตใจ
        จัดสิ่งแวดลอ้ม
    - - -ผู้ป่วยไม่มีภาวะเสีย
        เลือดหลังการผ่าตัด
- - - - มักจะเป็นเฉพาะในวันที่ได้รับยาหรือหลังจากนั้นอีกเพียง 2-3
  - - - การดูแลแผลผ่าตัดและท่อระบายน้ำเหลือง
      - การบริหารข้อไหล่และแขน
      - ดูแลแขนข้างเดียวกับเต้านมที่ได้รับการผ่าตัด
      - การตรวจเต้านมด้วยตนเอง
  - - - การป้องกันภาวะข้อไหล่ติด
      - การป้องกันแผลติดเชื้อ
      - การใช้แขนและการออกกำลังแขน
      - การดูแลให้เลือดไหลเวียนสะดวก
- - - - จุุดมุ่งหมายการพยาบาล
        -ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนของยา เคมีบำบัดที่มีผลต่อระบบ
        ทางเดินอาหารลดลง
      - เกณฑ์การประเมินผล
        -ผู้ป่วยไม่มีแผลในช่องปาก
        -ผู้ป่วยสามารถรับประทาน
        อาหารได้
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ตรวจและประเมินสุขภาพในช่องปากบ่อยๆ
        
        2.ดูแลให้ผู้ป่วยน้ำแข็งก่อนและขณะให้ยา เพื่อช่วยลด
        ปริมาณยาไปที่หลอดเลือดบริเวณช่องปาก
        
        3.ดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟัน บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ
        บ่อยๆ
        
        4.แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารครั้งละน้อยๆบ่อยๆคร้ัง
        ดื่มน้ำมากๆ
      - การประเมินผล
        
        -ผู้ป่วยไม่มีแผลใน
        ช่องปาก
        
        -ผู้ป่วยสามารถ
        รับประทานอาหารได้
  - - - จุดมุ่งหมายการพยาบาล
        -ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะซีดจากการได้รับยาเคมีบำบัด
      - เกณฑ์การประเมินผล
        -เยื่อบุตา ผิวหนัง และเล็บไม่ซีด
        -Hematocrit ในผู้หญิงอยู่ที่ 40%
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        2.ติดตามให้ cannular 3 ลิตร/นาที
        
        3.แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก
        
        1.วัดและบันทึกสัญญาณชีพทุก4 ชั่วโมง
        
        4.ติดตามผลการตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ
      - การประเมินผล
        
        -เยื่อบุตา ผิวหนัง และ
        เล็บไม่ซีด
        
        -Hematocrit ในผู้หญิง
        อยู่ที่ 40%
    - - จุดมุ่งหมายการพยาบาล
        -ผู้ป่วยไม่มีการติดเชื้อ
      - เกณฑ์การประเมินผล
        -ผู้ป่วยมีอุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์
        ปกติระหว่าง 36.5 -37.5 ๐C
      - กิจกรรมกาารพยาบาล
        
        4.ดูแลให้ได้รับอาหารโปรตีนสูงเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทาน
        
        5.แนะนำให้ทำความสะอาดปากและปันทุกครั้งก่อนและหลัง
        รับประทานอาหาร
        
        3.ให้การพยาบาลโดยยึดหลัก aseptic technique
        
        6.ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อประเมินการติด
        เชื้อ
        
        2..สังเกตอาการอักเสบ หรือมีdischarge
        
        1.วัดและบันทึกสัญญาณชีพทุก4 ชั่วโมง
      - การประเมินผล
        
        -ผู้ป่วยมีสัญญาณชีพ
        ปกติ
  - - - -ผู้ป่วยมีสีหน้าแจ่มใส
        ขึ้น
        -ผู้ป่วยยอมรับการ
        รักษาด้วยเคมีบำบัด
    - - 4.ให้กำลังใจและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วย
      - 3.บอกถึงอาการข้างเคียงที่พบบ่อย และการปฏิบัติตัว
      - 2.แนะนำการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยก่อน-หลังได้รับยาเคมีบำบัด
      - 1.ประเมินความรู้ความเข้าใจของผู้ป่วย และอธิบายให้เข้าใจถึง
        ขั้นตอนและวิธีการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด