Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความสำคัญของโภชนาการต่อสุขภาพและการคำนวณปริมาณและพลังงานสารอาหาร,…
ความสำคัญของโภชนาการต่อสุขภาพและการคำนวณปริมาณและพลังงานสารอาหาร
ความหมายและความสําคัญของโภชนาการต่อสุขภาพ
อาหารเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดํารงชีวิตช่วยเสริมสร้างส่วนประกอบต่างๆในร่างกายในทางตรงกันข้ามหากได้รับอาหารปริมาณมากเกินไปก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายส่งผลต่อสุขภาพ
1.ด้านสุขภาพกาย
อาหารทำให้ร่างกายเจริญเติบโตความสูงขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและการรับประทานอาหาร
ช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างมีครรภ์ได้
2.ด้านสุขภาพจิต
โภชนาที่ดีทำให้จิตใจแข็งแรงมีความมั่นคงในอารมณ์
วุฒิภาวะทางอารมณ์เจริญเร็วกว่าผู้มีภาวะโภชนาไม่ดี
อาหาร
สิ่งที่รับเข้าสู่ร่างกายโดยการดื่มการกินหรือฉีดก่อให้เกิดประโยชน์กับร่างกายเสริมสร้างการเจริญเติบโต
สารอาหาร
สารอาหารเป็นสารเคมีที่ได้จากอาหารจําเป็นต่อร่างกายสารอาหารมี 6 ชนิดคือ คารโบร์ไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่และน้ำ
สารที่ไม่ใช่สารอาหาร สารที่ไม่ได้มาจากสารอาหารบางชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกายบางชนิดขัดขวางการดูดซึมของสารอาหารในร่างกาย
ภาวะโภชนาการ
ภาวะทางสุขภาพของบุคคลมีผลจจากการรับประทานอาหารการย่อย การดูดซึมและเผาผลาญ สารอาหารระดับเซลล์แบ่งเป็น
1.ภาวะโภชนาการดีเป็นภาวะที่ได้รับสารอาหารทั้งชนิดและปริมาณเพียงพอ
2.ภาวะโภชนาการไม่ดีเป็นภาวะที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอแต่ร่างกายไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสารอาหารที่ได้รับ
ภาวะโภชนาการขาดคืออัตราการหมุนเวียนการใช้สารอาหารจะเกิดตลอดเวลา
ภาวะโภชนาการเกินคือภาวะที่ร่างกายได้รับสารอาหารมากเกินความต้องการ
ขนิดและคุณค่าของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
น้ำ
สารอาหารที่ร่างกายขาดไม่ได้นำมาช่วยในการกระจายและนําพาสารอาหารไปส่วนต่างๆเป็นส่วนประกอบของเลือด น้ำเหลือ น้ำลายลาย เป็นต้น แต่ละวันร่างกายเสียน้ำประมาณ 1450-2800มิลลิลิตร จึงต้องได้รับน้ำจากการดื่มประมาณ 500-1500 มิลลิลิตร
เกลือแร่
สารอนินทรีย์ที่มีความจําเป็นต่อร่างกาย เกลือแร่แบ่งเป็น 2ประเภท 1.ร่างกายต้องการมากเช่น Ca P K Na Cl Mg S 2.ร่างกายต้องการน้อยเช่น Fe I Se Mn Cr Cu Zn
คาร์โบไฮเดรต
จัดเป็นสารอาหารหลักในการให้พลังานแก่ร่างกาย จําแนกตามขนาดโมเลกุล4กลุ่มดังนี้ 1.โมโนแซคคาไรค์ 2.ไดแซคคาไรค์ 3.โอลิโกแซคคาไรค์ 4.โพลีแซคคาไรค์
ไขมัน
ในอาหารช่วยให้อาหารมีรสกลิ่นที่ดีทําให้อิ่มท้องนาน ให้พลังงานสูง ป้องกันการกระเทือนของร่างกายจําแนกไขมันตามบทบาทและหน้าที่ ดังนี้ 1.ไตรกลีเซอไรค์ 2.ฟอสฟอลิปิด 3.โคเลสเตอรอล
โปรตีน
เป็นสารอาหารที่ร่างกายขาดไม่ได้เป็นสารอาหารที่จําเป็นต่อการเจริญเติบโต รักษาสมดุลกรดด่างในร่างกาย โปรตีนจําแนกทางโภชนาการเป็น 2 ชนิดดังนี้ 1.โปรตีนสมบูรณ์ 2.โปรตีนไม่สมบูรณ์
วิตามิน
สารประกอบอนิทรีย์ เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องกายเล็กน้อย วิตามินแบ่งตามสมบัติการละลายดังนี้ 1.ละลายไขมันได้แก่ วิตามินA,D,E,K, 2.ละลายในน้ำได้แก่วิตามินB1,B2,B6,B7,B12,C,โฟเลต,ไบโอติน,ไนอาซิน,กรดแพนโทเทนิก
การคํานวณปริมาณและพลังงานจากสารอาหาร
คํานวณพลังงานน้ำหนักตัวและระดับกิจกรรม โดยเปรียบเทียบเกณฑ์น้ำหนักว่าอยู่ในระดับใด
ความต้องการพลังงาน = น้ำหนักตัว x ระดับกิจกรรม
ปริมาณที่ควรได้รับแต่ละวันคนทั่วไปทําน้ำหนักปานกลางและอายุ 6 ปีขึ้นไปคือ 2,000 กิโลแคลอรีโดยกําหนดปริมาณสารอาหาร
คาร์โบไฮเดรตร้อยละ60 โปรตีนร้อยละ10 ไขมันร้อยละ30
วิธีคำนวณจากน้ำหนัก ความต้องการพลังงานเพศหญิงนิยมที่ค่า27
นางสาวกอความต้องการพลังงานต่อวัน =50x27=1350 กิโลแคลลอรี่
คํานวณพลังงานที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสําหรับการดํารงชีวิต
BMRเพศหญิง=655+(9.6x น้ำหนักตัว) + (1.8xส่วนสูง) - (4.7xอายุ)
การคํานวณอาหารแลกเปลี่ยนและพลังงานจากสารอาหารแลกเปลี่ยน
หมวดไขมันหรือน้ำมัน
ไขมัน 1 ส่วนให้ไขมัน 5 กรัม และพลังงาน 45 กิโลแคลลอรี
หมวดเนื้อสัตว์
แบ่งเป็น4ประเภท 1.ไขมันต่ำมากได้แก่ ปลาช่อน ลูกชิ้นปลา หอยลาย 2.ไขมันต่ำได้แก่ ไก่อ่อน ปลาหมอ แฮม หอยนางรม 3.ไขมันปานกลางได้แก่ ไข่เป็ด ไข่ไก่ เต็าหู้ 4.ไขมันสูงได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู หมูยอ เบคอน แหนม ไส้กรอก
หมวดผลไม้
ผลไม้ 1 ส่วน ให้คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม พลังงาน 60 กิโลแคลลอรี
หมวดข้าว-แป้ง
อาหารในหมวดนี้มีคุณค่าทางโภชนาการโดยเฉลี่ยคือ คาร์โบไฮเดรต 18 กรัม โปรตีน 2 กรัม พลังงงาน 80 กิโลแคลอรี
หมวดผัก
แบ่งเป็น2ประเภท 1.พลังานและสารอาหารน้อยมากได้แก่ ผักบุ้งจีน แตงกวา ฟัก บวบ บอน มะเขือเทศ 2.มีคุณค่าทาโภชนาการได้แก่ ขิง ถั่วพู คะน้า ตําลึง ใบยอ รากบัว
หมวดนม
นม 1 ส่วน ปริมาตร 240 มิลลิลิตร หรือ 1 ถ้วยตวง มีคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนใกล้เคียงกันมีปริมาณไขมันแตกต่างกันออกไป
นางสาวชลนิภา กัมทอง
รหัสนักศึกษา634N46207