Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 3 เทคนิคการบริหารทางการพยาบาล - Coggle Diagram
หน่วยที่ 3
เทคนิคการบริหารทางการพยาบาล
การมอบหมายงานและ
ตรวจเยี่ยมทางการพยาบาล
การมอบหมายงานทางการพยาบาล
หมายถึง การจัดแบ่งงานให้ กับผู้ปฏิบัติงาน โดยพิจารณาจากปริมาณงาน เวลา ลักษณะงาน ความเหมาะสมของงาน ให้สอดคล้องเหมาะสมกับศักยภาพของผู้ปฏิบัติงาน ให้ผู้ปฏิบัติงานมีอํานาจในการปฏิบัติงาน มีความรับผิดชอบ สามารถตัดสินใจวางแผนได้เอง มีภาระรับผิดชอบต่อผลงานเชิงวิชาชีพ และอธิบายตรวจสอบผลการปฏิบัติงานได้
วัตถุประสงค์ของการมอบหมายงาน
เพื่อกําหนดขอบเขตความรับผิดชอบในหน้าที่การพยาบาลของแต่ละบุคคล แต่ละระดับ
เพื่อให้เกิดการพยาบาลที่ดีและมีประสิทธิภาพ
เพื่อเป็นแนวทางในการประเมินผลการปฏิบัติงาน
เพื่อความสะดวกในการบริหารในหอผู้ป่วย เช่น การนิเทศ การตรวจสอบ
เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของหัวหน้าทีม
เพื่อเป็นแนวทางสําหรับผู้ปฏิบัติได้เตรียมตัว และปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
รูปแบบการมอบหมายงาน
การมอบหมายงานแบบรายผู้ป่วย(Case Assignment)
การมอบหมายงานตามหน้าที่(Functional Assignment)
การมอบหมายงานแบบทีมการพยาบาล(Team Nursing)
การมอบหมายงานระบบพยาบาลเจ้าของไข้(Primary Nursing)
การมอบหมายแบบจัดการผู้ป่วยรายกรณี(Case Management)
การมอบหมายแบบผสมผสาน(Multiple Modality)
การตรวจเยี่ยมทางการพยาบาล
หมาถึง การตรวจเยี่ยมทางการพยาบาล (Nursing Round) หมายถึงการนิเทศแบบเป็นกลุ่มกระทําได้ทั้งในขณะที่สมาชิกกําลังปฏิบัติงาน หลังจากปฏิบัติงาน หรือขณะที่ญาติอยู่กับผู้ป่วยเพื่อให้ได้ข้อมูลจาก
ผู้ป่วยและครอบครัว
วัตถุประสงค์ของการตรวจเยี่ยม
เพื่อเป็นการประกันคุณภาพการพยาบาล
เป็นการรักษาการติดต่อสัมพันธ์กับบุคลากรทุกคนที่ทําหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วย
เป็นโอกาสในการใช้การสังเกตความสามารถในการทํางาน (Work Performance)
ค้นหาข้อมูลจากผู้ป่วยและครอบครัว หาความต้องการและความคาดหวังในบริการพยาบาลของผู้รับบริการ
เป็นการกระตุ้นส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรขณะปฏิบัติงาน โดยการสร้ากําลังใจ (Rapport) สร้างความปรารถนาดี(Good Well) และสร้างความสนใจส่วนบุคคล
การวางแผนตรวจเยี่ยม (Planning for Rounds)
ควรต้องกระทําเป็นรายลักษณ์อักษร
โดยระบุสิ่งสําคัญต่อไปนี้
วัตถุประสงค์การตรวจเยี่ยม (Objective)
ใครเป็นผู้ปฏิบัติการตรวจเยี่ยม (Who) ทั้งนี้เพื่อวางแผนกิจกรรมการตรวจเยี่ยมที่เหมาะสม
ประเภทของการตรวจเยี่ยม (What) ต้องพิจารณาก่อนเสมอว่าการตรวจเยี่ยมแต่ละครั้งจะเน้นหนักไปในประเภทใดของการตรวจเยี่ยม
จะทําการตรวจเยี่ยมที่ไหน (Where) ต้องระบุให้ชัดเจน
เวลาที่จะทําการตรวจเยี่ยม (What Time) ควรระบุเวลาตรวจเยี่ยมให้ชัดเจน
ขั้นตอนการตรวจเยี่ยม
การตรวจเยี่ยมผู้ป่วย(Patient Rounds)
การตรวจเยี่ยมบุคลากร (Personnel Rounds)
การตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล (Hospital Rounds)
การตรวจเยี่ยมสาธารณะ (Public Rounds)
การนิเทศและการประเมินผล
ทางการพยาบาล
ความหมายและความสําคัญ
การนิเทศและเปลี่ยนแนวปฏิบัติจากประเพณีดั้งเดิมที่ได้ปฏิบัติกันมาในรูปของการตรวจงานเพื่อดูว่างานที่บุคคลใต้บังคับบัญชาได้ปฏิบัติได้เสร็จ มาเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อให้การปฏิบัติการพยาบาลนั้นผลดีและบรรลุวัตถุประสงค์
องค์ประกอบของการนิเทศ
หัวหน้าพยาบาลรับผิดชอบนิเทศงานทั้งหมด
ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลแต่ละด้าน ดําเนินการนิเทศงานตามหน้าที่ ขอบเขตความรับผิดชอบทุกหน่วยงานในด้านที่ได้รับมอบหมาย
ผู้ชํานาญเฉพาะทาง นิเทศเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเฉพาะสายงานที่รับผิดชอบ
หัวหน้างาน นิเทศเจ้าหน้าที่เฉพาะในหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น ห้องผ่าตัด แผนกผู้ป่วยนอกหอผู้ป่วยอายุรกรรม งานฉุกเฉิน
พยาบาลวิชาชีพ นิเทศเจ้าหน้าที่ในระดับรอง ๆ ลงไป เช่นพยาบาลเทคนิค เจ้าหน้าที่พยาบาลพนักงานผู้ช่วยเหลือคนไข้ในหน่วยงานที่รับผิดชอบ
พยาบาลเวรตรวจการ ทําหน้าที่นิเทศงานด้านการให้บริการพยาบาลแก่เจ้าหน้าที่ทางการพยาบาลทุกระดับ ในเวรตรวจการนอกเวลาราชการ และวันหยุดราชการ
เทคนิคในการนิเทศงาน
การนิเทศการพยาบาล (Supervision of Patient Care) เป็นการให้การนิเทศ ชี้แนะเกี่ยว กับการปฏิบัติงานการพยาบาล
การนิเทศบุคลากรทางการพยาบาล (Supervision of Nursing Personal) เป็นการนิเทศบุคคลผู้ปฏิบัติงานการพยาบาล
คุณสมบัติผู้นิเทศ
คุณสมบัติทางบุคลิกลักษณะ
คุณสมบัติทางด้านวิชาการ
คุณสมบัติทางด้านจิตวิทยา
คุณสมบัติทางด้านเจตคติและอารมณ์
คุณสมบัติทางด้านสังคม
การประเมินผลทางการพยาบาล
หมายถึง การตรวจสอบการปฏิบัติงานของบุคคลและผลการปฏิบัติงาน โดยเทียบกับเกณฑ์ที่กําหนด หรือเกณฑ์มาตรฐาน
วัตถุประสงค์ของการประเมินผลทางการพยาบาล
ปรับปรุงการบริหารการพยาบาล
บ่งชี้สมรรถภาพของผู้ปฏิบัติงานเพื่อเป็นการจูงใจ
ให้ผู้ใช้บริการได้รับการพยาบาลที่สมบูรณ์แบบ และสนองตอบความต้องการอย่างแท้จริง
ผู้ใช้บริการเกิดความมั่นใจในการรักษาพยาบาล
รูปแบบของการประเมินผลทางการพยาบาล
การประเมินในรูปของวัตถุประสงค์(Objective) โดยพิจารณาผลสุดท้ายของงานว่าบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้หรือไม่
การประเมินในรูปของงาน (Task) เนื่องจากเป็นผลจากการกระทําต้องประเมินโดยกลุ่มผู้ชํานาญงานนั้นโดยเฉพาะเพื่อประเมินตาม Job Description
การประเมินผลในรูปการปฏิบัติ (Performance) เป็นการประเมินทั้งด้านความรู้ ทักษะความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งพฤติกรรมและการควบคุมอารมณ์ในการปฏิบัติงาน
การประเมินผลในรูปมาตรฐานวิชาชีพ (Professional Standard) การพยาบาลที่มีคุณภาพต้องมีการกําหนดมาตรฐานของการพยาบาลไว้อย่างแน่นอน ทันสมัยเป็นไปตามเกณฑ์ที่กําหนดไว้
มนุษยสัมพันธ์ในการบริหารงาน
ความหมายและพัฒนาการของมนุษยสัมพันธ์
มนุษยสัมพันธ์
หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ที่มุ่งให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกัน อันจะนํามาซึ่งความร่วมมือ ประสานงานกันในการ ดําเนิน กิจการต่าง ๆอย่างได้ผลและมีประสิทธิภาพ
พัฒนาการของมนุษยสัมพันธ์
มนุษยสัมพันธ์ในครอบครัว
มนุษยสัมพันธ์ในโรงเรียน
มนุษยสัมพันธ์ในองค์กร
องค์ประกอบของมนุษยสัมพันธ์
องค์ประกอบเกี่ยวกับการรู้จักตน (Self)
องค์ประกอบเกี่ยวกับการเข้าใจบุคคลอื่น
องค์ประกอบด้านสภาพแวดล้อม
การสร้างมนุษยสัมพันธ์ในการบริหารการพยาบาล
การสร้างมนุษยสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชา
การสร้างมนุษยสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา
การสร้างมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
การจูงใจและความพึงพอใจในงาน
ความหมายของการจูงใจ
การจูงใจคือแรงที่ผลักดันให้เกิดพฤติกรรมที่
จะกระทําการใด ๆ ให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ประเภทของการจูงใจ
1. การจูงใจแบบนิมาน
(Positive Motivation)หรือการจูงใจแบบใช้ไม้นวม(Carrot Aapproach)
2. การจูงใจแบบนิเสธ
(Negative Motivation)หรือการจูงใจแบบใช้ไม้ แข็ง (Stick Aapproach)
สิ่งจูงใจ
1. สิ่งจูงใจภายนอก
(Extrinsic Motivators) เป็นสิ่งจูงใจที่อยู่ภายนอกตัวบุคคล จับต้องได้(Tangible Incentives) หรือสิ่งจูงใจที่เป็น
ตัวเงิน(Financial Incentives) หรือสิ่งจูงใจที่บุคคลได้รับจากบุคคลอื่น
2. สิ่งจูงใจภายใน
(Intrinsic Motivators) เป็นสิ่งจูงใจที่อยู่ภายในตัวบุคคลเป็นประสบการณ์ทางจิตใจที่บุคคลให้กับตนเอง จับต้องไม่ได้(Non Tangible Incentives) ไม่ใช่ตัวเงิน
ทฤษฎีการจูงใจในการบริหารงาน
ทฤษฎีระดับความต้องการของมาสโลว์
ทฤษฎีการจูงใจว่าด้วย ERG ของอัลเดอร์เฟอร์
ทฤษฎีความต้องการประสบผลสําเร็จของแมคแคลแลนด์และแอทคินสัน
ทฤษฎีการจูงใจของเฮอรซเบอร์ก
ทฤษฎีการจูงใจของ แมกเกรเกอร์
ทฤษฎีแรงเสริมของสกินเนอร์
ทฤษฎีความคาดหวังของรูม
ทฤษฎีความชอบธรรม
ทฤษฎีการตั้งเป้าหมาย
ความพึงพอใจในงาน
ความพึงพอใจในงาน หมายถึง ภาวะอารมณ์ทางบวกที่มีต่องานที่ทํา ซึ่งเป็นผลจากการรับรู้ในผลงานของบุคคล หรือเป็นผลจากการประเมินประสบการณ์ในงาน และความสามารถสนองความต้องการของบุคคลในงานนั้น
การใช้ทฤษฎีการจูงใจในการบริหารการพยาบาล
เทคนิคการควบคุมงาน
การใช้อํานาจหน้าที่
การจูงใจโดยการให้ผลตอบแทน
การให้มีส่วนร่วมในการบริหารงาน
การออกแบบงาน
เทคนิคการจูงใจอื่น
บทบาทผู้บริหารการพยาบาลในการจูงใจ
การจูงใจตนเอง
การจูงใจผู้อื่น
การจัดสภาพแวดล้อมที่จูงใจการทํางาน
การพัฒนาวิชาชีพให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่บั่นทอนแรงจูงใจ
การสื่อสารภายในองค์กร
จุดมุ่งหมายของการสื่อสารในการบริหารพยาบาล
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงาน
เป็นเครื่องมือช่วยสร้างความสัมพันธ์
การมอบหมายหน้าที่ และความรับผิดชอบเป็นไปอย่างมีระบบ
เป็นเครื่องมือในการควบคุมการปฏิบัติงานตามขอบเขตและสายการบังคับบัญชาเพื่อให้เกิดเอกภาพในการบริหาร
ช่วยให้เกิดการพัฒนาและการทํางานที่มีประสิทธิภาพ
กระบวนการสื่อสาร
แหล่งข่าว (Source) หรือผู้ส่งข่าวสาร (Sender)
การเข้ารหัส (Encoding)
ข่าวสาร (Message)
ช่องทาง (Channel)
การถอดรหัส (Decoding)
ผู้รับข่าวสาร (Receiver)
ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback)
วิธีการสื่อสารในการบริหารพยาบาล
1.การสื่อสารโดยวิธีเขียน
(Written Communication) เช่น ระเบียบ คําสั่ง คู่มือปฏิบัติงาน Kardex, Nurses Note, Doctor’s Order, I/O Record
2.การสื่อสารแบบใช้คําพูด
(Verbal Communication) เช่น ในการสั่งงาน การซักถาม การปรึกษา
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
ข่าวสารหรือข้อความนั้นต้องชัดเจนแน่นอน
กระตุ้นให้เกิดความสนใจและมีส่วนร่วม
วิธีการส่งข่าวสารหรือข้อความที่เหมาะสม
มีแรงจูงใจ
มีการประเมินผล
การเปลี่ยนแปลงและความขัดแย้ง
ความหมายของการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลง เป็นกระบวนการที่ไม่อยู่นิ่ง ซึ่งทําให้บางสิ่งบางอย่างเกิดความแตกต่างจากเดิมอย่างชัดเจน
คุณลักษณะและคุณสมบัติของผู้นําการเปลี่ยนที่ดี
มีทักษะในการติดต่อสื่อสารที่ดีเยี่ยม
ได้รับการยอมรับจากสมาชิกในและนอกองค์กร
เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลง
รู้จักการทํางานของกลุ่ม
เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจ
ร่วมในกระบวนการเปลี่ยนแปลงอย่างแข็งขัน
เป็นผู้มีอํานาจมีความเชี่ยวชาญมีอํานาจตามตําแหน่งหน้าที่
ประเภทของการเปลี่ยนแปลง
1. การเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีการวางแผน
เป็นสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีทันใด เนื่องจากสิ่งกระตุ้นภายนอกและภายใน
มักจะได้รับการต่อต้าน
2. การเปลี่ยนแปลงโดยการวางแผน
เป็นการตั้งใจจะทําสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยผ่านการคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งมีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
การต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
สิ่งสําคัญที่สุดในการลดการต่อต้าน
คือ การสร้างความไว้วางใจ
ให้คําอธิบาย
หาข้อมูลที่จะใช้ในการเปลี่ยนแปลง
ยอมรับผู้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง
ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทีละน้อย ๆ
เสนอให้ความช่วยเหลือ
อธิบายผลประโยชน์ที่จะได้
ยอมรับชื่นชมความสําเร็จ
ความขัดแย้ง
ความหมายของความขัดแย้ง
ความขัดแย้ง
หมายถึง ความไม่เห็นด้วยในเรื่องต่าง ๆ ระหว่างบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กร อาจเป็นเรื่องเล็กน้อยจนถึงเรื่องที่มีความสําคัญมาก อาจเกิดขึ้นเป็นเวลาสั้น ๆ หรือคงอยู่เป็นเดือนเป็นปี
เช่น การแข่งขันกัน การจ้องจับผิดกัน
ประเภทของความขัดแย้ง
ความขัดแย้งภายในตัวบุคคล (Intrapersonal Conflict)
1.1 ความขัดแย้งที่เกิดจากการยอมรับกับการยอมรับ
(Approach-Approach Conflict)
1.2 ความขัดแย้งที่เกิดจากการยอมรับกับการหลีกเลี่ยง
(Approach-Avoidance Conflict)
1.3 ความขัดแย้งที่เกิดจากการหลีกเลี่ยงกับการหลีกเลี่ยง
(Avoidance-AvoidanceConflict)
1.4 ความขัดแย้งที่เกิดจากการยอมรับกับการหลีกเลี่ยงใน 2 สถานการณ์ (Double Approach-Avoidance Conflict)
ความขัดแย้งระหว่างบุคคล (Interpersonal Conflict)
ความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม (Intergroup Conflict)
การดําเนินการกับความขัดแย้ง
วิเคราะห์สถานการณ์ของความขัดแย้ง ว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร สาเหตุเกิดจากอะไร ใครเกี่ยวข้องและความขัดแย้งดําเนินไปถึงขั้นใด
จัดลําดับความสําคัญของปัญหาข้อขัดแย้งเพื่อแก้ไขปัญหาที่สําคัญที่สุดก่อน
ตั้งวัตถุประสงค์ของการแก้ไขข้อขัดแย้งนั้น
ดําเนินการกับความรู้สึกต่าง ๆ ก่อน เช่น ความคับข้องใจ ความโกรธ เพราะในขณะมีอารมณ์ไม่เหมาะสม การแก้ไขปัญหาอย่างมีเหตุผลจะเกิดขึ้นได้ยาก
เลือกวิธีการบริหารความขัดแย้งที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์
ประเมินผล