Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาของระบบประสาท (ภาวะสมองเคลื่อน (cerebral…
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาของระบบประสาท
การประเมินทางระบบประสาท
การซักประวัติ
ประวัติที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการคิดรู้และการรู้สติ
ประวัติเกี่ยวกับพฤติกรรม และบุคลิกภาพที่เปลี่ยนแปลงไป
ประวัติเกี่ยวกับแบบแผนการดำเนินชีวิต พฤติกรรมบางอย่างส่งผลต่อภาวะความเจ็บป่วยได้
การประเมินจากการตรวจร่างกายทางระบบประสาท
ประสาทสมอง
การเคลื่อนไหว
ระดับการรู้สึกตัว
การรับความรู้สึก
การประเมินการเคลื่อนไหวและกำลังของแขนขา
ประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Motor power)
การตรวจการทางานของการรับความรู้สึก ( Sensory Function)
การวัดสัญญาณชีพ(Vital signs)
การวัดส่วนที่มีพยาธิสภาพของสมอง(focal neurological signs)
ระดับความรู้สึกตัว
Full consciousness รู้สึกตัวดี มีการรับรู้ปกติ
Confusion รู้สึกสับสนและมีความผิดปกติเกี่ยวกับการตัดสินใจ
Disorientationการรับรู้ผิดปกติ ผู้ป่วยไม่รับรู้ต่อเวลา บุคคล และสถานที่ ระดับความรู้สึกตัวเริ่มลดลง
Drowsiness ผู้ป่วยหลับตา แต่เมื่อเรียกชื่อสามารถตื่นลืมตา และดำเนินบทสนทนาที่ไม่ซับซ้อนได้ มีอาการง่วง พูดช้าและสับสน
Stupor ผู้ป่วยหลับลึก แต่ยังสามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่รุนแรงและกระตุ้นซ้าๆ กันหลายครั้ง การตอบสนองที่เกิดขึ้นจะค่อนข้างช้า เมื่อหยุดกระตุ้นผู้ป่วยจะหลับตาลงไปอีก
Coma ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว
การตรวจอาการของการระคายเยื่อหุ้มสมอง (Signs of meningeal irritation)
คอแข็ง (Stiff neck )
Brudzinki’s signจะให้ผลบวกเมื่องอศีรษะและคอให้คางชิดอกแล้วมีการตอบสนองโดยการงอต้นขาและขาทั้งสองข้าง
Kernig signให้ผู้ป่วยนอนหงายราบหนุนหมอน ใช้มือข้างหนึ่งประคองจับข้อเท้าอีกข้างวางบริเวณข้อเข่าผู้ป่วย จากนั้นงอข้อสะโพกและเข่าเป็นมุมฉาก แล้วค่อยๆเหยียดเข่าออก
Glasgow Coma Scale
ความสามารถในการลืมตา(Eye opening = E)
E2 = ลืมตาเมื่อเจ็บ (pain)
E3 = ลืมตาเมื่อเรียก (speech)
E4 = ลืมตาเอง (spontaneous)
E1 = ไม่ลืมตาเลย (none)
ความสามารถในการสื่อภาษาที่ดีที่สุด(Best verbal response = V)
V2 = ส่งเสียงไม่เป็นคาพูด ,ครวญคราง incomprehensible
V3 = ส่งเสียงเป็นคำๆ inappropriate
V1 = ไม่ส่งเสียง
V4 = พูดได้เป็นประโยค แต่สับสน confused conversation
V5 = พูดตอบคำถามได้ปกติ และถูกต้อง (oriented)
ความสามารถในการเคลื่อนไหวที่ดีที่สุด(Best motor response = M)
M3 = แขนงอเข้าหาลาตัว ส่วนขาทั้ง 2 ข้างเหยียดงอ
M4 = เมื่อทาให้เจ็บชักแขนขาหนี
M2 = แขนและขาเหยียดผิดปกติ
M5 = ไม่ทาตามสั่งแต่ทราบตาแหน่งที่เจ็บ
M1 = ไม่มีการเคลื่อนไหว
M6 =เคลื่อนไหวตามคาสั่งได้ถูกต้อง
การบาดเจ็บที่ศีรษะ(Head injury: HI) หรือสมองได้รับบาดเจ็บ(Traumatic Brain Injury: TBI)
หมายถึง การบาดเจ็บใดๆที่มีต่อหนังศีรษะ กะโหลกศีรษะและเนื้อเยื่อที่เป็นส่วนประกอบภายในกะโหลกศีรษะ ซึ่งอาจทาให้มีหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงระดับความรู้สึกตัว
กลไกการเกิดบาดเจ็บที่ศีรษะ
การบาดเจ็บโดยตรง( direct injury )
บาดเจ็บที่เกิดขณะศีรษะอยู่นิ่ง
บาดเจ็บที่เกิดขณะศีรษะเคลื่อนที่
การบาดเจ็บโดยอ้อม( indirect injury )
การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับส่วนอื่นของร่างกายแล้วมีผลสะท้อน ทาให้เกิดการบาดเจ็บที่ศีรษะขึ้น
การผ่าตัดสมอง
Craniotomyคือการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะแล้วปิดกะโหลก การเปิดแล้วปิดมี 2 แบบ
Osteoplastic flapเปิดกะโหลกโดยชิ้นกะโหลกมีกล้ามเนื้อติดยึดระหว่างกะโหลกที่ตัดออกกับกะโหลกเดิม
Free bone flap เปิดกะโหลกออกจากที่เดิมทั้งชิ้น ปัจจุบันนิยมเปิดกะโหลกแบบนี้
Craniectomyคือ การผ่าตัดเปิดกะโหลกแล้วไม่ปิด มี 2ชนิด
Primary decompressive craniectomyเนื่องจากมีพยาธิสภาพที่ทำให้สมองบวมปิดกะโหลกไม่ได้(เช่น บาดเจ็บที่ศีรษะ
Secondary decompressive craniectomyเปิดกะโหลกเพื่อรักษาภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูงซึ่งไม่ตอบสนองต่อวิธีอื่น
Cranioplastyคือ การผ่าตัดปิดกะโหลกศีรษะในภายหลัง
Hydrocephalus หมายถึง การมีน้ำของสมองและไขสันหลัง (CSF)ถูกสะสมภายในกะโหลกศีรษะในปริมาณที่มากเกินเป็นเหตุนำไปสู่การเกิดสมองบวม (brain swelling)
การแบ่งชนิด
แบ่งตามการอุดตันทางเดินน้ำหล่อสมองไขสันหลัง
แบ่งตามพยาธิสรีรวิทยากลไกการเกิด
พยาธิสรีรวิทยา
น้ำหล่อสมองและไขสันหลัง ส่วนใหญ่สร้างจาก Choroid plexusมีส่วนประกอบคล้ายพลาสม่าต่างกันที่โปรตีนและเกลือแร่ต่ำกว่า สร้างประมาณวันละ 500ซีซี ( 0.35 ซีซี/นาที) ทาหน้าที่หล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังรองรับแรงกระแทก
การรักษา
การรักษาด้วยยา
ยาขับปัสสาวะ Acetazolamideช่วยลดการสร้างน้าหล่อสมองและไขสันหลัง ประมาณ 25-50%
การรักษาด้วยการผ่าตัด
การผ่าตัดใส่สายระบายน้าในโพรงสมองออกนอกร่างกาย
การผ่าตัดใส่สายระบายน้าในโพรงสมองสู่ช่องในร่างกาย ผ่าตัดใส่สายระบายจาก
ภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง(Increase intracranial pressure= IICP )
เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิด Secondary brain damage หากไม่ได้รับการช่วยเหลือทันท่วงทีผู้ป่วยอาจได้รับอันตรายถึงชีวิต
สาเหตุที่ทำให้เกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูง
มีการเพิ่มขนาดของสมองจาก
มีสิ่งกินที่ในสมอง ex. ก้อนเลือด ฝี เนื้องอก เส้นเลือดโป่งพอง
สมองบวม
การเพิ่มของเลือดที่ไปเลี้ยงสมองมากขึ้น
เส้นเลือดแดงในสมองขยาย
ได้รับยาขยายหลอดเลือดสมอง
เลือดดำไหลกลับไม่สะดวก
การเพิ่มของน้ำไขสันหลัง
มีความผิดปกติในการดูดซึม
มีการอุดตันของทางเดินน้าไขสันหลัง
มีการผลิตมากขึ้นจากมีเนื้องอกของ choroid plexus
กลไกการปรับชดเชย
Compesatory mechanism
ในกรณีมีการบาดเจ็บในที่ศีรษะรุนแรง จะเกิดพยาธิสภาพใต้กะโหลกศีรษะ (mass lesion) สมองจึงปรับปริมาตรส่วนอื่นให้ไหลออกจะกะโหลกศีรษะไปสู่ช่องไขสันหลัง เช่น Venous volume, CSFเพื่อคงความดันใต้กะโหลกศีรษะให้คงที่เรียกภาวะนี้ว่า Compensation
หากพยาธิสภาพในกะโหลกศีรษะมีการเพิ่มขึ้นของปริมาตรอย่างรวดเร็ว และสมองไม่สามารถปรับปริมาตรส่วนอื่นได้ทันทีหรือไม่เพียงพอต่อการคงความดันในกะโหลกศีรษะได้ ทาให้ความดันใต้กะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปัจจัยที่สำคัญที่มีอิทธิพลต่อการไหลเวียนเลือดของสมอง
ปัจจัยภายนอกหลอดเลือด
ปัจจัยเมตาบอลิซึม (metabolism factor) ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์และ ออกซิเจน
กลไก Autoregulation
Pressure autoregulation mechanism
อยู่ที่ smooth muscle reflex ของหลอดเลือด arterioles ซึ่งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงความดันในกะโหลกศีรษะและแรงดันเลือด มีผลทำให้ arterioles หดหรือยืดขยายได้
Metabolic autoregulation
ตอบสนองจากเมตาบอลิซึม ซึ่งเป็นสาเหตุให้หลอดเลือดสมองยืดหรือขยายได้ ตามการเปลี่ยนแปลงระดับความเข้มข้นของ O2 และ CO2 ในเลือด
อาการและอาการแสดง IICP
ผู้ป่วยจะเริ่มสับสน ง่วงซึม กระสับ กระส่าย มีความลำบากในมีการรับรู้ที่ผิดเมื่อความดันเพิ่มขึ้นผู้ป่วยจะอยู่ในภาวะ stupor และโคม่า ในระยะสุดท้ายจะไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นด้วยความเจ็บปวด และอยู่ในระยะโคม่าลึก (deep coma)
อาการและอาการแสดงที่เกิดจากการสูญเสียหน้าที่ของสมองเฉพาะที่
การชัก
การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
ผิดปกติในการพูด
อาการและอาการแสดงที่เกิดจากการเลื่อนของสมอง
ภาวะสมองเคลื่อน (cerebral herniation)
เป็นภาวะที่เนื้อสมองเคลื่อนสู่บริเวณอื่นที่ไม่ใช่ตาแหน่งที่ตั้งตามปกติภายหลังที่ไม่สามารถปรับสมดุลภายในกะโหลกศีรษะได้ต่อไป เนื่องจากการมีก้อนเลือดหรือสิ่งกินที่
Central herniation ซึ่งมีอาการตาเหล่เข้าด้านในจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 6 ถูกกด ซึมลงจนหมดสติ
Uncal herniation เกิดจาก temporal lobe ถูกดันผ่าน tentorial notch
มีการเคลื่อนของสมองใหญ่ซีกหนึ่งไปยังซีกตรงข้ามที่มีแรงดันน้อยกว่า
บริเวณช่องใต้กะโหลก ( foramen magnum )
อาการและอาการแสดง
การเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพ
การหายใจ อัตราการหายใจช้าลง ไม่สม่ำเสมอ
การไหลเวียนเลือดผิดปกติ มีการลดของ CBF และสมองต้องปรับตัวเพิ่มความดัน
อุณหภูมิจะเพิ่มถึง 39-40 องศาเซลเซียส
อาการปวดศีรษะ
อาเจียนหรือสะอึก
การชัก
การอ่อนแรงและการมีอัมพาตของกล้ามเนื้อ
ขั้วประสาทตาบวม
การรักษา
การผ่าตัด เพื่อลดสิ่งที่เบียดสมอง
ลดความดันภายนอกโดยการผ่าตัดทำ Decompressive Craniectomy
ลดความดันภายในโดยการทา Ventricular drainage ในผู้ป่วยที่มี hydrocephalus
การรักษาด้วยยา
กลุ่ม osmotic diuretics เช่น mannitol 20% และ 25% (0.25 g/kg) โดยยับยั้งไม่ให้ไตดูดน้า เกลือแร่ในปัสสาวะกลับเข้าสู่ร่างกาย
Glucocorticoids เป็นยาช่วยลดสมองบวม ที่นิยมใช้คือ Dexametasoneให้ทางหลอดเลือดดำ
Anticonvulsant ยากันชัก จะช่วยควบคุมและป้องกันการชักที่อาจเกิดขึ้น ยาที่นิยมให้ ได้แก่ Phenytonin(Dilantin)
Nonosmoticdiuretic ได้แก่ กลุ่ม loop diuretics Lasix เพื่อดึงโซเดียมและน้ำออกจากบริเวณที่บวม เพื่อลดภาวะสมองบวม
Babiturateใช้ในรายที่มี IICP รุนแรง
การดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะ IICP
หลีกเลี่ยงการผูกยึดผู้ป่วย
ลดอุณหภูมิในร่างกาย
ป้องกันการเกิด valsavamaneuver
ลดสิ่งกระตุ้นที่ไม่จำเป็น
การจัดท่า จัดท่าศีรษะสูง 30 องศา
ดูแลความสมดุลของสารน้ำและอิเลคโทรลัยท์
ดูแลให้ยาตามแผนการรักษาของแพทย์
การดูแลเมื่อผู้ป่วยใส่เครื่องวัดความดันในกะโหลกศีรษะ
การดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง
ดูแลทางด้านจิตใจ
ประเมินอาการทางระบบประสาท GCS ทุก 15 นาที