Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Acute Respiratory failure ✨ (ยาที่ผู้ป่วยได้รับ💊 (ยาต้านการแข็งตัวของเกล้…

- - - - ทำให้คลื่นไส้อาเจียน หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก
    - - ทำให้คลื่นไส้อาเจียน หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก
  - - - ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 60 ปี รูปร่างสมส่วน ผิวสีขาวเหลือง ผิวหนังชุ่มชื้นดี On NSS lock ที่หลังมือขวาและท้องแขนขวา มีจ้ำเลือดบริเวณแขนซ้าย และมีรอยเขียวช้ำบริเวณหน้าท้อง 1 จุดจากการได้รับยา Insulin โดยผู้ป่วยทำเองที่บ้าน ผมสั้นสีดำ ศีรษะและใบหน้าสมมาตรกันดี รู้สึกตัวดี พูดคุยสื่อสารรู้เรื่อง ทำตามที่บอกได้ มีอาการหายใจลำบาก เนื่องจากมีเสมหะจำนวนมาก เสมหะมีสีน้ำตาลคล้ำเหนียวข้น On cannular 5 LPM Oxygen Saturation 98-100% รับประทานอาหารธรรมดาDM Lowsalt ทานได้น้อย 2-3 คำ ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน Retained Foley's catheter ต่อ Urine bag ปัสสาวะออกดี สีเหลืองใสไม่มีตะกอน On pampers ยังไม่ถ่ายอุจจาระ สามารถช่วยเหลือตนเองได้น้อยเนื่องจากมีอาการหอบเหนื่อย Vital signs (14.00 น.) : T=36.4 องศาเซลเซียส PR = 82 ครั้ง/นาที RR = 20 ครั้ง/นาที BP=120/70 mmHg. PS=0 Oxygen Saturation = 98%
    - - ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 60 ปี รูปร่างสมส่วน ผิวสีขาวเหลือง ผิวหนังชุ่มชื้นดี On NSS lock ที่หลังมือขวาและท้องแขนขวา มีจ้ำเลือดบริเวณแขนซ้าย และมีรอยเขียวช้ำบริเวณหน้าท้อง 1 จุดจากการได้รับยา Insulin โดยผู้ป่วยทำเองที่บ้าน ไม่มีอาการแขนขาบวม ผมสั้นสีดำ ศีรษะและใบหน้าสมมาตรกันดี รู้สึกตัวดี พูดคุยสื่อสารรู้เรื่อง ทำตามที่บอกได้ ไม่มีอาการหายใจหอบเนื่อย On cannular 2 LPM Oxygen Saturation 98-100% มีเสมหะเหนียวข้นน้อยลง รับประทานอาหารธรรมดาDM Lowsalt ทานได้น้อย 2-3 คำ ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะได้เองแต่ออกน้อย ปัสสาวะสีเหลืองใสไม่มีตะกอน ถ่ายอุจจาระ3ครั้ง ไม่มีถ่ายเหลว สามารถช่วยเหลือตนเองได้ Vital signs (14.00 น.) : T=36.1 องศาเซลเซียส PR = 88 ครั้ง/นาที RR = 20 ครั้ง/นาที BP= 90/56 mmHg. PS=0 Oxygen Saturation = 98%
    - - ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 60 ปี รูปร่างสมส่วน ผิวสีขาวเหลือง ผิวหนังชุ่มชื้นดี On NSS lock ที่หลังมือขวาและท้องแขนขวา มีจ้ำเลือดบริเวณแขนซ้าย และมีรอยเขียวช้ำบริเวณหน้าท้อง 1 จุดจากการได้รับยา Insulin โดยผู้ป่วยทำเองที่บ้าน ไม่มีอาการแขนขาบวม ผมสั้นสีดำ ศีรษะและใบหน้าสมมาตรกันดี รู้สึกตัวดี พูดคุยสื่อสารรู้เรื่อง ทำตามที่บอกได้ ไม่มีอาการหายใจหอบเนื่อย หายใจ Room air ยังมีเสมหะเหนียวข้น ไม่มีอาการแน่นหน้าอก รับประทานอาหารธรรมดาDM Lowsalt ทานได้มากขึ้น ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะได้เอง 4 ครั้ง ปัสสาวะสีเหลืองใสไม่มีตะกอน ยังไม่ถ่ายอุจจาระ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ลุกนั่งเข้าห้องน้ำต้องมีคนประคอง Vital signs (10.00 น.) : T=36.7 องศาเซลเซียส PR = 80 ครั้ง/นาที RR = 20 ครั้ง/นาที BP= 100/72 mmHg. PS=0 Oxygen Saturation = 100%
    - - ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 60 ปี รูปร่างสมส่วน ผิวสีขาวเหลือง ผิวหนังชุ่มชื้นดี มีรอยช้ำบริเวณแขนซ้าย และมีรอยเขียวช้ำจางๆบริเวณหน้าท้อง จากการได้รับยา Insulin โดยผู้ป่วยทำเองที่บ้าน ไม่มีอาการแขนขาบวม ผมสั้นสีดำ ศีรษะและใบหน้าสมมาตรกันดี รู้สึกตัวดี พูดคุยสื่อสารรู้เรื่อง ทำตามที่บอกได้ ไม่มีอาการหายใจหอบเนื่อย หายใจ Room air ไอมีเสมหะลดลง ไม่มีอาการแน่นหน้าอก รับประทานอาหารธรรมดาDM Lowsalt ทานได้ครึ่งถ้วย ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะได้เอง สีเหลืองใสไม่มีตะกอน สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ลุกนั่งเข้าห้องน้ำได้เอง Vital signs (10.00 น.) : T=36.5 องศาเซลเซียส PR = 84 ครั้ง/นาที RR = 20 ครั้ง/นาที BP= 131/62 mmHg. PS=0 Oxygen Saturation = 98%
- - - - ริมฝีปาก เล็บและผิวหนังเขียวคล้ำ
    - - หัวใจเต้นเร็ว
      - เหงื่อออกตามตัว
      - ซึมลง
      - หมดสติ
  - - - Chest x-ray เพื่อดูปอดบวมติดเชื้อ การมีน้ำในปอด ก้อนในปอด ปอดแฟบ
      - ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อดูหัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
  - - - การใช้เครื่องช่วยหายใจ
  - - - ภาวะความดันออกซิเจนในเลือดแดงต่ำ (Hypoxemia)
      - ภาวะความดันคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดแดงสูง (Hypercapnia)
- - - - HCO3 act = 19.9 mmol/L ต่ำกว่าปกติ
        
        HCO3 std = 20.4 mmol/L สูงกว่าปกติ
        
        O2sat = 98.8%สูงกว่าปกติ
        
        PH = 7.352 ปกติ
        
        pO2 = 138 mmHg สูงกว่าปกติ
        
        pCO2 = 36.7 mmHg ปกติ
    - - pO2 = 118.1 mmHg สูงกว่าปกติ
        
        HCO3 std = 25.0 mmol/L สูงกว่าปกติ
        
        pCO2 = 36.8 mmHg ปกติ
        
        HCO3 act = 24.4 mmol/L ปกติ
        
        PH = 7.437 ปกติ
        
        O2sat = 98.5%สูงกว่าปกติ
  - - - 20.00 น. : 267 mg%
        
        HR 6 unit
    - - 06.00 น. : 294 mg%
        
        HR 6 unit
      - 11.00 น. : 314 mg%
        
        HR 8 unit
      - 15.00 น. : 308 mg%
        
        HR 8 unit
    - - 11.00 น. : 370 mg%
        
        HR 10 unit
      - 15.00 น. : 351 mg%
        
        HR 10 unit
    - - 11.00 น. : 334 mg%
        
        HR 8 unit
      - 15.00 น. : 267 mg%
        
        HR 6 unit
    - - 11.00 น. = 394 mg%
        
        HR 10 unit
    - - 06.00 น. = 235 mg%
        
        HR 4 unit
- - - - ยาช่วยละลายความเหนียวข้นของเสมหะ (Mucolytic agents)
      - ผลข้างเคียง : ซึม ง่วงนอน เยื่อบุปากอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ มีผื่น ลมพิษขึ้น อาการคันที่ผิวหนัง ท้องเสีย ปวดท้องส่วนบน ท้องเสีย
    - - ผลข้างเคียง : ซึม ง่วงนอน เยื่อบุปากอักเสบ น้ำมูกใส จุกเสียดหลอดอาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย
      - ยาลดความหนืดของเสมหะ
  - - - ผลข้างเคียง : ขาดน้ำ ความดันต่ำ มึนงง สับสน เสีย Na/K/Ca อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ตะคริว มียูเรียไนโตรเจน ครีอะตินิน กรดยูริก น้ำตาลในเลือดสูง
        
        Hypokalemia : กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นผิดจังหวะ
        
        Hyponatremia : เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะน้อย
        
        Hypocalcemia : ชัก
      - ยาขับปัสสาวะ (Diuretics)
    - - ยาขับปัสสาวะ กลุ่ม Potassium-Sparing Diuretics ป้องกันร่างกายดูดซึมโซเดียมมากเกินไป และคงระดับโพแทสเซียมไม่ให้ต่ำจนเกินไป
      - ผลข้างเคียง : ระดับโพแทสเซียมในร่างกายสูง เช่น หัวใจเต้นช้ากว่าปกติ ชีพจรเต้นอ่อนหรือรู้สึกชา ระดับโซเดียมในร่างกายต่ำ เช่น สับสน พูดไม่ชัด อ่อนเพลีย เสียการทรงตัว ชัก เป็นลม หายใจตื้น
  - - - ยารักษาภาวะคลอเลสเตอรอลสูง (Anti-Cholesterol Treatment)
        
        ยาในกลุ่มสแตติน (Statins หรือ HMG CoA Reductase Inhibitors) มีคุณสมบัติในการลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด (Triglyceride) ในขณะเดียวกันก็ช่วยในการเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดที่ดีในร่างกาย (HDL)
      - ผลข้างเคียง : ไข้ เจ็บหน้าอก คลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก ท้องอืด ปวดกล้ามเนื้อ
  - - - เป็นยาไทรอยด์ฮอร์โมนสังเคราะห์เพื่อรักษาภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ
      - ผลข้างเคียง : มือสั่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง กระสับกระส่าย วิตกกังวล นอนไม่หลับ เหงื่อออกมาก
  - - - เป็นยากลุ่ม Angiotensin II Receptor Antagonists
      - ผลข้างเคียง : วิงเวียน อ่อนเพลีย ปวดหัว ความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนท่า โปแตสเซียมสูง
  - - - ยายับยั้งการหลั่งกรด (Proton Pump Inhibitors)
      - ผลข้างเคียง : ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง มีแก๊สในกระเพาะอาหาร
  - - - ยาบรรเทาอาการข้ออักเสบและบวม
      - ผลข้างเคียง : ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน กดการทำงานของไขกระดูก ทำให้เกิดจ้ำเลือด เส้นประสาทส่วนปลายอักเสบ กล้ามเนื้อผิดปกติ ไม่มีปัสสาวะ ผมร่วง ตับทำงานผิดปกติ
  - - - กลุ่ม Antiplatelet aggregation inhibitor เป็นยาต้านเกล็ดเลือดเป็นยาที่ลดการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด (Platelet aggregation) ที่ก่อให้เกิดเป็นลิ่มเลือด
        
        ยากลุ่ม thienopyridine derivative ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดโดยป้องกันไม่ให้ adenosine diphosphate ไปจับกับ receptor บน platelet (ADP antogonist)
      - ผลข้างเคียง : เลือดออกทางเดินอาหาร Neutrophil ต่ำ มีรอยช้ำห้อเลือดง่าย ความดันต่ำ ชีพจรเต้นเร็ว
    - - กลุ่ม Antiplatelet Drugs ยับยั้งการสร้าง prostaglandin และ thromboxane ต้านการจับกลุ่มของเกล็ดเลือด
        
        ยับยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase (COX-1) ทำให้เกิดการลดลงของระดับ thromboxane A2 ซึ่งเป็นสารในการทำให้เกล็ดเลือดเกาะกัน
      - ผลข้างเคียง : เลือดออกภายใน อาจจะมีอาการคืออาเจียนเป็นเลือด หรืออุจจาระมีเลือดปน
        เลือดออกในสมอง มีอาการคือปวดศรีษะรุนแรง มองเห็นไม่ชัด หน้าและปากเบี้ยว
  - - - มีฤทธิ์เป็นยาระบายชนิดกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ (stimulant laxative)
      - ผลข้างเคียง : ปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียน สารอิเล็กโทรไลต์และแร่ธาตุในร่างกายไม่สมดุล อาจเกิดภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง
- - - - กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินอัตราการหายใจ ลักษณะการหายใจ และภาวะ Cyanosis เพื่อเป็นการประเมินความรุนแรงของภาวะพร่องออกซิเจน
        
        ประเมินอาการและอาการแสดงที่บ่งบอกถึงภาวะเนื้อเยื่อขาดออกซิเจน เช่น ปลายมือปลายเท้าเย็น ซีด เหงื่อออก ตัวเย็น ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง อาการกระสับกระส่าย
        
        บันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะอัตรการหายใจและประเมินค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด(O2 saturation)
        
        ดูแลให้อยู่ในท่าศีรษะสูง 45-60 องศา เพื่อเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง
        
        ดูแลให้ผู้ป่วยลดการทำกิจกรรม แนะนำให้ผู้ป่วยพักผ่อนที่เตียง เพื่อลดการใช้ออกซิเจน
        
        1 more item...
      - เกณฑ์ประเมินผล
        
        2) ทางเดินหายใจโล่ง เสมหะลดลง
        
        3) อัตราการหายใจปกติ 16-24 ครั้ง/นาที
        
        4) O2 saturation > 95%
        
        1) ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะพร่องออกซิเจน ไม่มีอาการหายใจลำบากหรือหอบเหนื่อย ปลายมือปลายเท้าไม่ซีด
        
        5) Arterial Blood Gas อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- - - - กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินอาการและอาการแสดงที่สงสัยว่ามีเลือดออกในสมอง เช่น
        
        2.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชม.
        
        3.แนะนำให้ผู้ป่วยและญาติสังเกตอาการ จุดจ้ำเลือด
        ตามตัว เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล ปัสสาวะเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด ให้รีบแจ้งพยาบาล
        
        4.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
        
        5.ดูแลให้ผู้ป่วยพักผ่อนอย่างเพียงพอ
        
        1 more item...
        
        • ปวดศีรษะ
        
        • ความดันโลหิตสูง > 180/110 mmHg อย่างฉับพลัน
        
        • คลื่นไส้อาเจียน
      - เกณฑ์ประเมินผล
        
        2)ไม่มีเลือดออกบริเวณอวัยวะต่างๆ
        
        ไม่มีเลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล
        
        ปัสสาวะไม่มีเลือดปน อุจจาระไม่ปนเลือด
        
        เสมหะไม่เป็นเลือด ไม่อาเจียนเป็นเลือด
        
        4)ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ PT , PTT , INR อยู่ในเกณฑ์ปกติ
        
        1)ไม่มีจุดจ้ำเลือดตามตัว
        
        3)Vital signs อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- - - - 2)Magnesium = 1.6-2.6 mg/dL
      - 3)Vital signs ปกติ
      - 1)ผู้ป่วยไม่มีอาการซึม สับสน หัวใจเต้นผิดจังหวะ ชัก เกร็ง กลืนลำบาก
      - 4)ผล EKG ปกติ
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการซึม สับสน ชัก เกร็ง กลืนลำบาก
        
        2.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชม.
        
        3.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำสารอาหารอย่างเพียงพอ
        
        4.ดูแลใหผู้ป่วยพักผ่อนอย่างเพียงพอ
        
        5.ติดตามผล EKG ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
        
        1 more item...
- - - - 2)ผู้ป่วยไม่ตกเตียง
      - 3)ผู้ป่วยปฏิบัติกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองได้มากขึ้น
      - 1)ผู้ป่วยไม่มีบาดแผลเกิดขึ้นที่ใดของร่างกาย
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ
        
        2.ดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยในการทำกิจวัตรประจำวัน คอยพยุงลุกนั่ง ช่วยประคองเวลาผู้ป่วยลุก
        นั่ง เดิน ขณะทำกิจกรรมหรือไปเข้าห้องน้ำ
        
        3.ตรวจสอบความแข็งแรงของไม้กั้นเตียง ถ้ามีการเลื่อนหลึดต้องรีบแก้ไข
        
        4.ดึงไม้กั้นเตียงทั้ง 2 ข้างขึ้นทุกครั้ง เมื่อผู้ป่วยอยู่ตามลำพัง
        
        5.จัดหาสัญญาณเรียกพยาบาลไว้ใกล้มือผู้ป่วย ถ้าผู้ป่วยต้องการความช่วยเหลือให้กดสัญญาณ้เรียกได้ตลอดเวลา
        
        1 more item...
- - - - 11.00 น.= 370 mg%
      - 15.00 น.= 351 mg%
  - - - 2)FBS = 80-120 mg/dL
      - 3)Keep DTX = 80-180 mg%
      - 1)ไม่มีอาการ Hyperglycemia คือ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมาก กระหายน้ำ ดื่มน้ำบ่อย หิวบ่อย อ่อนเพลีย ซึม เพ้อ ชัก หมดสติ
      - 4)Vital signs อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    - - ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะ Hyperglycemia คือ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมาก กระหายน้ำ ดื่มน้ำบ่อย หิวบ่อย อ่อนเพลีย ซึม เพ้อ ชัก หมดสติ
        
        ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
        
        ติดตามผลเลือดเพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาล (Blood sugar)
        
        ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับอาหารธรรมดาเบาหวาน Low salt
        
        ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาลดระดับน้ำตาลในเลือดและฉีดยาอินซูลีน ตามแผนการรักษา
        
        แนะนำผู้ป่วยและญาติควบคุมการรับประทานอาหารและออกกำลังกาย
        
        1 more item...
        
        if DTX 200-250 HR 4 unit
        
        1 more item...
- - - - 2)ผู้ป่วยไม่มีอาการง่วง ซึม นอนไม่หลับ
      - 3)ผู้ป่วยมีเสมหะลดลง
      - 1)ผู้ป่วยนอนหลับพักผ่อนได้มากขึ้น
    - - ประเมินลักษณะ สี ปริมาณของเสมหะ
        
        2.แนะนำให้ผู้ป่วยดูแลช่องปาก แปรงฟันและบ้วนปากเป็นประจำ และทาวาสลีนป้องกันปากแห้ง
        
        3.ฝึกให้ผู้ป่วยหายใจลึกๆ (Deep breathing) และไออย่างมีประสิทธิภาพ (Effective cough)
        
        แนะนำให้ใช้เทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจหรือการผ่อนคลาย เช่น การอ่านหนังสือ การนั่งสมาธิ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (Stress relaxation) การหางานอดิเรกทำ เป็นต้น
        
        5.ดูแลสิ่งแวดล้อมให้ทีความโล่งปลอดโปร่ง สะอาด เพื่อให้ผู้ป่วยหายใจได้อย่างเต็มที่
        
        6.ส่งเสริมให้ผู้ป่วยลุกเดินไปสูดอากาศที่ระเบียงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
        
        1 more item...
- - - - 2)ผู้ป่วยและญาติมีสีหน้ายิ้มแย้ม พูดคุยมากขึ้น
      - 3)ผู้ป่วยรับประทานอาหารและนอนหลับพักผ่อนได้มากขึ้น
      - 1)ผู้ป่วยและญาติมีสีหน้าวิตกกังวลลดลง
  - - - 2) ผู้ป่วยทานอาหารได้มากขึ้น นอนหลับพักผ่อนในช่วงกลางวันและกลางคืนได้มากขึ้น
      - 1) ผู้ป่วยและญาติมีสีหน้ายิ้มแย้ม วิตกกังวลลดลง พูดคุยมากขึ้น
    - - ผู้ป่วยและญาติมีสีหน้าสดชื่น พูดคุยมากขึ้น วิตกกังวลลดลง
- - - - Bromhexine 1x3 oral PC
      - Acetylcysteine 1x3 oral PC
      - Brown mixture จิบแก้ไอ
      - Prednisolone (5) 2x2 oral PC
    - - ถ้ามีอาการใจสั่น เหงื่อออก ตัวเย็น ต้องหยุดใช้ยา ดื่มน้ำหวาน อาการไม่ดีขึ้นให้รีบมาโรงพยาบาล
      - เมื่อไม่สบายไม่ควรหยุดยาเบาหวานควรรีบมาพบแพทย์
  - - - คลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะบ่อย
      - ใจสั่น เวียนศีรษะ เหงื่อออกตัวเย็น
      - ไม่สบาย มีไข้สูง
      - มีบาดแผล
  - - - แนะนำผู้ป่วยทำงานบ้านเพื่อเป็นการออกกำลังกายไปในตัว